โศกนาฏกรรม ‘ทางม้าลาย’ ส.ต.ต.ซิ่งบิ๊กไบก์ พรากชีวิต ‘หมอกระต่าย’ บทเรียนซ้ำ-ซ้ำ ไม่เคารพกฎจราจร/อาชญากรรม อาชญา ข่าวสด

อาชญากรรม

อาชญา ข่าวสด

 

โศกนาฏกรรม ‘ทางม้าลาย’

ส.ต.ต.ซิ่งบิ๊กไบก์

พรากชีวิต ‘หมอกระต่าย’

บทเรียนซ้ำ-ซ้ำ ไม่เคารพกฎจราจร

 

นับเป็นโศกนาฏกรรมบนท้องถนนอีกเหตุหนึ่ง ที่สร้างความรู้สึกต่อสังคมอย่างรุนแรง สำหรับกรณีที่หมอกระต่าย พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล จักษุแพทย์ ถูกจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ที่ขับขี่มาโดย ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ตำรวจ บก.อคฝ. พุ่งชนอย่างจัง เป็นเหตุให้บาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

เพราะนอกจากผู้เสียชีวิตเป็นแพทย์หญิงที่น่าจะมีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและคนไข้ทั่วไปแล้ว ผู้ก่อเหตุกลับเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ แถมที่เกิดเหตุยังเป็นทางม้าลายที่ควรจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยของประชาชนคนเดินทางทั้งหมด

แถมหลังจากเกิดเหตุเรื่องกลับเงียบหาย ไม่ได้ปรากฏผ่านสื่อจวบจนผ่านไป 2 วัน เมื่อเพื่อนฝูงพยายามขอภาพวงจรปิดเอง เพื่อนำไปให้ตำรวจประกอบสำนวน สังคมจึงได้รับรู้อุบัติเหตุที่น่าตระหนกครั้งนี้

เมื่อรายละเอียดของคดีเริ่มเปิดเผย และทราบว่า ส.ต.ต.ที่ขับรถชน ถูกแจ้งข้อหาและปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องมีหลักประกันใดๆ

การตั้งคำถามถึงความถูกต้องเหมาะสมจึงดังขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเป้าหมายที่องค์กรตำรวจ

โดยมีที่มาจากการไม่เคารพกฎหมายที่ตัวเองควรจะเป็นผู้รักษา

บิ๊กไบก์ ตร.ชนหมอกระต่าย

เหตุการณ์สลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 21 มกราคม ที่หน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท กทม. โดยขณะที่หมอกระต่าย หรือ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ข้ามถนนทางม้าลาย เพื่อไปยังคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยฝั่งตรงข้าม

ขณะที่เดินข้ามถนนใกล้ถึงเกาะกลาง โดยรถหลายคันที่มาถึงทางม้าลายได้ชะลอรถ และหยุดลงเพื่อให้คนได้ข้ามถนน ก็มีจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ดูคาติ สีแดง วิ่งเลนขวามาพุ่งเข้าชนหมอกระต่ายอย่างจัง ร่างกระเด็นไปไกลหลายเมตร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ชีพช่วยยื้อชีวิตและนำส่ง รพ.ราชวิถี แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

สำหรับผู้ก่อเหตุที่ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ทราบชื่อคือ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ตำรวจ บก.อคฝ. บาดเจ็บที่แขนขวา และมีรอยถลอกที่หน้าอก ถูกนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุแทนที่เรื่องจะออกสู่สาธารณะ แต่แม้กระทั่งญาติของหมอกระต่ายก็ยังไม่รู้เรื่องเหตุการณ์ดังกล่าว มีการระบุว่า ศพหมอกระต่าย กลายเป็นศพนิรนามอยู่ที่ รพ.ราชวิถีกว่า 2 ชั่วโมง จนกระทั่งเพื่อนของหมอกระต่าย และอาจารย์หมอโทรศัพท์เข้ามาหามือถือของหมอกระต่ายที่พลเมืองดีเก็บให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาไว้ จึงได้รับรู้ข่าวร้าย

ขณะที่กลุ่มเพื่อนหมอได้โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เพื่อถามหาภาพหรือคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปประกอบหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี และออกมาเรียกร้องความยุติธรรมเพราะเกรงเรื่องจะเงียบหาย

จนกระทั่งวันที่ 23 มกราคม พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท เร่งตรวจสอบรายละเอียด ก่อนจะรายงานกลับว่ามีอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เมื่อเวลา 15.10 น. ของวันที่ 21 มกราคม

ผู้ต้องหาคือ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ผบ.หมู่กองร้อยที่ 2 กก.อารักขา 1 บก.อคฝ. ที่ขับขี่จักรยานยนต์ดูคาติ สีแดง ทะเบียน 1 กผ-9942 เชียงราย มาตามถนนศรีอยุธยา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพญาไท มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนพุ่งชนหมอกระต่าย ที่จุดเกิดเหตุ

โดยพนักงานสอบสวนรับเป็นคดีจราจรที่ 28/2565 พร้อมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงให้เดินทางกลับโดยไม่ได้จับกุมหรือควบคุมตัว และนัดหมายให้มาพบเพื่อส่งพนักงานอัยการ

ยืนยันดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีการช่วยเหลือแม้ผู้กระทำผิดจะเป็นตำรวจก็ตาม

ผงะผิด 7 ข้อหา-สังคมประณาม

แม้จะมีการยืนยันจากบิ๊กตำรวจ แต่กระแสโจมตีก็ไม่ลดลงเลย เมื่อโลกออนไลน์ตั้งคำถามในเชิงไม่เชื่อมั่นว่าจะดำเนินการตามกระบวนการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการจับกุม ไม่ต้องยื่นประกัน แถมวันนัดในการส่งอัยการฟ้อง ยังยาวนานถึงช่วงเดือนมีนาคม

ไม่เพียงแค่นั้นยังมีการเปิดเผยว่าเหมือนเวรกรรมมีจริง ที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ หลังขี่บิ๊กไบก์ชน ไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ แล้วระบุว่าตาพร่ามัว จึงไปแผนกตา แต่ก็ไม่พบหมอ เพราะหมอที่ต้องอยู่เวรวันนั้นก็คือหมอกระต่าย ที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ขี่บิ๊กไบก์ชนนั่นเอง

รวมทั้งเรื่องของที่มาของบิ๊กไบก์คันดังกล่าวว่ามาจากไหน เป็นจักรยานยนต์ของกลางหรือไม่ อย่างไร แถมต่อมาเมื่อ ส.ต.ต.นรวิชญ์ พร้อมพ่อ ไปอุปสมบทที่วัดปริวาสราชสงคราม ก็เกิดการตั้งคำถามว่าทำไมบุคคลที่มีคดีอาญาถึงสามารถบวชได้

ในที่สุดหลังพิธีพระราชทานเพลิงศพหมอกระต่าย ส.ต.ต.นรวิชญ์ พร้อมบิดา ก็ได้ลาสิกขา

ขณะที่ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอ งผบช.น. ระบุว่าได้แจ้งดำเนินคดี ส.ต.ต.นรวิชญ์แล้ว 7 ข้อหา ประกอบด้วย ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย ความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ฐานนำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาวิ่ง, ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย, นำรถที่มีส่วนควบไม่ครบมาวิ่ง (กระจกมองหลัง) ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง และความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ฐานฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี และไม่หยุดรถให้ผู้ใช้ทางม้าลาย และจะตรวจสอบว่าใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่

เรียกว่าผิดกฎหมายหลายข้อหาโดยฝีมือผู้รักษากฎหมายเสียเอง

ขณะที่รถบิ๊กไบก์ ก็มีคำชี้แจงพร้อมเปิดเผยถึงเอกสารซื้อขาย ว่าเป็นของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ซื้อมาจริง เมื่อปี 2564 แต่เป็นการโอนลอย ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง ยืนยันไม่ใช่ของกลางในคดีที่ตำรวจนำไปใช้

สำหรับการแก้ไขปัญหา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ระบุว่าจะประชุมระหว่าง กทม. กระทรวงคมนาคม และหน่วยเกี่ยวข้องเพื่อหารือการวางมาตรฐานการดูแลทางม้าลายทั่วประเทศให้เกิดความปลอดภัยในระยะยาว

โดยสำหรับกรุงเทพฯ จะติดตั้งเครื่องหมายสัญญาณไฟทางม้าลาย รวมถึงกล้องตรวจจับ การติดตั้งป้ายกำหนดความเร็วก่อนถึงทางม้าลายไม่ให้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือป้ายชะลอความเร็ว รวมถึงการเพิ่มไฟส่องสว่างให้ชัดเจนมากขึ้น

ส่วนต่างจังหวัด จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมกับท้องถิ่น พร้อมจะประเมินว่า ถ้าจุดไหนไม่มีมาตรฐานต้องปรับปรุงอย่างไร จุดไหนไม่เหมาะสมหรือมีความเสี่ยงมากก็จะยกเลิกหรือปรับย้ายทางม้าลายออกไป โดยนำเคสหมอกระต่ายมาเป็นบทเรียน

ย้อนคดีชนดับทางม้าลาย

จริงๆ แล้วอุบัติเหตุที่เกิดจากการข้ามทางม้าลาย ในกรณีของหมอกระต่าย ไม่ใช่ครั้งแรก หากย้อนไปเมื่อปี 2557 ก็เกิดอุบัติที่กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม โดยช่วงบ่ายของวันที่ 18 ธันวาคม 2557 ตร.สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุผู้สื่อข่าวว่า น.ส.กาณจน์ภัสจ์ ศิริประทุม หรือวิเวียน อายุ 29 ปี สังกัดแกรมมี่ และครีเอทีฟรายการ ถูกรถบรรทุกพุ่งชน ที่หน้าตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

ทั้งที่จุดดังกล่าวมีสัญญาณไฟจราจร เมื่อไฟแดง น.ส.กาณจน์ภัสจ์ ก็เดินลงถนน แต่คนขับรถบรรทุกไม่ได้หยุด พุ่งชนร่างลากไปไกลกว่า 5 เมตร เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท ผู้ต้องหายื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 8 หมื่นบาทประกันตัวในชั้นสอบสวน

หลังเกิดเหตุมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก พูดถึงเรื่องการกวดขันวินัยจราจร แต่แล้วก็เงียบหายไป

จนเกิดอุบัติเหตุบนทางม้าลายอีกหลายเหตุการณ์

วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 นายสำรวย ตุ้ยจิตร อายุ 81 ปี ถูกรถชนเสียชีวิตที่ทางม้าลาย บริเวณถนนสมุทรสงคราม-บางแพ หลักกิโลเมตรที่ 12 ทางเข้าหน้าวัดปากง่าม จ.สมุทรสงคราม นายมาตรการ ยอแสง อายุ 28 ปี คนขับรถกระบะ ให้การว่า ขณะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเวลาเช้ามืด และบริเวณดังกล่าวมืดมาก เพิ่งจะมามองเห็นผู้เสียชีวิตกำลังเดินข้ามถนนอย่างกระชั้นชิด จึงหักหลบและเฉี่ยวชนผู้เสียชีวิต กระแทกกับกระบะด้านซ้ายจนเสียชีวิต

14 เมษายน 2564 น.ส.ธีราพร หวันสู อายุ 23 ปี ถูกนายใหม่ ศรีชื่นชม อายุ 26 ปี แซงซ้ายพุ่งชนที่ทางม้าลาย หน้าวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี

5 ธันวาคม 2562 นางก้อนทอง อมรินทรบัญชา อายุ 63 ปี ถูกจักรยานยนต์ชนเสียชีวิตที่ทางม้าลาย หน้าตลาดปิ่นทอง ปากซอยเอกชัย 43/1 เขตบางบอน กรุงเทพฯ

1 กรกฎาคม 2562 น.ส.วิลาวัณย์ พุ่มมาลา หรือน้องลิ้นจี่ นักศึกษาจบใหม่ เพิ่งทำงานวันแรก โดนรถจักรยานยนต์ชนขณะข้ามทางม้าลาย บริเวณแยกกรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระราม 9 บาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา

9 กุมภาพันธ์ 2562 น.ส.หทัยภัทร ตันตศิริ หรือใบหม่อน นักเรียนชั้น ม.4 วิทยาลัยนาฏศิลป์ ถูกนายมรรควัฒน์ จันทร์ไพจิตร หรือปุ๊ นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ขับบิ๊กไบก์ฝ่าไฟแดงชน ขณะกำลังข้ามถนนตรงทางม้าลายหน้าวิทยาลัยนาฏศิลป์ จ.นครปฐม จนอาการโคม่า สมองตาย ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสูญเสียที่เกิดจากการไม่เคารพกฎจราจร

ซึ่งหากไม่แก้ไขอย่างจริงจัง ก็คงเกิดเรื่องราวเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งหวังว่าการแก้ไขปัญหาต่อไปนี้

จะไม่ใช่แค่ไฟไหม้ฟางเหมือนในอดีต