หนูสีดา ลุย ไฟ/สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

—————-

หนูสีดา ลุย ไฟ

————-

นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้ซึ่งกำลังเนื้อหอม

ยังคงพยายามไม่หลุดคอนเซ็ปต์ “มุ่งสู่กลาง”

โดยเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชู วรรณคดีรามเกียรติ์ กลางสภา เปรียบตนเป็นพระราม แล้วยกทศกัณฐ์ให้ผู้นำฝ่ายค้านไป

ผู้สื่อข่าวไปถามนายอนุทิน ว่าจะเป็นตัวละครใดในวรรณคดีนั้น

นายอนุทิน บอกว่า เป็นนางสีดา ในแนวคอนเซ็ปต์กลางๆ อย่างที่ว่า

น่ารัก น่าเอ็นดู อย่างไรในสายตาคนดู ก็ว่ากันไปตามสะดวก

แต่กระนั้น เกิดมาเป็นคนกลางอย่างนางสีดา ดูเหมือนเป็นกรรม

เพราะนอกจาก ต้องตกเป็น”เหยื่อ”ถูกยื้อแย่งแล้ว

หลัง พระรามเสร็จศึกสงครามกับทศกัณฐ์ แทนที่จะได้รับความสุขสบาย

กลับยังต้องมาเผชิญความสงสัยจากพระราม ใน”ความบริสุทธิ์”เนื่องจากอยู่กับทศกัณฐ์มาเป็นเวลานาน เสียอีก

ซึ่งหาก เป็นหญิงยุคในปัจจุบัน คงมีเสียงเชียร์กระหึ่มให้เดินสะบัดป็อป จากฝ่ายชาย ที่ดูเหมือนจะเอาแต่ได้

แต่ตามขนบเดิม ทางออกของนางสีดา ไม่มีอะไรดีไปกว่า การเล่นบทเสียสละต่อไป

ด้วยการขอพิสูจน์ “ความบริสุทธิ์”ด้วยการลุยไฟ

แถมไฟนั้น ยังให้พระรามเป็นผู้จุด โดยให้ แผลงศรออกไปเป็นเพลิงโชติช่วง ด้วย

และมิได้ทำเฉพาะในวงจำกัด

หากแต่ประชุมเทพ และเทวดา มาเป็นพยานในพิสูจน์ความบริสุทธิ์เสียอีก

ต้องกล่าวคำสาบาน หากตัวไม่บริสุทธิ์ก็ของให้ไฟนั้นผลาญชีวิตให้ตายลง แต่หากบริสุทธิ์ก็ขอให้ไม่เป็นไร

แม้ที่สุดนางสีดารอดมาได้

แต่กว่าจะได้ขึ้นมานั่งร่วมพระแท่นให้พระราม ยอกรลูบหลังแล้วพิศพักตร์/พระนุชนาฏแน่งน้อยดวงสมร/แสนสุขแสนสวัสดิ์สถาวร/ภูธรแย้มยิ้มพริ้มพราย ก็แสนเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ

การเป็น “กลางๆ”แบบ นางสีดา หรือแบบ”ตาอยู่”เพื่อ หยิบชิ้นปลามัน จึงใช่จะสบาย

อย่างที่เราเห็น เมื่อนายอนุทิน นำ 7 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ไม่เข้าประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อสกัดรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่นำไปสู่การตีความว่าพรรคภูมิใจไทย กำลังจะกลายเป็นอื่นกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สูญเสียจุดสมดุล”กลางๆ”

ทำให้ไม่กี่วันต่อมาสังคมต้องเล่นบท “หนู ช่วย ราชสีห์” ไปเสริมความ”เหนียว” ให้เก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ด้วยกระแสข่าวที่ระบุว่า มีการกางโผส.ส. 260 เสียง พร้อมจะเป็นกองหนุนพล.อ.ประยุทธ์

ตัวเลข 260 เสียง นี้เกินกว่าเสียงส.ส.ฝ่ายรัฐบาล จึงเกิดเสียงวิจารณ์กระหึ่มเรื่อง “ส.ส.ฝากเลี้ยง” ในฝ่ายพรรคฝ่ายค้าน ถือเป็น”ทีเด็ด”ของฝ่ายพยายามเป็นกลางๆที่น่าทึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเกิดปรากฏการณ์ “หนู เปล่านะเขามาเอง” เมื่อ 3 ส.ส.กลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผละมาซบ พรรคภูมิใจไทย กลายเป็นเสียงหนุน”ราชสีห์”เพิ่งขึ้นมาอีก 3 เสียง

สิ่งเหล่านี้ ทำให้มีเสียงไม่พอใจจากฝั่งฟาก”ทศกัณฐ์”ฉบับดูไบ

เมื่อ โทนี่ วู้ดซัม ออกมาเปิดโปงเรื่อง วัคซีนเข็มละ 20-30 ล้าน และ เงินรายเดือน อีกเดือนละ 2 แสน

ซึ่งเกี่ยวพันกับ ตัวเลขส.ส. 260 คนหรือไม่ คงไม่ยากจะตีความ

แน่นอน เรื่องนี้ถูกนำไปถาม นายอนุทิน ก็ได้คำตอบว่าไม่ขอตอบโต้เพราะถือว่าโทนี่ วู้ดซัม เคยเป็นผู้มีพระคุณ

ซึ่งก็ไม่เหนือความคาดหมาย ของผู้ที่ยึดแนวกลางๆ ไม่พยายาม”แตกหัก”กับฝ่ายใด

ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า กระแสข่าวที่แม้จะยังไกลในตอนนี้คือการที่พรรคภูมิใจไทยอาจจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยในวันข้างหน้าก็ยังคงมีเชื้ออยู่

จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่นายอนุทิน พยายามแตะมือไว้กับทุกฝ่าย อันถือเป็นลักณะเด่นของพรรคๆนี้

เพียงแต่เหนื่อยหน่อย เพราะต้องเล่น”หลายหน้า”

ขณะเดียวกันยังต้องทำใจต้อง “ลุยไฟ” เพราะเมื่อเลือกเป็นคนกลางอย่าง นางสีดา ก็ต้องพิสูจน์ตัวกันหน่อย

—————–