‘ฟอร์จูนเนอร์’ VS ‘เทอร์ร่า’ 2 ‘พีพีวี’ แต่งครบ-หรู-ไฮเทค / ยานยนต์ สุดสัปดาห์ : สันติ จิรพรพนิต

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

 

‘ฟอร์จูนเนอร์’ VS ‘เทอร์ร่า’

2 ‘พีพีวี’ แต่งครบ-หรู-ไฮเทค

 

นับวันรถปิกอัพดัดแปลง หรือ “พีพีวี” ดูอลังการงานสร้าง ทั้งการออกแบบภายนอก-ภายใน รวมไปถึงออปชั่นและระบบตัวช่วยไฮเทคต่างๆ

ล่าสุดเป็นคิวของโตโยต้า “ฟอร์จูนเนอร์” ออกรุ่นพิเศษ “COMMANDER” แบบลิมิเต็ด อิดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น

ครั้นจะนำเสนอเพียงลำพังก็ใช่ที่ เพราะเป็นเพียงรุ่นแต่งพิเศษ พาลนึกได้ว่าก่อนหน้านี้มีรถพีพีวี อีกรุ่นปรับโฉมแบบ “บิ๊กไมเนอร์เชนจ์” นั่นคือ “นิสสัน เทอร์ร่า”

พอมาเช็กราคาของรถทั้ง 2 รุ่น พบว่าใกล้เคียงกันมาก

อย่ากระนั้นเลย นำรถทั้ง 2 รุ่นนี้ที่ถือว่าเป็นการปรับโฉม 2 รุ่นล่าสุด มาเทียบข้อมูลให้แฟนานุแฟน ที่กำลังเมียงๆ มองๆ หารถพีพีวี ตัดสินใจง่ายขึ้น

เริ่มจาก “ฟอร์จูนเนอร์ COMMANDER” เด่นด้วยชุดตกแต่งกันชนหน้าและหลัง บันไดข้าง คิ้วตกแต่งฝาท้ายสีดำเงาพร้อมด้วยสัญลักษณ์ FORTUNER และหลังคาสีดำแบบทูโทน

ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์เลนส์แบบ Bi-Beam LED ควบคุมการเปิด-ปิดอัตโนมัติ ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home

ไฟท้าย LED Light Guide

ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ

ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว

ภายในเบาะหนังและวัสดุตกแต่งสีดำเดินตะเข็บด้ายสีแดง แบบหนังและหนังสังเคราะห์ ให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้น

พวงมาลัยทรงสปอร์ตระบบมัลติฟังก์ชั่นและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หุ้มหนังเดินด้ายแดงพร้อมลายไม้และแถบสีเงิน

ล้อไปกับหัวเกียร์หุ้มหนังและแถบสีเงินเช่นกัน

เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม T-Connect ส่งเสียงผ่านลำโพง 6 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา ส่วนแถว 2-3 ปรับแรงลมอัตโนมัติเช่นกัน

 

ขุมพลังเครื่องยนต์ 2.4 GD Super Power 4 สูบ 16 วาวล์ VN Turbo กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ระบบช่วงล่างปรับจูนใหม่ ให้ความนุ่มนวลมากขึ้น ออกแบบเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ

ด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และโช้กแอบซอร์บเบอร์ ส่วนด้านหลังโฟร์ลิงก์ คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และโช้กแอบซอร์บเบอร์

ครบครันด้วยฟังก์ชั่นสิ่งอำนวยความสะดวก และเพิ่มระบบความปลอดภัย

อาทิ กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)

ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)

ส่วนระบบมาตรฐานอื่นๆ มาให้ครบครัน

มีให้เลือก 2 สี Emotional Red Black Top และ White Pearl CS Black Top

ราคาเดียว 1,505,000 บาท

ส่วน “นิสสัน เทอร์ร่า” ปรับโฉมครั้งใหญ่แทบไม่เหลือเค้าเดิม ดีไซน์ตามแนวคิด “Unbreakable Design” สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง

กระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้น เส้นโครเมียมแนวนอนด้านในกระจังช่วยเสริมบุคลิกที่หรูหรา รับกับเส้นสายที่ต่อเนื่องจากฝากระโปรง

เสริมแผ่นกันกระแทกด้านล่างที่เป็นสีเงิน ตามสไตล์เอสยูวี

ไฟหน้า Quad LED 4 ดวง ดีไซน์ใหม่ให้ความสว่างมากขึ้นถึง 34% ตัวโคมไฟถูกดีไซน์ให้เพรียวบาง ดูปราดเปรียว

ไฟ Daytime Running Light ดีไซน์เด่น ไฟตัดหมอก LED ประสิทธิภาพสูงล้อมรอบด้วยแถบโครเมียมขนาดใหญ่ ให้แสงสีขาวที่เป็นธรรมชาติ ลดความร้อนแม้เปิดเป็นเวลานาน

ด้านท้ายออกแบบใหม่หมด ตั้งแต่สปอยเลอร์บนหลังคาจนถึงชายกันชนด้านล่าง ฝาท้ายเพิ่มความหรูหราด้วยการเติมวัสดุโครเมียม และชิ้นส่วนสีเงินมากขึ้น

ไฟท้ายลดความสูงเพิ่มความกว้างมากขึ้น แบบ LED Light Guide เส้นคู่ ไฟเบรกแบบ LED

ฝาประตูท้ายเปิด-ปิดระบบไฟฟ้า พร้อมเซ็นเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง เพียงแค่ยื่นเท้าเข้าหาบริเวณกึ่งกลางของกันชนประตูเปิดเอง พร้อมระบบป้องกันการหนีบเพื่อความปลอดภัย

ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว สีทูโทนแบบปัดเงา

ภายในเป็นอีกจุดเด่นของรถรุ่นนี้ใช้สีครีมตัดดำ ให้อารมณ์เอสยูวีหรูๆ

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-shape รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

คอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ให้สัมผัสนุ่ม

หน้าจอ Display Audio แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ปุ่มควบคุมต่างๆ ออกแบบใหม่พร้อมไฟเรืองแสงสีขาว

ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bose Premium Audio System ลำโพงทั้ง 8 ตำแหน่ง และแอมปลิฟายเออร์

เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย (Wireless Apple CarPlay) มีเทคโนโลยี NissanConnect ที่เชื่อมต่อสมาร์ตโฟนกับ Apple CarPlay และ Android Auto

มีระบบนำทาง (Navigation System) และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition)

ติดตั้งจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 11 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติแยกการควบคุมอุณหภูมิ มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารทั้ง 3 แถว

คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่พร้อมเบรกมือไฟฟ้า

พิเศษสุดในเซ็กเมนต์ เพิ่มฉนวนลดเสียงรบกวน ติดตั้งกระจกตอนหน้าและประตูคู่หน้าแบบ Acoustic Glass เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก

“Intelligent Rear View Mirror” ครั้งแรกของเซ็กเมนต์ ติดกล้องความละเอียดสูงที่กระจกบานหลัง ปรับมุมมองได้ตามความต้องการของผู้ขับ เพิ่มความชัดเจนแม้มีผู้โดยสารตอนหลัง หรือสัมภาระขนาดใหญ่ ให้มุมมองที่กว้างกว่ากระจกมองหลังทั่วไป

 

เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร

เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมแมนวลโหมด ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน “360 Safety Shield”

อาทิ กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) เอกลักษณ์ของค่ายนี้อยู่แล้ว

ส่วนรุ่น 4WD เพิ่มระบบ Off-Road Mode เมื่อเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพิ่มมุมมองรอบตัวรถขณะขับขี่ ทำงานร่วมกับ Parking Sonar ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ที่กันชนหน้า 4 จุด และกันชนหลัง 4 จุด

เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ฯลฯ

นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เริ่มต้น 1,199,000 บาท

ส่วนรุ่นที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับฟอร์จูนเนอร์ คงต้องยกให้รุ่นท็อป ขับเคลื่อน 4 ล้อ สนนราคา 1,499,000 บาท