ทางรอดอยู่ในครัว : อาหารคือเหตุผลและคำตอบ / ครัวอยู่ที่ใจ : อุรุดา โควินท์

ครัวอยู่ที่ใจ

อุรุดา โควินท์

 

ทางรอดอยู่ในครัว

: อาหารคือเหตุผลและคำตอบ

 

ฉันเคยสงสัยว่า ฉันเอาวินัยและความเป็นระเบียบมาจากไหน มันเป็นคุณสมบัติที่ต่างจากแม่และน้อง นั่นทำให้หนึ่งวันของฉันกระชับรัดกุมกว่าพวกเขา

ไม่น่าเชื่อว่า แค่จุดนี้ ก็ทำให้เราใช้ชีวิตต่างกันโดยสิ้นเชิง

วันนี้ฉันได้คำตอบชัดเจน เพราะทุนทรัพย์ของพวกเขาทำให้ชีวิตโปร่งเบากว่าฉัน สิ้นเดือนก็มีเงินโอนเข้าธนาคาร และยังมีเงินจากส่วนอื่นอีก มันจึงไม่แปลก ที่พวกเขาจะยืดหยุ่นทุกวัน ราวกับว่า เวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญ

พวกเขาย่อมไม่เข้าใจ ทำไมฉันไม่ชอบเดินทอดน่องเตร็ดเตร่เวลาซื้อของ

ทำไมการชวนฉันไปกินข้าว หรือไปไหนสักครั้ง ต้องบอกล่วงหน้า

พวกเขาไม่อาจเข้าใจตารางเวลาของฟรีแลนซ์และแม่บ้านอย่างฉัน

 

ทุกเช้า ฉันตื่นมาพร้อมกับการงานที่ต้องทำให้สำเร็จ ส่วนใหญ่ฉันวางแผนล่วงหน้า เป็นแผนที่ไม่เกินศักยภาพของฉัน และไม่เอื่อยเฉื่อยเกินไป บางสัปดาห์ฉันต้องปรับแผนตามสถานการณ์ หรือบางวันฉันต้องปรับแผนตามสุขภาพ แต่ฉันไม่เคยมีวันที่ไร้แผน

แผนที่ว่านั้น ย่อมรวมถึงอาหารสามมื้อ ใช่ มันควรสอดคล้องกับการงาน วันที่ฉันต้องใช้แรงมาก ฉันจะทำอาหารเบาแรง วันซึ่งแทบไม่มีเวลา ฉันจะจัดสรรมื้อจากแกงแช่แข็งไว้ในตู้เย็น ดึงมันออกมา ช่วยบริหารเวลา

ครัวก็เหมือนการงานอื่น หากเดินเข้าไปด้วยความว่างเปล่า ฉันย่อมเสียเวลา ฉันทำอาหารมากมื้อก็จริง แต่ฉันมักใช้เวลาในครัวน้อยกว่าคนอื่น (ยกเว้นกวนแยมเบคอน กับทำน้ำพริกคั่วทราย) นั่นก็เพราะ ทุกครั้งที่เดินเข้าไป ฉันรู้ว่าจะทำอะไร ฉันรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน และฉันจะเริ่มนับหนึ่งจากที่ใด

ครัวของฉันจึงต้องเป็นระเบียบ และสะอาด เพื่อพร้อมใช้งาน ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่กับน้องมองว่าฉันมากเรื่อง และสิ้นเปลือง

ทำไมครัวต้องกว้าง ทำไมต้องมีที่เก็บของเยอะแยะ ทำไมต้องมีเกาะกลาง ทำไมต้องสะสมจานมากมาย

ฉันเข้าใจคนถาม แต่ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ

เพราะนี่คือครัวของฉัน

ทำไมต้องมีตู้แช่แข็งหนึ่งตู้ ทำไมต้องมีดอกไม้ในครัว ทำไมต้องถูพื้นทุกวัน

เพราะนี่คือครัวของฉัน ไม่ว่าเพราะเหตุผลเหมาะควร หรือเป็นเรื่องรสนิยม ฉันย่อมไม่จำเป็นต้องอธิบาย

 

เขา ผู้กินอาหารฝีมือฉันทุกมื้อไม่เคยถาม ไม่เคยซัก ไม่เคยสงสัย

เมื่อเช้าฉันบอกว่า เราต้องเปลี่ยนกระทะแล้วล่ะ อยากลองใช้กระทะเหล็กหล่อดูสักครั้ง

“มันแพงหน่อย แต่ถ้าเราทำความสะอาดถูกวิธีก็ใช้ได้นาน ปลอดภัยด้วย”

เขาพยักหน้า “เอาสิ”

เขาไม่ข้องใจ เพราะคำตอบอยู่ในอาหารที่เขากิน

บางมื้ออาจเป็นจานด่วนจี๋ เพราะแผนการที่วางมาเป็นเช่นนั้น และมันจะเป็นจานด่วนไปไม่ได้เลย ถ้าครัวไม่พร้อม

ตอนเช้าฉันชอบเปิดครัวเข้าไปเห็นพื้นสะอาด เคาน์เตอร์สะอาด จานชาม รวมทั้งหม้อ กระทะ ล้างสะอาดเรียบร้อย ไม่ใช่แค่สวยงามสบายตา แต่มันทำให้ฉันเริ่มทำมื้อเช้าได้ทันที ซึ่งหมายถึงเมื่อวานต้องมีคนเคลียร์ครัว และล้างจานมื้อเย็นเรียบร้อย (คนคนนั้นคือฉันเอง)

เราต้องการมื้อเช้าเร็วที่สุดในวันนี้ ฉันมีแผนจะลุยกับสบู่ ฉันต้องถนอมพลังงาน มื้อกลางวันมีแล้ว แค่เอาแกงออกมาอุ่น หุงข้าว ทอดไข่ มื้อเย็นเราทั้งคู่เทใจให้จิ้มจุ่ม ซึ่งไม่ได้หนักหนาอะไร ทำสบู่เสร็จ ค่อยว่ากัน

สำคัญที่มื้อเช้า หากเผลออ้อยอิ่ง เวลาอาจหายไปแบบไม่รู้ตัว

 

ฉันตีไข่สองฟอง ถ้วยละฟอง หั่นต้นหอมใส่ลงไปในไข่ด้วยนิดหน่อย

เอาแฮมกับไส้กรอกออกมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ

มะเขือเทศก็หั่นบาง

แกะเชดด้าชีสสี่แผ่น หั่นให้เล็กลงสักหน่อย

เอาล่ะ เมื่อทุกอย่างพร้อม ฉันตั้งกระทะเทฟลอนสองใบพร้อมกัน ใส่เนยลงไปนิด ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน

เทไข่ที่ตีไว้ลงกระทะ เอียงให้แผ่เต็มกระทะ แล้วเอาแผ่นตอติญ่านาบบนไข่ ไข่จะติดแผ่นตอติญ่า ทีนี้ก็พลิกขึ้นมา

วางชีสชั้นที่หนึ่ง ตามด้วยไส้กรอก แฮม มะเขือเทศ จบด้วยชีส พับแผ่นตอติญ่าเป็นครึ่งลงกลม จากนั้นก็พลิกอีกด้านให้ชีสด้านบนเจอความร้อน จะได้เยิ้มๆ

แค่นี้ก็เรียบร้อย ตักใส่จานทั้งครึ่งวงกลม หรือจะหั่นก็ได้

ฉันดูนาฬิกา ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที

เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ

ชมตัวเอง แล้วฉันก็ถือจานสองใบไปวางที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีกาแฟกับชาร้อนแช่เลมอน รออยู่

“เร็วมาก” เขาว่า

“และอร่อยด้วย” ฉันรู้ว่าเขาต้องชอบ มีทุกอย่างที่เขาชอบอยู่ในนี้

ช่วงนี้เรากินมื้อเช้าไม่มาก เพราะเราขยับมื้อกลางวันให้เร็วขึ้น แต่ดูเหมือนว่า สำหรับเช้านี้ ถ้ามีอีก เราก็กินหมด

“ทำบ่อยๆ นะ” เขาว่า “เดี๋ยวจะกดกระทะเหล็กให้เป็นรางวัล”

บอกแล้วไง อาหารของฉันคือเหตุผลและคำตอบ