ศิลปินหญิง ผู้เขย่าค่านิยมของสังคมด้วยศิลปะจากจิ๋ม / อะไร(แม่ง)ก็เป็นศิลปะ : ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์

ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์

อะไร(แม่ง)ก็เป็นศิลปะ

ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์

 

ศิลปินหญิง

ผู้เขย่าค่านิยมของสังคม

ด้วยศิลปะจากจิ๋ม

 

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บ้านเรามีข่าวคราวเกี่ยวกับนักผลิตคอนเทนต์วาบหวิวสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป หรือเรียกกันว่า “เซ็กซ์ครีเอเตอร์” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่าบรรดาเซ็กซ์ครีเอเตอร์สาวๆ หลายคน ที่เปิดเผยอวัยวะซ่อนเร้นเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ต่างถูกเจ้าหน้าที่รัฐแจ้งความดำเนินคดีกันถ้วนหน้า

แถมยังถูกผู้มีศีลธรรมอันดีในสังคมออกมาด่าทอประณามหยามเหยียดกันเอิกเกริก จนบางคนต้องเปลี่ยนอาชีพ หรือแม้แต่ต้องหลบลี้ไปอยู่ต่างแดนกันเลยก็มี

เหตุการณ์ที่ว่านี้ทำให้เราอดนึกไปถึงศิลปินหญิงคนหนึ่ง ผู้ใช้อวัยวะซ่อนเร้นของเธอสร้างผลงานศิลปะสุดแสนท้าทายที่เขย่าต่อมศีลธรรมของสังคมญี่ปุ่นให้สั่นคลอนจนต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายไม่ได้

ศิลปินผู้นั้นมีชื่อว่า

เมกุมิ อิการาชิ (Megumi Igarashi)

หรือที่รู้จักกันในฉายา “โรคุเดนะชิโกะ” (Rokudenashiko) ที่แปลว่า “ยัยเด็กเหลือขอ” หรือ “ยัยเด็กสารเลว” ประติมากรและศิลปินมังงะ (การ์ตูนช่อง) ชาวญี่ปุ่น ผู้เป็นที่รู้จักจากการทำงานศิลปะที่ใช้อวัยวะเพศหญิง ที่เรียกกันแบบสุภาพว่า “โยนี” หรือที่เรียกกันแบบบ้านๆ ว่า “จิ๋ม” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จิ๋มของเธอเอง เป็นต้นแบบในการสร้างผลงานขึ้นมา

โรคุเดนะชิโกะมองว่าภารกิจของเธอคือการทวงคืนสิทธิ์ของจิ๋ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายผู้หญิง

และมาดหมายในการเปิดเผยให้จิ๋มเป็นที่ถูกมองเห็นอย่างโดดเด่นชัดเจนในสังคมชายเป็นใหญ่ของญี่ปุ่น เพราะเธอมองว่า ที่ผ่านมา สังคมญี่ปุ่นมักปกปิดแอบซ่อน จิ๋ม และทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามและลามกอนาจาร เมื่อเทียบกับการนำเสนอภาพขององคชาติหรือ “จู๋” ของเพศชาย

โรคุเดนะชิโกะ กับผลงานศิลปะจากจิ๋มของเธอ, ภาพโดย Alex Lozupone, ภาพจาก https://bit.ly/3GXwDqu

แรกเริ่มเดิมที อิการาชิไม่ได้ร่ำเรียนมาทางสายศิลปะ หากแต่เรียนในสายปรัชญา หลังจากเรียนจบ เธอผันตัวมาทำงานเป็นนักวาดการ์ตูนในแวดวงมังงะ และประสบความสำเร็จถึงขั้นได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่จากสำนักพิมพ์โคดันชะ ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมมังงะของญี่ปุ่น ในปี 1998

แต่ถึงกระนั้น เธอก็รู้สึกท้อแท้เหนื่อยหน่ายจากการแข่งขันที่สูงมากในวงการการ์ตูนญี่ปุ่น ที่พึ่งพาการวัดผลด้วยเรตติ้งจากการสำรวจความคิดเห็นผู้อ่าน จนกระทั่งเธอได้มาพบกับสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์การ์ตูนแบบเรียลลิตี้ ที่มุ่งเน้นในการใช้ประสบการณ์จากชีวิตจริงเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนการ์ตูน โดยเขียนเรื่องราวจากสายตาของนักเขียน

ซึ่งเธอกล่าวในภายหลังว่าการวาดการ์ตูนในลักษณะนี้เป็นพื้นฐานของงานประติมากรรมของเธอในเวลาต่อมา

ผนวกกับการที่เธอเติบโตในประเทศญี่ปุ่น ที่ซึ่งอวัยวะเพศหญิงหรือจิ๋ม มักถูกเซ็นเซอร์และตีตราให้มีมลทิน เธอกล่าวว่าเธอไม่เคยเห็นจิ๋มของผู้หญิงคนอื่นเลย และไม่รู้ว่าจิ๋มควรจะมีหน้าตาเป็นยังไง เพราะเธอถูกทำให้เชื่อมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าจิ๋มของเธอเป็นสิ่งประหลาด และเป็นเรื่องน่าอับอายที่จะสำรวจตรวจสอบจิ๋มของตัวเอง

เมื่อโตขึ้นและกลายเป็นศิลปิน เธอจึงตัดสินใจทำแม่พิมพ์หล่อปูนปลาสเตอร์ขึ้นจากจิ๋มของเธอเอง เพื่อทำความเข้าใจว่าแท้จริงแล้ว จิ๋มมีหน้าตาเป็นยังไง และเริ่มต้นทำงานศิลปะจากแม่พิมพ์ที่ว่านี้

เธอกล่าวว่า ผู้หญิงควรจะสามารถพูดถึงเรือนร่างของตัวเองได้โดยปราศจากความอับอาย และยืนยันว่า จิ๋ม ควรจะถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายไม่ต่างจากอวัยวะส่วนอื่นอย่างแขนหรือขา เธอปรารถนาที่จะทำให้การพูดถึงและการแสดงออกเกี่ยวกับจิ๋มอย่างเปิดเผย กลายเป็นอะไรที่ธรรมดาสามัญและเป็นที่นิยมในสังคม

 

เธอประกาศว่า

“ในเมื่อประเทศญี่ปุ่นปฏิบัติต่อจิ๋มให้กลายเป็นอะไรที่ถูกปกปิดซ่อนเร้นให้อยู่ใต้ดิน (หรืออันที่จริง ‘ใต้ร่มผ้า’) ฉันก็จะทำให้จิ๋มกลายเป็นสินค้าในระบบอุตสาหกรรมเสียเลยก็แล้วกัน”

ด้วยเหตุนี้เธอจึงสร้างผลงานที่นำเสนอเรื่องราวของจิ๋มในรูปแบบอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดและประติมากรรมขนาดใหญ่ ไปจนถึงซีรีส์ประติมากรรมสามมิติขนาดเล็กที่มีชื่อว่า “Decoman” (ซึ่งเป็นการเล่นสลับคำกับคำว่า “มังโกะ” (manko) ซึ่งแปลว่า ‘จิ๋ม’ ในภาษาญี่ปุ่น) ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อย่าง สร้อยคอ, เคสไอโฟน, รถบังคับรีโมต, โคมไฟระย้า

เธอยังสร้างแคแร็กเตอร์การ์ตูนชื่อ “มังโกะจัง” (Manko-chan หรือ นางสาวจิ๋ม) โดยทำออกมาเป็นมังงะ ตุ๊กตา และชุดแฟนซีขนาดเท่าคนจริง ซึ่งเธอหมายใจจะให้กลายเป็นแคแร็กเตอร์ที่โด่งดังในกระแสวัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่น

ผลงานศิลปะเรือคายัครูปจิ๋ม, ภาพจาก https://bit.ly/3HXUebX

ผลงานที่ทำให้เธอโด่งดังอย่างอื้อฉาวที่สุดคือ เรือคายัครูปจิ๋ม ที่สร้างขึ้นโดยการสแกนภาพสามมิติจากจิ๋มของเธอเอง เธอทำโปรเจ็กต์นี้ผ่านการระดมทุน โดยเธอจะส่งอีเมลข้อมูลภาพดิจิตอลสามมิติของ “จิ๋มเรือคายัค” ของเธอให้กับผู้ที่ร่วมสมทบทุน

ผลจากการทำงานศิลปะชุดนี้ทำให้เธอถูกตำรวจควบคุมตัวและดำเนินคดีในข้อหาละเมิดกฎหมายอนาจารของญี่ปุ่น (ด้วยการส่งภาพสามมิติที่สแกนจากจิ๋มของเธอให้ผู้สมทบทุน) มีคนกว่า 21,000 คน ลงชื่อเรียกร้องรัฐบาลให้ปล่อยตัวเธอเป็นอิสระ

หลังจากอุทธรณ์สำเร็จ เธอก็ถูกปล่อยตัวในอีกสัปดาห์ให้หลัง

ตุ๊กตาจากแคแร็กเตอร์การ์ตูน Manko-chan, ภาพจาก https://bit.ly/3gOTt99

ในตอนแรกที่โรคุเดนะชิโกะทำงานศิลปะจากจิ๋มของเธอ เธอทำในแง่มุมที่สดใสร่าเริงเบิกบาน แต่หลังจากได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์และเสียงตำหนิติเตียนหนักข้อมากเข้า เธอจึงเริ่มใช้ผลงานศิลปะของเธอเป็นเสมือนหนึ่งแถลงการณ์และการประท้วงต่อต้าน โดยเธอเขียนในหนังสือที่บันทึกเกี่ยวกับการต่อสู้ทางกฎหมายของเธอว่า

หมอนรองคอเป่าลมจากแคแร็กเตอร์การ์ตูน Manko-chan, ภาพจาก https://bit.ly/3gOTt99

“ตั้งแต่ตอนที่ฉันเริ่มทำงานศิลปะเกี่ยวกับจิ๋ม ฉันต้องคอยต่อกรกับเหล่าบรรดาชายแก่ที่ก่นด่าประณามฉัน ฉันเลยตัดสินใจที่จะทำให้งานของฉันเป็นอะไรที่เหลวไหลไร้สาระและน่าขบขันด้วยท่าทีที่จริงจังอย่างถึงที่สุด ถึงแม้งานของฉันจะเริ่มจากการล้อเล่นขำขัน แต่ตอนนี้ฉันทุ่มเทให้กับการล้อเล่นขำขันด้วยการทุ่มทั้งตัว หัวใจ และวิญญาณ”

“เหตุผลที่งานของฉันเป็นอะไรที่สนุกสนานร่าเริง ก็เพื่อที่จะล้มล้างค่านิยมในแง่ลบเกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิงในสังคม และงานของฉันก็ได้รับการตอบรับที่ดี และมีผู้คนหลายคนที่สนับสนุนฉัน แต่สุดท้ายฉันกลับถูกแจ้งความและดำเนินคดี อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ ซึ่งฉันมองว่าเป็นอะไรที่โคตรจะไร้เหตุผลสิ้นดี แต่ในขณะเดียวกัน การที่ฉันถูกจับกุมและดำเนินคดี ก็มีข้อดีตรงที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากเกิดความตระหนักรู้ถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิง และสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งท้ายที่สุดก็เป็นสิ่งที่ดีแหละนะ”

ภาพการ์ตูนที่อิการาชิวาดเหตุการณ์ในขณะที่เธอกำลังขึ้นศาลพิจารณาคดี, ภาพจาก @6d745/Instagram

คดีความของโรคุเดนะชิโกะได้รับความสนใจไปทั่วโลก และปลุกกระแสเกี่ยวกับสิทธิสตรี, เสรีภาพทางศิลปะ, การเซ็นเซอร์ และความเหลื่อมล้ำสองมาตรฐานทางเพศในสังคมญี่ปุ่น

เพราะในขณะที่การนำเสนอภาพลักษณ์เกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิงถูกทำให้เป็นเรื่องต้องห้ามและผิดกฎหมายในสังคมญี่ปุ่น แต่ในขณะเดียวกันที่ญี่ปุ่นเองก็มี เทศกาลแห่ลึงค์ (Kanamara Matsuri) ที่แห่แหนรูปแทนของอวัยวะเพศชาย หรือ “จู๋” อย่างเอิกเริกครื้นเครงทุกปีเช่นเดียวกัน

สื่อมวลชนสากลบางสำนักตั้งคำถามเชิงสัพยอกว่า เป็นไปได้อย่างไรที่ประเทศที่เผยแพร่ภาพลามกอนาจารของเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะในการ์ตูน แต่กลับแจ้งความดำเนินคดีกับศิลปิน (ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว) ผู้แค่เชิญชวนให้คนสแกนภาพสามมิติจิ๋มของเธอ (ด้วยความยินยอมพร้อมใจ)?

จะว่าไป การที่สังคมชายเป็นใหญ่อย่างญี่ปุ่น หรือแม้แต่สังคมบ้านเรา เกิดอาการหวาดผวาตื่นตระหนกวิพากษ์วิจารณ์ก่นด่า ต่อต้านศิลปินผู้ทำงานศิลปะจากจิ๋ม หรือแม้แต่เซ็กซ์ครีเอเตอร์สาวๆ ผู้เปิดเผยเรือนกายเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ทั้งหลายอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช จนถึงขั้นใช้อำนาจกฎหมายแจ้งความจับกุมดำเนินคดี ก็อาจเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนเหล่านั้น หรืออันที่จริง เพศชายที่วางตัวเขื่องโขใหญ่โตในสังคมนั้นหวาดกลัวอำนาจของสตรีเพศ หรืออำนาจของจิ๋ม จนจู๋ เอ๊ย! จิตตก อกสั่นขวัญแขวนกันเป็นแถวๆ

ท้ายที่สุดแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อถึงวันหนึ่งที่ผู้หญิงตระหนักรู้ถึงอำนาจแห่งร่างกายและอวัยวะอันสำคัญยิ่งของตัวเองแล้ว

เมื่อนั้นพวกเธอก็อาจสามารถใช้มันเขย่าค่านิยมของสังคม หรือแม้แต่โลกทั้งใบก็เป็นได้

 

ข้อมูล https://bit.ly/3uQDSON, https://bit.ly/3uUV4CA, https://bit.ly/3rRwoJb