70 ปี ควีนอังกฤษครองราชย์ กับการยอมรับ ‘คามิลลา’/บทความต่างประเทศ

บทความต่างประเทศ

 

70 ปี ควีนอังกฤษครองราชย์

กับการยอมรับ ‘คามิลลา’

 

เนื่องในโอกาสสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการครองราชสมบัติที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ

แต่เรื่องดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ใช่ประเด็นใหญ่ที่ถูกทั่วโลกจับตา เพราะในวันดังกล่าวนั้น ควีนแห่งอังกฤษ ที่มีพระชนมพรรษาถึง 95 พรรษาแล้ว ทรงสร้าง “ความประหลาดใจ” ให้แก่ชาวอังกฤษ รวมไปถึงชาวโลก ด้วยการแสดงพระราชประสงค์ ที่จะให้ “คามิลลา” ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายาพระองค์ที่ 2 ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ได้มีตำแหน่งเป็น “สมเด็จพระราชินี” (Queen Consort) เมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ขึ้นสืบราชสมบัติเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษองค์ต่อไป

โดยในพระราชสาส์น เนื่องในโอกาสฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี มีเนื้อหาระบุว่า ในโอกาสนี้ได้ทำให้พระองค์หยุดพักและไตร่ตรองถึงความจงรักภักดีและความรักที่ชาวอังกฤษมีให้ และว่า พระองค์ทรงหวังว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และคามิลลา จะได้รับแรงสนับสนุนแบบเดียวกัน โดยระบุว่า

“มันเป็นความต้องการอย่างจริงใจจากเราว่า เมื่อเวลามาถึง คามิลลาจะเป็นที่รักในฐานะสมเด็จพระราชินี ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของเธอต่อไป”

 

ถือเป็นข่าวใหญ่อีกข่าวหนึ่ง ที่กลายเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก เพราะที่ผ่านมา ไม่มีใครคาดคิดว่า “คามิลลา” ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ผู้นี้ จะได้ขึ้นเป็น “สมเด็จพระราชินี” หากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ขึ้นครองราชย์ แต่อาจจะได้เป็นเพียง “เจ้าหญิงพระชายา” (Princess Consort) เท่านั้น

เหตุผลที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ไปเช่นนั้น ก็เพราะการที่คามิลลาเองไม่ได้รับความนิยมจากประชาชน เหมือนเมื่อครั้งเจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ พระชายาองค์แรกของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งการที่คามิลลาเองเคยแต่งงานและหย่ามาแล้ว และยังเคยถูกตราหน้าว่าเป็น “มือที่สาม” ที่ทำให้ชีวิตรักของเจ้าหญิงไดอานา กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ต้องล่มสลาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อควีนแห่งอังกฤษทรงแสดงพระราชประสงค์ออกมาเช่นนี้ ก็เท่ากับเป็นการยืนยันถึงอนาคตของคามิลลาได้แล้วว่า เธอจะได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีของอังกฤษในอนาคตอย่างแน่นอน และเป็นการสะท้อนการให้การยอมรับสถานะของคามิลลาในฐานะสมาชิกราชวงศ์อังกฤษที่มากยิ่งขึ้น

และอีกอย่างก็คือ เป็นที่แน่นอนว่า ผู้ที่จะขึ้นครองราชย์ต่อจากควีนอลิซาเบธที่ 2 ก็คือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทลำดับที่ 1 ไม่ใช่การข้ามไปยังเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 2 อย่างที่หลายคนคาดเดากันไว้

 

โดยหลังจากมีพระราชสาส์นดังกล่าวออกมา ทางสำนักพระราชวังแคลเรนซ์เฮาส์ ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และคามิลลา ได้ออกแถลงการณ์แสดงความซาบซึ้งและเป็นเกียรติจากพระราชสาส์นของควีนอังกฤษอย่างยิ่ง

“ข้าพเจ้าตระหนักดีถึงเกียรติในคำอวยพรของพระมารดา ดังที่เราได้พยายามร่วมกันเพื่อรับใช้และสนับสนุนพระองค์รวมถึงประชาชนของเรา พระชายาผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้าเป็นแรงสนับสนุนอันแน่วแน่ของข้าพเจ้ามาโดยตลอด” เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ระบุ

โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ยังตรัสยกย่องพระมารดาด้วยว่า การอุทิศตนเพื่อสวัสดิภาพของประชาชน เป็นแรงบันดาลใจให้พระองค์ได้รับความชื่นชมมากขึ้นในทุกๆ ปีที่ผ่านไป

 

ในส่วนของเจ้าชายวิลเลียม พระโอรสในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับเจ้าหญิงไดอานา มีรายงานจากเดลิเมล์ อ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับสำนักพระราชวัง ระบุว่า เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ สนับสนุนการตัดสินพระทัยของควีนอลิซาเบธที่ 2 ที่ต้องการให้คามิลลาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินี หลังจากที่เจ้าชายวิลเลียมได้หารือกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดา เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และคามิลลา ที่ครองรักกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ก่อนที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงไดอานา แต่ก็ต้องเลิกรากันไปในที่สุด จนเจ้าหญิงไดอานาประสบอุบัติเหตุสิ้นพระชนม์ลงในปี 1997

และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับคามิลลา ก็เข้าพิธีอภิเษกสมรสกันในปี 2005 คามิลลาได้รับพระราชทานยศเป็น “ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์” และตกเป็นเป้าหมายของบรรดาสื่อแทบลอยด์ของอังกฤษอย่างยาวนาน

จวบจนปัจจุบันนี้ “คามิลลา” ก็ยังคงปรากฏตัวเคียงข้างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่อง

และได้รับการรับรองแล้วว่า หากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ได้ขึ้นครองราชย์ “คามิลลา” ก็จะได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษอย่างแน่นอน