Acoustic Energy AE300 ลำโพงธรรมดาที่ไม่ธรรมดา / เครื่องเสียง : พิพัฒน์ คคะนาท

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

 

Acoustic Energy AE300

ลำโพงธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

 

ทิ้งท้ายเที่ยวก่อนว่าอัลบั้มแรกที่หยิบมาฟังกับลำโพงคู่นี้เป็นงานดนตรีจากค่าย TBM : Three Blind Mice ซึ่งมีอัลบั้มเป็นที่รู้จักกันในหมู่คนเล่นเครื่องเสียงจากชุด Super Analog Sound ที่นำมาจากอัลบั้มต้นฉบับอย่าง The Famous Sound of TMB ซึ่งมีอยู่ 3 ชุด ด้วยกัน TBM นั้นมีชื่อเสียงและโด่งดังด้วยการผลิตแผ่นเสียงลองเพลย์ ด้วยฉลากตราเครื่องหมายการค้า (Label) ของตัวเองมาตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 70s

เป็นค่ายเพลงแจ๊ซสัญชาติญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อจัดแสดงและสนับสนุนนักดนตรีแจ๊ซหน้าใหม่ของท้องถิ่นโดยเฉพาะ มีอัลบั้มออกมากว่าร้อยชุด และได้รับรางวัล Jazz Disc Award ถึงห้าครั้ง

อัลบั้มแต่ละชุดของ TBM ได้รับการยกย่องว่าประณีตและพิถีพิถันในการบันทึกเสียงมาก จึงเป็นที่นิยมของบรรดานักเล่นระดับออดิโอไฟล์มาโดยตลอด หลายๆ แทร็กถูกตัดมารวมเป็นอัลบั้มเพื่อโชว์ลีลาพลิ้วไหวของตัวโน้ตที่โลดล่นไปตามแต่ละขั้นบันไดเสียงที่สำแดงออกมาได้อย่างโดดเด่น จึงถูกนำมาพิมพ์แผ่นในฟอร์แม็ตต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดแท้แต่เทคโนโลยีด้านนี้จะพัฒนาไปยังทิศทางใด

อย่างอัลบั้มที่ผมพูดถึงนี่ ล่าสุดที่เห็นก็อยู่ในรูปแบบของ XRCD 24

 

กลับมาที่การทำงานของ Acoustic Energy AE300 กันต่อครับ

หลายๆ แทร็กจากอัลบั้ม Super Analog Sound บ่งบอกให้รู้ว่าลำโพงคู่นี้ให้เสียงเครื่องดนตรีอะคูสติกออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก และมากอย่างน่าทึ่งด้วย ทั้งยังให้กังวานเสียงของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ออกมาอย่างสมจริง เสียงเปียโนที่ได้ยินนั้นเต็มไปด้วยพลังที่หนักแน่นอย่างเหลือเชื่อ คือไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเสียงที่ได้ยินจากลำโพงสูงคืบกว่าๆ คู่นี้เอาเสียเลย

มันรองรับการทำงานของเปียโนได้ดีเกินตัวมาก การสนองตอบต่อเสียงเบสนั้นให้ออกมาได้สวยงามแบบที่ฝรั่งชอบอุทานว่า Beautiful Bass! นั่นแหละครับ ขณะเดียวกันก็ให้ความต่อเนื่องของเสียงอย่างลื่นไหล เสียงของแต่ละชิ้นเครื่องดนตรีที่สอดประสานกันออกมาเป็นท่วงทำนองของดนตรีมีความน่าฟัง และชวนให้ติดตามยิ่งนัก

ที่สำคัญคือเป็นน้ำเสียงที่นำเสนอความเป็นดนตรีในความหมายของ Musicality ออกมาได้ชนิดที่ไร้ข้อจำกัด (ในเรื่องของราคาค่าตัว) อย่างสิ้นเชิง

เพราะกับราคาค่าตัวแค่นี้ ให้ความเป็นดนตรีของเสียงออกมาได้ระดับนี้นี่ ต้องบอกว่าเกินตัวเอามากๆ ครับ

นอกจากจะให้ความเป็นธรรมชาติของเสียงออกมาได้อย่างสมจริงแล้ว AE300 จาก Acoustic Energy คู่นี้ยังสามารถให้ภาพลักษณ์ของเวทีเสียงออกมาได้อย่างโดดเด่นอีกด้วย เป็นความโดดเด่นในแง่ของการแสดงให้เห็นถึงภาพรวมบนเวทีเสียงที่มีความสมจริงมาก ด้วยรับรู้ถึงน้ำเสียงที่มีความเป็นสามมิติได้อย่างชัดเจน

 

ไม่เพียงให้การทำงานกับเครื่องดนตรีอะคูสติคออกมาได้อย่างน่าฟัง และด้วยความเป็นธรรมชาติที่มีความสมจริงสูงเท่านั้น ลำโพงคู่นี้ยังให้การทำงานกับเสียงร้องได้อย่างมีเสน่ห์ สามารถสื่อแต่ละเส้นเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเสียงร้องเฉพาะตัวออกมาได้อย่างชัดเจน ทั้งเสียงร้องหญิงและเสียงร้องชาย ที่ล้วนเป็นเสน่ห์เสียงอันเฉพาะของแต่ละศิลปินที่ได้สื่อออกมาให้รับรู้ และพาเข้าถึงแต่ละแก่นเสียงนั้นได้อย่างดื่มด่ำ น่าฟัง ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความสุนทรีย์ ด้วยโทนเสียงกลางและเสียงร้องอันสะอาดสะอ้าน ให้ออกมาได้อย่างแม่นยำ และเป็นน้ำเสียงที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นอันเป็นธรรมชาติยิ่ง

ซึ่งทุกแทร็กในอัลบั้มชุด Audiophile Female Voices และ Absolute Male Vocalist ล้วนบ่งบอกและตอกย้ำความที่กล่าวข้างต้นได้เป็นอย่างดี

ฟังจากหลายๆ อัลบั้ม กับหลากหลายรูปแบบดนตรี ที่มีทั้งเสียงร้องนำดนตรี เสียงดนตรีล้วนในความหมายของบรรเลงโดยวง พบว่าลำโพงนี้ทำงานได้ ‘ดีมาก’ กับงานดนตรีที่มีองค์ประกอบไม่มากนัก อาทิ เสียงร้องกับเครื่องดนตรีสามสี่ชิ้น หรืออย่างสมูธ แจ๊ซ, ป๊อป, สแตนดาร์ด ตลอดจนเชมเบอร์ มิวสิก ที่บรรเลงด้วยเครื่องมือต่างๆ ไม่มากไปกว่าสี่ซ้าห้าชิ้น ลำโพงคู่นี้สามารถถ่ายทอด และแยกแยะ แต่ละเส้นเสียงของแต่ละชิ้นเครื่องดนตรีออกมาได้อย่างชัดเจน

ตลอดจนสามารถให้ตำแหน่งและนำเสนอมิติบนเวทีเสียงได้อย่างน่าชื่นชม

 

แต่เมื่อลองให้ทำงานกับงานดนตรีที่มีเครื่องมือทางด้านดนตรีประเภทต่างๆ จำนวนมาก อย่างงานที่นำเสนอผ่านวงออร์เคสตรา เช่น งานซิมโฟนีที่ต้องบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีรวมๆ กันแล้วหลายสิบไปจนถึงใกล้ๆ ร้อยชิ้นนั้น ออกจะเป็นงานหนักอยู่สักหน่อยสำหรับลำโพงคู่นี้ เพราะการแยกแยะเสียงที่ทับซ้อนกันของเครื่องดนตรีต่างๆ ในวง ยังไม่สามารถให้ออกมาได้อย่างกระจ่างชัดนัก ยังคงมีความเหลื่อมและทับซ้อนให้รับรู้ได้อยู่บ้าง

แต่ก็มิอาจบอกได้ว่าเหล่านั้นคือข้อด้อยอย่างเป็นสำคัญเช่นกัน เพราะหากจะให้เปรียบเทียบแบบเอาเกณฑ์คะแนนเป็นหลัก ยังไงๆ ก็ต้องยืนยันว่ามันยัง ‘สอบผ่าน’ เรื่องนี้ไปได้แบบพอเอาตัวรอดสบายๆ ครับ

และเมื่อมองย้อนกลับไปถึงที่กล่าวมาก่อนหน้าแล้ว ยิ่งมิอาจเอาสิ่งที่มันแบกรับออร์เคสตราวงใหญ่มาเป็นประเด็นอย่างเด็ดขาด เพราะการทำงานร่วมกับงานดนตรีที่บรรเลงด้วยวงอันไม่เกินตัวมันนั้น มันให้ออกมาได้อย่างโดดเด่นมาก ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการแยกแยะความละม้ายคล้ายในความเหมือนอันใกล้เคียงของแต่ละเส้นเสียง ที่มันสื่อออกมาให้รับรู้ได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน อาทิ สตริง เบส, เชลโล และกีตาร์เบส หรือแม้แต่เสียงจากเครื่องดนตรีประเภทเดียวกัน ที่นำมาเล่นประชันกันอย่างในแทร็ก Schubert : Piano Trio (Excerpt) ก็สามารถบ่งบอกความแตกต่างของเสียงจากเปียโนแต่ละหลังให้รับรู้ได้อยู่ในที

ขณะที่ภาพเสียงโดยรวมอื่นๆ เช่น กังวานเสียงจากเครื่องเป่าทองเหลืองก็มิได้แผดออกมาให้รู้สึกเสียดแทงหูแต่อย่างใด เช่นกันกับเครื่องเป่าลมไม้ที่ให้ออกมาได้อย่างพลิ้วไหว และมีความลื่นไหลอย่างต่อเนื่องด้วยความเป็นธรรมชาติสูงมาก

และอีกเสียงเดี่ยวเครื่องดนตรีที่มิใคร่ได้ฟังบ่อยนักอย่างฮาร์พจากแทร็ก Musicus Harp Solo ในอัลบั้ม Audiophile Analog Collection ก็ให้ออกมาอย่างน่าหลงใหล เพราะทั้งพลิ้วไหวไล่โทนเสียงของแต่ละตัวโน้ตที่มีจังหวะจะโคนคอยกำกับออกมาให้ชวนติดตามอย่างใจจดใจจ่อชนิดที่จบแทร็กไปแบบไม่รู้ตัวนั่นเทียว

 

นับเป็นลำโพงที่ให้การทำงานกับเสียงดนตรีได้สัตย์ซื่ออย่างน่าชื่นชม แม้จะไม่ถึงระดับเที่ยงตรงแบบหมดจด แต่ก็มิได้เพิ่มเติมเสริมแต่งในความหมายของการเจือสีสันลงในน้ำเสียงให้ผิดเพี้ยนไปแต่อย่างใด ไม่มีสุ้มเสียงหรือย่านความถี่ใดโดดเด่นออกมาแบบเกินหน้าเกินตา ควบคุมประสิทธิภาพการทำงานที่ให้ความสมดุลเสียงออกมาได้ดี จึงสามารถฟังลำโพงคู่นี้ได้นานโดยมิรู้สึกล้าแต่อย่างใด หากยิ่งฟังนานยิ่งให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วยซ้ำ

กล่าวโดยรวมแล้ว – นี้, เป็นลำโพงหน้าตาธรรมดาๆ ที่ให้สุ้มเสียงออกมาไม่ธรรมดาเอาเสียเลย มันคือความยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสมเอามากๆ

และเป็นลำโพงที่จะทำให้ชุดเครื่องเสียงของคุณที่หากตั้งงบฯ ไว้สักห้าหมื่น (บาท – รวมแอมป์ เครื่องเล่นซีดี และสายสัญญาณ) เข้าใกล้นิยาม High Fidelity หรือ Hi-Fi ได้อย่างไม่อายใครเลย