ฉลองเย้ยโอมิครอน (Omicron) ดูคอนเสิร์ต The Music of Queen/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

ฉลองเย้ยโอมิครอน (Omicron)

ดูคอนเสิร์ต The Music of Queen

 

วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2022 ที่ผ่านมา ผมมีงานเฉลิมฉลองที่ไม่กล้านำมาเล่า ต้องอุบเงียบนับนิ้วอยู่นานวัน เพราะโอมิครอนกำลังระบาด

ต้องคอยลุ้นว่าเราผ่านช่วงติดเชื้อไปแล้วหรือยัง

เรื่องของเรื่องก็คือ หลังจากการเก็บตัวใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านแทบจะตลอดปีที่กำลังจะสิ้นสุด ด้วยเกรงผลพวงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีที่กลายพันธุ์เป็นโอมิครอน (Omicron) และกำลังระบาดหนักทั่วอเมริกา

แต่ถึงกระนั้น เมื่อวาระขึ้นปีใหม่ จึงควรให้รางวัลตัวเองสักครั้งด้วยการฉลองปีใหม่ ผ่อนคลายความตึงเครียดที่กดดันมาตลอดปี

ผมเลือกฉลองปีใหม่ด้วยการเลี้ยงดินเนอร์ที่ร้านอาหารไทยในเขต West Reading ร้านนี้แต่เดิมเป็นของลูกสาวกับลูกเขย ต่อมาได้เซ้งให้คนไทยจากรัฐอื่นรับช่วงเข้ามาทำ ตัวเธอย้ายไปเรียนหนังสือที่รัฐเท็กซัส

คนข้างกายเป็นแลนด์ลอร์ดรับค่าเช่าร้านและค่าเช่าอพาร์ตเมนต์สองชั้นข้างบน

คนร่วมโต๊ะคือหลานสาวกับสามีอเมริกัน เขานำไวน์โลคอลที่เพื่อนชาวฟิลลี่หมักเองมาดื่มฉลอง รสไวน์กลมกล่อมมาก

อีกคนคือเพื่อนหญิงคนสนิทชาวโคลอมเบียนอเมริกัน

เป็นมื้อเย็นที่อร่อยกับอาหารไทย ร้านนี้มี “ข้าวซอย “อาหารเหนือ อร่อยใช้ได้

 

รีบอิ่มอร่อยมื้อเย็น แล้วยกขบวนรวมขับรถคันเดียว 5 คน ผ่านถนนกลางเมืองเรดดิ้งที่ประดับไฟบนเสาริมถนนเป็นรูปเกร็ดหิมะ (Snowflakes) ส่งประกายงดงามในแสงไฟถนนตลอดทาง

ตรงไปยัง Santander Performing Arts Center โรงคอนเสิร์ตเก่าแก่อายุร้อยกว่าปีของเมืองเรดดิ้ง เพื่อชมคอนเสิร์ตของวง Reading Symphony Orchestra (RSO) ในการแสดงร่วมกับ Windborne Production รายการ The Music of Queen เป็นการแสดง a Rock Symphony

หน้าโรงคอนเสิร์ตที่อยู่ในย่านเมืองเก่าของเรดดิ้งไม่มีที่จอดรถ ต้องวิ่งเลยไปอีก 2-3 บล็อก เข้าไปจอดในที่จอดรถหมอบริเวณคนไข้คลินิกโรงพยาบาล Penn State Health St. Joseph

เดินฝ่าลมหนาวในอุณหภูมิ 0 เซลเซียส บางช่วงลมหนาวพัดกรีดมาตามซอกตึก หนาวจับใจกว่าจะถึงโรงคอนเสิร์ต

โชว์ตั๋วชั้น Balcony ที่จองไว้ล่วงหน้า จึงได้ที่นั่งใกล้เวที จะได้ทัศนาให้เต็มที่

ผ่านตรวจตั๋วตรงปากประตูทางเข้า แล้วต้องผ่านเอ็กซเรย์ตรวจอาวุธเหมือนเข้าสนามบิน น้ำดื่มห้ามนำติดตัวเข้าไป ต้องไปซื้อที่ข้างใน

คอนเสิร์ตวันนี้เป็นรายการ The Music of Queen เล่นเพลงของวง Queen เป็นงาน a Rock Symphony with the Reading Symphony Orchestra

โดยทั่วไปที่ผ่านมา คนดูคอนเสิร์ต RSO ส่วนมากจะเป็นพวกซีเนียร์ แต่วันนี้มีคนหนุ่มสาววัยทำงานมาร่วมด้วยเพราะเป็นการแสดง a Rock Symphony

ทุกคนแต่งกายงดงามตามวัฒนธรรมการดูคอนเสิร์ต ผู้ชายแต่งสูท ผู้หญิงแต่งราตรีงามเต็มที่ ต้อนรับปีใหม่

สปอนเซอร์หลักของคอนเสิร์ตคือ โรงแรม Double Tree by Hilton READING และกิจการค้าอีกหลายแห่งของเมืองรวมทั้ง Sweet Street Deserts ร้านขนมหวานชื่อก้องโลกของเมืองเรดดิ้ง

เช่นเคยที่ก่อนการแสดง โฆษกประกาศขอให้ผู้ชมทุกคนสวม Masks โดยถ้วนทั่ว

 

ผู้อำนวยเพลง หรือ Conductor วันนี้เป็นผู้อำนวยเพลงรับเชิญชื่อ Brent Havens เขาเป็น Berklee-trained arranger / conductor เขาสำเร็จการเรียบเรียงเพลงและการอำนวยเพลงจากโรงเรียนดนตรี Berklee

Brent Havens แต่งเพลงให้ออร์เคสตรา, หนังเรื่องยาว และทีวีทุกชนิด รวมทั้งหนังทีวีในช่อง ABC, CBS, ABC Family, หนังโฆษณา, แต่งเพลงให้กีฬาช่อง ESPN รวมถึงหนังการ์ตูน

Brent Havens เคยทำงานกับ Doobie Brothers และ the Milwaukee Symphony เขาแต่งเพลงและอำนวยเพลงร่วมในงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดครบ 100 ปีของ Harley Davidson ท่ามกลางสาวก 150,000 คน

นอกจากนี้ Havens เคยทำงานกับวงออร์เคสตราที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เช่น the Royal Philharmonic in London, the Cincinnati Symphony Orchestra, the Minnesota Orchestra และวงอื่นๆ

Havens เป็นผู้เรียบเรียงเสียงประสานและเป็นผู้อำนวยเพลงรับเชิญให้กับการแสดง 21 symphonic rock programs ของวง Windborne ทั้ง 21 โชว์ เช่น The Music of Led Zeppelin, The Music of David Bowie, The Music of Pink Floyd, The Queen of Soul และอื่นๆ

รวมทั้ง a Rock Symphony ค่ำคืนนี้ : The Music of Queen ที่ Windborne เล่นกับ RSO

 

แฟนเพลงของ Queen ต้องยอมรับว่านี่คือ เพลงร็อกสุดขั้ว การจะนำเพลงร็อกระดับนี้มาเรียบเรียงเสียงประสานเล่นกับวงออร์เคสตรา 27 ชิ้น ให้ยังคงความเป็นร็อกสุดขั้วในสีสันของออร์เคสตรานั้น

คือผลงานของสุดยอดฝีมือ

วง Windborne เติบโตมากว่าหนึ่งทศวรรษจากนักดนตรีพื้นบ้าน 4 คนใน เขต New England อเมริกา พวกเขาเล่นเครื่องดนตรี 4 ชิ้น – Guitar, Bass, Keyboard และ Drums

พวกเขาเล่นเพลงพื้นบ้านอเมริกัน, Corsica, สาธารณรัฐ Georgia, Bulgaria, Quebec และเพลงแคว้น Basque

นักร้องนำของ Rock Concert ในค่ำคืนนี้คือ MIG Ayesa (ออกเสียง a-yes-ah) เขาเริ่มชีวิตนักแสดงใน Buddy ออสเตรเลีย แล้วผ่านเวทีลอนดอน เช่น a Royal Variety Performance for Queen Elizabeth II

MIG แสดงที่ West End ในเรื่อง We Will Rock You, Rent, Triller Love และ Seasons of Larson

ที่ Broadway MIG แสดงในเรื่อง Burn the Floor และ Rock of Age และเขาเดินทางแสดงทั่วในสหรัฐและฟิลิปปินส์

กลับมาออสเตรเลีย MIG แสดงละครอีกหลายเรื่องรวมทั้ง West Side Story

ในอังกฤษและออสเตรเลีย MIG เดินสายเปิดการแสดง The Music of Queen นอกจากนี้ ยังมี Rock Rhapsody และรายการ one man show ชื่อ MIG Rocks The Boat

นี่คือร็อกสุดขั้ว ดังนั้น MIG จึงทั้งร้องทั้งเต้นรอบเวที รวมทั้งนั่งร้อง นอนร้อง สารพัดบรรยากาศรุ่มร้อน คนดูไม่อาจนั่งนิ่งอยู่ได้ ทุกคนพากันยืน ปรบมือตามจังหวะ โบกมือ และเต้นอย่างสุดมัน ทั้งโรงกระหึ่มด้วยเสียงกรีดร้อง

ผมไม่ใช่ขาร็อกลึกซึ้ง จึงไม่ค่อยรู้จักเพลงของ Queen ที่นำเสนอเท่าไรนักครึ่งหลังมีเพลงช้า 2-3 เพลงที่เคยได้ยินบ้าง แล้วต่อด้วยเพลงเร็วที่คนดูทั้งโรงพร้อมใจกันลุกขึ้นมาเต้นอีก 2 เพลง

Rock Symphony ปิดรายการอำลาด้วยเพลงที่ผมรู้จักดี We Are The Champions คนดูลุกขึ้นเต้นทั้งโรง แผดเสียงร้องคำ “We Are The Champions” ดังกระหึ่มปานโรงคอนเสิร์ตจะถล่มทลาย

 

ขอบันทึกถึงหนังตุ๊กตาทองเรื่อง Bohemian Rhapsody ปี 2018 หนังเล่าประวัติชีวิต Freddie Mercury นักร้องนำวง Queen และการก่อกำเนิดของวง Queen อันโด่งดังของอังกฤษ

Mercury แต่งเพลงของวง Queen หลายเพลง : We Will Rock You, News of the World, Bohemian Rhapsody, A Night at the Opera, Somebody to Love, Killer Queen และ Don’t Stop Me Now

พ่อแม่ของ Mercury เป็นชาวเปอร์เชียนที่หลบหนีจากการเป็นมุสลิม เขาเกิดปี 1946 ที่เกาะ Zanzibar เกาะในเขตปกครองของอังกฤษที่แอฟริกา

Mercury เสียชีวิตปี 1991 จากโรค HIV ตอนอายุ 45 ปี

ผมรู้จักวง Queen ลึกซึ้งจากหนังเรื่องนี้

 

ราตรียังเยาว์ เพิ่งจะสี่ทุ่มครึ่ง เราย้ายมาดื่มที่บาร์ของ Double Tree by Hilton ฟังนักดนตรีบรรเลงขับร้องเพลง Jazz รอเวลาเคาต์ดาวน์ด้วยความรู้สึกเสียวไส้

เพราะทั้งห้องที่นั่งดื่มกินกันแน่นขนัดนั้น ไม่มีใครใส่ Masks เลยสักคน

ทีวีจอโปรเจ็กเตอร์ในห้องถ่ายทอดสดโชว์จาก Time Square ในนิวยอร์ก มีนักร้องเกาหลีวงหนึ่งมาโชว์ในงาน แสดงได้ดีทีเดียว ร้องเพลงเกาหลีด้วย ต้องยอมรับว่าวงเกาหลีโกอินเตอร์สมบูรณ์แล้ว ผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้เลยไม่รู้ว่าวงเกาหลีนี้ชื่ออะไร ตอนพิธีกรประกาศชื่อก็ฟังไม่ถนัดเพราะเสียงพูดคุยในห้องดังมาก

แล้วก็ถึงเวลา Countdown วงดนตรีทำเพลง Auld Lang Syne

ลาทีปีเก่า ลาแล้วโควิด-19 ขออย่าตามมากล้ำกรายอีกเลย

 

หมายเหตุ : หลังจากวันปีใหม่ กลับมานั่งนับนิ้วด้วยใจระทึกว่า เราจะรอดจากการติดเชื้อไหม ไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง จนวันนี้รอดผ่านมาได้ ต้องขอบอกว่า

มั่นใจในวัคซีนเป็นที่สุด