อุ่นเครื่องโผทหาร ทัพ 1 กระเพื่อม ‘บิ๊กบี้’ ยื้อศึก จับตา ตท.28 จ่อยึด 4 กองพล ระอุชิงเจ้าบ้านเลขที่ 17 ทร. ‘นิ่ง’/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

อุ่นเครื่องโผทหาร

ทัพ 1 กระเพื่อม

‘บิ๊กบี้’ ยื้อศึก

จับตา ตท.28 จ่อยึด 4 กองพล

ระอุชิงเจ้าบ้านเลขที่ 17

ทร. ‘นิ่ง’

 

กองทัพเข้าสู่ฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายนายพลกลางปีแล้ว หลังผู้บัญชาการเหล่าทัพส่งบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายให้บิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา

โดยข้อตกลงของกองทัพไทยกับกลาโหม มีการปรับเปลี่ยนในขั้นตอนทางธุรการ เพราะเมื่อ ผบ.ทหารสูงสุดได้รับบัญชีรายชื่อแล้ว ก็จะส่งให้กระทรวงกลาโหมทันที โดยไม่ต้องนำมาเรียงลำดับรวม

เพราะขั้นตอนนี้ จะไปทำรวมกันทีเดียวกับในส่วนของสำนักปลัดกลาโหม และสำนัก รมว.กลาโหม

ในระหว่างนี้ จะเป็นช่วงที่มีการเขย่าปรับเปลี่ยนได้ ก่อนที่จะกำหนดวันประชุม 7 เสือกลาโหม คณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายพลของกลาโหม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

พันเอก ณัฐเดช จันทรางศุ
พลตรี วรยส เหลืองสุวรรณ

แม้ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลกลางปี จะไม่ค่อยมีการขยับในตำแหน่งสำคัญมากนักก็ตาม

แต่ที่ ทบ.ก็มีเรื่องวุ่นๆ กรุ่นๆ หลังมีข่าวว่า บิ๊กหลอด พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ รองแม่ทัพภาคที่ 1 จะได้ขยับขึ้นพลโท หลังจากที่ถูกลืมในโผตุลาคมที่ผ่านมา จึงทำให้นั่งเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ยาวถึงปีครึ่ง

แต่หาก พล.ต.ฐกัดขยับ จึงทำให้ถูกจับตามองว่า บิ๊กรุณ พล.ต.กันตพจน์ เศรษฐรัศมี รองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นเตรียมทหาร 24 ด้วยกัน น่าจะได้ขยับขึ้นพลโทด้วยเช่นกัน

และอาจกล่าวได้ว่า เป็นจังหวะการผ่องถ่ายระดับรองแม่ทัพภาคที่ 1 จาก ตท.24 เป็นรุ่นใกล้เคียงกัน

เพราะเดิมรองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็น ตท.24 สองคน และมีบิ๊กปู พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 น้องเล็กสุด

ดังนั้น ในโผนี้ จึงคาดว่าจะมีการขยับระดับผู้บัญชาการกองพล ที่เป็น “ทหารคอแดง” ขึ้นมา และคาดกันว่า บิ๊กใหญ่ พล.ต.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) ผบ.พล.ร.2 รอ. สายทหารเสือราชินี สายตรง พล.อ.ประยุทธ์ จะขยับขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 เข้าไลน์ชิงแม่ทัพภาคที่ 1 ในอนาคต

แต่หาก พล.ต.อมฤตได้ขยับ จึงมีการคาดกันว่า บิ๊กตั้ง พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผบ.พล.ร.11 (ตท.27) ที่เป็นแคนดิเดตแม่ทัพภาคที่ 1 ในอนาคตด้วย ก็อาจจะได้ขยับขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อไม่ให้ได้เปรียบเสียเปรียบกันในเรื่องอาวุโส แม้ว่าจะเพิ่งย้ายมาเป็น ผบ.พล.ร.11 ได้แค่ 6 เดือนก็ตาม แต่ก็เป็น ผบ.มทบ.11 มาก่อนแล้ว

เพราะ พล.ต.ธวัชชัยที่ถูกมองว่าเป็นสายตรงบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ก็ถือเป็นตัวเต็งแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ.ในอนาคต

ทั้งนี้เพราะในการแต่งตั้งโยกย้ายปลายปีนี้ จะต้องมีการเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพน้อยที่ 1 ใหม่ โดยคาดกันว่า แม่ทัพโต พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 2 (ตท.23) จะขึ้น 5 เสือ ทบ. ไปเป็น ผช.ผบ.ทบ. แล้วให้บิ๊กหนุ่ย พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.24) ขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 แทน เข้าไลน์สู่เก้าอี้ ผบ.ทบ.ในอนาคต

ดังนั้น หาก พล.ต.อมฤต และ พล.ต.ธวัชชัย ได้ขยับขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ในโผนี้ ก็จ่อชิงพลโท แม่ทัพน้อยที่ 1 ในโผหน้า เดือนกันยายน แน่นอนว่าหากใครขึ้นแม่ทัพน้อยที่ 1 ก่อน ก็จะได้เปรียบในการขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คอแดงคนถัดไป

พลตรี อมฤต บุญสุยา
พลตรี สราวุธ ไชยสิทธิ์

แต่เมื่อจะมีขยับ ผบ.พล.ร.2 รอ. ปัญหาก็ตามมาทันที ในศึกชิงเก้าอี้ ผบ.พล.ร.2 รอ.คุมบูรพาพยัคฆ์คอแดง

หากมองไปที่คนในที่จ่ออยู่ ก็มีรองเสก พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. จ่อคิวอยู่ เพราะเติบโตมาจาก ผบ.ร.12 รอ. และเป็น ตท.28 รุ่นที่กำลังมาแรงในสายพระราม 5

แต่กระแสข่าวจากใน ตท.28 กลับเสียงแตก ไม่หนุน พ.อ.เสกสรรค์ขึ้น ผบ.พล.ร.2 รอ. ด้วยเหตุที่เป็นคนรักสันโดษ ไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับเพื่อนเท่าใดนัก อาจเรียกได้ว่า บ้างาน

จึงทำให้ในบรรดาแกนนำรุ่น ผลักดันให้เพื่อนร่วมรุ่น ตท.28 คนอื่นเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.แทน

จึงมีชื่อรองแอ้ม พ.อ.ณัฐเดช จันทรางศุ รอง ผบ.พล.1 รอ. เป็นแคนดิเดตอีกคน แต่ทว่า พ.อ.ณัฐเดชไม่เคยอยู่ พล.ร.2 รอ. แต่เติบโตมาจาก ร.11 รอ. เคยเป็นผู้หมวดใน ร.11 พัน 2 รอ. ก่อนที่ต่อมาชีวิตหักเหไปอยู่ดุริยางค์ ทบ. และไปเป็นรอง ผบ.มทบ.11 และได้มาเป็นทหารคอแดง รอง ผบ.พล 1 รอ.เมื่อโผที่ผ่านมา

หากไปเสียบเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์

พลตรีธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล
พลตรี ฐกัด หลอดศิริ

แกนนำรุ่น ตท.28 จึงผลักดันให้บิ๊กไก่ พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ ผบ.พล.1 รอ. ที่เคยอยู่ พล.ร.2 รอ. ย้ายระนาบจาก ผบ.พล.1 รอ. มาเป็น ผบ.พล.2 รอ.แทน เพื่อเปิดทางให้ พ.อ.ณัฐเดชขึ้นเป็นพลตรี เป็น ผบ.พล.1 รอ.แทน

แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า ตำแหน่ง ผบ.พล.1 รอ. เป็นกำลังหลักของ ฉก.ทม.รอ.904 จึงไม่ใช่จะจัดวางกันได้ง่ายๆ เพราะในสายพระราม 5 ยังต้องการให้ พล.ต.วรยสเป็น ผบ.พล.1 รอ.ต่อไป

จึงมีการมองไปถึงแกนนำรุ่นคนสำคัญอย่างบิ๊กกอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.มทบ.11 ที่แม้จะเติบโตมาจาก พล.1 รอ. และ พล.ร.9 ไม่เคยอยู่ พล.ร.2 รอ.ก็ตาม แต่ก็อยู่ในลิสต์ที่แกนนำรุ่นเสนอให้บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.พิจารณา เพราะเป็นที่รู้กันว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์เป็นสายพระราม 5 และสนิทสนมกับแกนนำรุ่น ตท.28 แต่ก็คงต้องยึดหลักการและความเหมาะสม ที่ทำให้ พ.อ.เสกสรรค์มีความชอบธรรมมากที่สุด

สำหรับ พล.ต.สราวุธนั้นต่อคิวที่จะไปเป็น ผบ.พล.ร.9 ต่อจาก พล.ต.บรรยงค์ ทองน่วม หากมีการขยับมากกว่า

อีกทั้งหากโผนี้ พล.ต.ธวัชชัยขยับขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ก็มีโอกาสที่ พล.ต.สราวุธ แกนนำ ตท.28 ที่เป็นความหวังของรุ่น ที่จะผลักดันให้เป็น ผบ.ทบ.ในอนาคต จะย้ายระนาบไปเป็น ผบ.พล.ร.11 หลังจากที่พลาดไปเมื่อโผที่แล้ว ที่เป็นการวัดพลังของสายพระราม 5 กับสายของ พล.อ.อภิรัชต์มาแล้วครั้งหนึ่ง

แต่หากมีการเปลี่ยนสาย ขยับในโผนี้ จาก พล.ร.2 รอ. มาที่ พล.ร.11 แล้ว พล.ต.สราวุธขยับนั่ง ผบ.พล.ร.11 ก็คาดว่า ตท.28 จะส่ง พ.อ.ณัฐเดชไปเป็นพลตรี นั่ง ผบ.มทบ.11 แทน เพราะเคยเป็นรอง ผบ.มทบ.11

อย่างไรก็ตาม หากใน ตท.28 ตกลงกันเองไม่ได้ เช่นนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์อาจยืดเวลาการตัดสินใจออกไปอีก 6 เดือน อาจยังไม่ขยับ ผบ.พล.ร.2 รอ. หรือ ผบ.พล.ร.11 ในโผนี้

พลตรี กันตพจน์ เศรษฐรัศมี
พันเอก เสกสรรค์ พรหมศักดิ์

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มีรายงานว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ตัดสินใจที่จะยังไม่ขยับรองแม่ทัพภาคที่ 1 คนใดเลย เพื่อที่จะได้ไม่เกิดแรงกระเพื่อม โดยจะให้ พล.ต.ฐกัด และ พล.ต.กันตพจน์ นั่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 ต่อไป

และจะทำให้ พล.ต.กันตพจน์ สายทหารม้าคอแดง มีความชอบธรรมความอาวุโส จ่อเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 ต่อจาก พล.ท.ธราพงษ์ในโยกย้ายกันยายนนี้ได้ แม้ว่า พล.ต.กันตพจน์จะเป็นม้านอกสายตา เพราะเป็นทหารม้า ส่วนใหญ่ที่เป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 1 จะเป็นเหล่าทหารราบ

จึงทำให้การโยกย้ายครั้งหน้าจะมีแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นทหารราบ คอแดง และแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นทหารม้าคอแดง เพื่อนร่วมรุ่น ตท.24 ด้วยกัน

แต่โผหน้าจะมีการขยับชุดใหญ่ไฟกะพริบกันเลยทีเดียว แม้จะเป็นการผ่องถ่ายอำนาจคุมกำลัง จาก ตท.27 ที่เป็น ผบ.กองพล ทั้ง พล.1 รอ., พล.ร.2 รอ. และ ผบ.พล.ร.9 มาสู่ ตท.28 และสะท้อนอนาคตที่ว่าในที่สุด ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็ตามกันทัน มาชิงเก้าอี้กันอีกในไม่ช้า

รวมถึงศึกชืงเก้าอี้ในบรรดา ตท.28 ด้วยกันเอง แต่มีเป้าหมายที่จะยึดทั้ง ผบ.พล.1 รอ. ผบ.พล.ร.2 รอ. ผบ.พล.ร.9 และ ผบ.พล.ร.11 และอาจรวมถึง ผบ.มทบ.11 ด้วย

ที่คาดว่า โผหน้า ไม่ว่าจะทหารคอเขียว หรือว่าคอแดง คงเกิดแรงกระเพื่อมตามมาไม่น้อย จากการขยับปรับเปลี่ยนตำแหน่ง

ขณะที่ บก.ทัพไทยกำลังถูกจับตามองศึกชิงเก้าอี้ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย (ผบ.ศรภ.) ที่คุมหน่วยข่าวกรองสำคัญ เปรียบเสมือนเป็นหน่วย CIA ของกองทัพไทย เพราะบิ๊กน้อย พล.ท.วัฒนะ พลจันทร์ ผบ.ศรภ. (ตท.21) จะเกษียณราชการ ก็ต้องขยับไปเป็นพลเอก

แม้ว่าตามสายงานแล้ว พล.ท.วัฒนะเสนอชื่อบิ๊กอ้อ พล.ต.ทวีศักดิ์ มณีวงศ์ (ตท.24) ที่เป็นรอง ผบ.ศรภ.อยู่ ขึ้นเป็น ผบ.ศรภ.คนใหม่ก็ตาม

แต่กลับมีข่าวสะพัดแรงมากว่า เสธ.มล พล.ท.วิมล คำอิ่ม (ตท.26) ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. ที่เคยเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกองทางทหาร (ผบ.ขกท.) หน่วยข่าวกรองสำคัญของ ทบ. จะข้ามมาเสียบยอด นั่งเจ้าบ้านเลขที่ 17 รามอินทรา

แต่หากย้อนดูไลน์ของ พล.ต.ทวีศักดิ์แล้ว เขาก็เพิ่งย้ายจากรอง ผอ.ศูนย์ประสานงานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน. มาเป็นรอง ผบ.ศรภ. เมื่อโยกย้ายเมษายน 2564 ก็เสมือนถูกวางตัวไว้เป็น ผบ.ศรภ.ต่อ เพราะ พล.ต.ทวีศักดิ์เคยเป็นรองเสนาธิการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (รองเสธ.นสศ.) เป็นทหารหมวกแดงรบพิเศษ เช่นเดียวกับ พล.ท.วัฒนะ

แต่ชื่อ พล.ท.วิมล มือข่าว ขกท.ก็มาแรง อาจด้วยเพราะเป็นแกนนำรุ่น ตท.26 ที่มีบทบาทในหลายด้าน อีกทั้งปัจจุบัน มีบิ๊กซัน พล.ต.วณัฐ ลักษณสิริ แกนนำ ตท.28 เป็น ผบ.ขกท.ด้วย

อย่างไรก็ตาม หาก พล.ท.วิมลข้ามมาเป็น ผบ.ศรภ. ก็อาจต้องมีการขยับใหญ่ใน ศรภ. เพราะทั้ง พล.ต.ทวีศักดิ์ รอง ผบ.ศรภ. รุ่นพี่ ตท.24 และ พล.ต.จตุรพร สุนทรนนท์ รุ่นพี่ ตท.25 เสธ.ศรภ. ก็คงต้องถูกขยับไปนอกหน่วย

แต่เนื่องจากตำแหน่ง ผบ.ศรภ.นี้มีความสำคัญ พล.อ.เฉลิมพลจึงจะหารือร่วมกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ผบ.ทบ. และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ในการคัดเลือก ผบ.ศรภ.คนใหม่ เนื่องจาก ศรภ.เป็นหน่วยข่าวกรองของประเทศ ไม่ใช่ของกองบัญชาการกองทัพไทยหน่วยเดียว

ยิ่งประเทศไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพประชุม APEC 2022 ที่มีการประชุมย่อยตลอดทั้งปี และโดยเฉพาะผู้นำชาติต่างๆ จะมาประชุมที่กรุงเทพฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ ศรภ.เป็นหน่วยสำคัญในการดูแลความปลอดภัย ที่ต้องมีการเตรียมพร้อม และเป็นมืออาชีพ

ไม่แค่นั้น ศรภ.ยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องเข้มข้นขึ้น ในการถวายอารักขาสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ในการเสด็จพระราชดำเนินในการพระราชกรณียกิจต่างๆ ศรภ.จะต้องไปถวายอารักขารอบนอก เพราะมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านสถาบัน

นอกจากนั้น ยังมีชื่อบิ๊กสุ่น พล.ต.โฆษิต ชินวลัญช์ (ตท.23) ผบ.ศูนย์การกำลังสำรอง ทบ. เหล่าทหารม้า ที่เป็นอดีต ผช.ทูตทหารบก ประจำเวียงจันทน์ สปป.ลาว ด้วย เพราะเป็นทหารม้าเช่นเดียวกับ พล.อ.เฉลิมพล และ พล.อ.ชัยชาญ

แต่ชื่อของ พล.ท.วิมลคนนอกก็มาแรง แต่ทว่าทหารรบพิเศษที่กลายเป็นคนใน ศรภ.อย่าง พล.ต.ทวีศักดิ์ ก็มีแนวร่วมไม่น้อย แถมได้รับการเสนอชื่อจาก พล.ท.วัฒนะด้วย

แต่ท้ายที่สุดอยู่ที่ พล.อ.เฉลิมพลตัดสินใจ เพราะงานนี้คอนเน็กชั่นอาจไม่ใช่คำตอบ แต่ต้องฝีมือล้วนๆ

พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร.

ขณะที่กองทัพเรือยังคงนิ่งเพราะเป็นโผกลางปี จากที่เคยคาดกันว่า บิ๊กจอร์ช พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ (ตท.22) รองเสธ.ทหาร อาจจะได้ข้ามกลับมากองทัพเรือในโผนี้ แต่ก็ยังเงียบงัน อาจเป็นเพราะผิดประเพณีทัพเรือ ที่จะไม่ย้ายตำแหน่งหลักในโผกลางปี อีกทั้งไม่มีตำแหน่งรองรับ

เพราะบิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร.เองก็จะต้องมีเหตุผลในการตัดสินใจเช่นนั้น เนื่องจากใน ทร.มีแคนดิเดต ผบ.ทร.ถึง 4 คน ทั้งบิ๊กโต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ (ตท.21) รอง ผบ.ทร. ที่ครองอาวุโส และบิ๊กปู พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ (ตท.22) ผช.ผบ.ทร. บิ๊กแจ็ค พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ (ตท.23) เสธ.ทร. และบิ๊กวิน พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข (ตท.25) ผบ.กองเรือยุทธการ

แม้จะรู้ดีว่า พล.ร.อ.สมประสงค์มีปัญหาทางใจกับบิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร. ที่สกัดกั้นไม่ให้เขากลับ ทร.ช่วง 2 ปีที่บิ๊กลือเป็น ผบ.ทร. แล้ว ทั้ง พล.ร.อ.ธีรกุล พล.ร.อ.สุทธินันท์ และ พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ก็ถูกมองว่าเป็นคนที่ พล.ร.อ.ลือชัยวางตัวเอาไว้ จึงไม่ต้องการเลือกทั้ง 3 แคนดิเดตนี้ขึ้นเป็น ผบ.ทร. แม้จะมีความรู้ความสามารถ ผ่านตำแหน่งสำคัญกันมาในแต่ละสายงานแล้วก็ตาม แต่ก็อาจจะทำให้ความขัดแย้งในกองทัพเรือไม่จบสิ้น

ส่วน พล.ร.อ.สุวินยังมีอายุราชการถึงปี 2568 แม้จะมีความรู้ความสามารถ เดินมาตามเส้นทางเหล็กลูกประดู่ ในสายกำลังรบ และตามประเพณี ทร. ที่เป็นทั้งผู้การเรือ ผช.ทูตทหาร และ ผบ.หน่วยรบก็ตาม แต่ พล.ร.อ.สมประสงค์อาจมองว่า สามารถรอได้ จึงจะหา ผบ.ทร.มาขัดตาทัพก่อน แต่ไม่มีใครใน ทร. จึงมองไปที่ พล.ร.อ.เชิงชาย ซึ่งครอบครัวมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน

ดังนั้น กระแสข่าว พล.ร.อ.เชิงชาย จึงทำให้เกิดแรงกระเพื่อมใน ทร.ไม่น้อย แม้ตัว พล.ร.อ.สมประสงค์จะเคยถูกส่งไปเป็นรองปลัดกลาโหม และได้โยกข้ามกลับมาเป็น ผบ.ทร. นั่นก็เพราะอาวุโสสูงสุดในกลาโหม และไม่สามารถขึ้นเป็นปลัดกลาโหมได้ และมีเพื่อน ตท.20 อย่างทั้ง พล.อ.ณัฐ อินทร เจริญปลัดกลาโหมในเวลานั้น และบิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. เพื่อนรักในเวลานั้น วางแผนช่วยกัน

ส่วนกรณีของ พล.ร.อ.เชิงชายนั้น พล.ร.อ.สมประสงค์ก็อาจต้องมีเหตุผลรองรับ ไม่ใช่แค่เพราะแคนดิเดตที่มีอยู่ เป็นน้องรักของ พล.ร.อ.ลือชัย

 

ดังนั้น กองทัพเรือจึงมีโอกาสตั้งเข็มทิศเรือใหม่ สร้างประเพณีใหม่ที่จะต้องส่งนายทหารเรือที่จะเป็น ผบ.ทร. ไปเติบโตที่กลาโหม หรือกองทัพไทยเสียก่อน แล้วจึงค่อยข้ามกลับมาเป็น ผบ.ทร. ถือเป็นวิธีการตั้งเข็มทิศเรือให้ตรง

แต่ทั้งหมดนี้อาจเป็นแค่กระแสข่าวลือเท่านั้น เพราะ พล.ร.อ.สมประสงค์ยังไม่เคยมีทีท่าใดๆ ต่อเรื่องนี้ แม้จะเคยมีนักข่าวถาม แต่ พล.ร.อ.สมประสงค์ก็ไม่ได้ตอบรับ หรือปฏิเสธ แค่ยิ้มให้ตามสไตล์เท่านั้น จึงอาจถูกนำไปตีความจนเกิดกระแสใน ทร. เพราะ พล.ร.อ.สมประสงค์ก็ให้ความสำคัญในเรื่องความสามัคคีพี่น้องในกองทัพเรือเป็นสำคัญอยู่แล้ว

ดังนั้น แต่ละเหล่าทัพจึงพยายามโยกย้ายในโผกลางปีนี้ให้น้อยที่สุด เพราะยิ่งย้ายมาก ยิ่งวุ่นมาก

รอดูโยกย้ายสิงหาคม-กันยายน ที่ทั้งเปลี่ยนปลัดกลาโหม ผบ.ทร. ผบ.ทอ. และแม่ทัพภาค ผบ.พล. ใน ทบ. ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน กองทัพก็ยังต้องร้อนตามการเมืองไปด้วย

ทั้งๆ ที่กองทัพควรต้องนิ่งที่สุด เพื่อเป็นหลักในยามที่การเมืองวุ่นวาย เพราะบทเรียนในประวัติศาสตร์มีให้เห็นมาแล้วทั้งสิ้น