กรองกระแส

หนี คือกลยุทธ์ ทางเลือกของ “ยิ่งลักษณ์” การศึกมิหน่ายเล่ห์

หลังกรณีวันที่ 25 สิงหาคม หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไปและไม่เดินทางไปฟังคำพิพากษา ก่อให้เกิดท่าทีและทรรศนะทางการเมืองตามมาอย่างคึกคัก

บ้างมองว่าเป็นการตัดสินใจอันดียิ่งต่อ “คสช.”

อย่างน้อยก็คลายความวิตกของ คสช. ที่มีมาตลอดเกือบ 1 เดือนเต็ม เพราะไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาในแนวทางใด ลงโทษ หรือลงโทษเบา คสช. ก็ต้องเหนื่อย เพราะจะเกิดปฏิกิริยาในทางการเมืองตามมาอย่างแน่นอน

หากลงโทษหนัก ฝ่ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ย่อมไม่พอใจ

หากลงโทษเบา ไม่หนักหนาสาหัสตามความคาดหวัง ฝ่ายที่ต้องการลบชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากสารบบ ย่อมไม่พอใจ

การหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงเป็นผลดีต่อ คสช.

เพราะเท่ากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลือกเดินเส้นทางสายเดียวกับ นายทักษิณ ชินวัตร เท่ากับตัดปัญหา 1 ในทางการเมืองออกไป การดำรงอยู่ของ คสช. ก็จะราบรื่นมากยิ่งขึ้น

คำถามก็คือ การหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพียงเพื่อหนีเท่านั้นหรือ

 

กรณี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ปัจจัยภายใน ภายนอก

ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สามารถถูกมองได้ว่าเป็นการตัดสินใจในวินาทีสุดท้าย เหมือนกับมิได้มีการตระเตรียมมาก่อน

เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เองก็ยืนยันมาตลอดว่า “ไม่หนี”

อย่างน้อยหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เผชิญกับทุกชะตากรรมอย่างยอมรับ

ไม่ว่าจะกระบวนการ “ถอดถอน” ไม่ว่าจะกระบวนการ “ฟ้องร้อง”

โดยเฉพาะการต่อสู้ในคดีโครงการรับจำนำข้าวนับแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นมากระทั่งเดือนสิงหาคม 2560 รวมแล้วมากกว่า 20 นัด ก็ไม่แสดงวี่แววว่าจะถอดใจ เพิ่งจะมาตัดสินใจเอาในวันที่ 25 สิงหาคมนั้นเอง

เหมือนกับการตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาจากปัจจัยภายนอกล่าสุดคือเกรงว่าคำพิพากษาจะออกมาเลวร้ายกระทั่งอาจต้องติดคุก จึงเลือกที่จะหนีตามคำเสนอแนะจากนายทักษิณ ชินวัตร

เป็นเช่นนั้นจริงหรือ

 

หายตัวอย่างมีแผน

หนีอย่างมีกลยุทธ์

เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่กระบวนการหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะกำหนดขึ้นภายในวันที่ 24 สิงหาคม หรือเรียกว่าวินาทีสุดท้าย

อย่างน้อยก็ต้องมีการตระเตรียม มีการวางแผน

หากไม่ตระเตรียมคงยากเป็นอย่างยิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเล็ดลอดออกจากบ้านในซอยโยธินพัฒนา 3 ไปอย่างไร้ร่องรอย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจุดปลายทางขั้นต้นคือสิงคโปร์

อย่างน้อย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องผ่านด่านจำนวนมากมายภายในประเทศกว่าจะไปถึงจุดที่เครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวรออยู่

การวางแผนจึงต้องตระเตรียมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การตระเตรียมในลักษณะข้ามประเทศเช่นนี้จึงมีงานลับในระดับสุดยอดที่จะต้องสัมพันธ์กับเครือข่ายระดับสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อาจอาศัยเงื่อนไขที่ภายในประเทศก็อยากให้หายตัวไปอยู่แล้ว

เมื่อประสานเข้ากับเครือข่ายและความสัมพันธ์ที่มีอยู่ระหว่างประเทศย่อมทำให้เส้นทางการหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำเนินไปด้วยความราบรื่น

ขณะเดียวกัน หากแผนนี้ดำเนินไปอย่างมีลักษณะลับ ลวง พราง ก็ถือว่าสุดยอด

เป็นการดำเนินกลยุทธ์ด้วยความแยบยลยิ่ง กระทั่งสามารถพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 

ทุกอย่าง ตามแผน

หนี คือยอดกลยุทธ์

ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมีความเจนจัดในทางการเมืองมากน้อยเพียงใด แต่ประสบการณ์ในห้วงก่อนการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 กระทั่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและถูกรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ก็ให้ “บทเรียน” ทางการเมืองเป็นอย่างมาก

หากศึกษาท่วงทำนองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา ต้องยอมรับว่าเธอเผชิญกับแต่ละปัญหาอย่างเยือกเย็น

ด้าน 1 คือการยืนหยัดด้วยหลักการ “ไม่หนี” ด้าน 1 คือการตัดสินใจทำให้ตัวเอง “หายไป”

กระบวนท่าของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจสร้างความสับสนและนำไปสู่ความเห็นตามมาอย่างมากมาย แต่ก็เป็นกระบวนท่าอันได้จากความจัดเจน อันได้จากความเจ็บปวดของการเมืองอันนำไปสู่ความเข้าใจลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นตามบทสรุปของท่านซุนวู

การศึกมิหน่ายเล่ห์ การเมืองยิ่งมิหน่ายเล่ห์