เผยแพร่ |
---|
การปรากฏขึ้นของ #หมอกระต่าย มากด้วยความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวอย่างยิ่งอยู่แล้ว การตามมาของ #ตำรวจมีไว้ทำไม ยิ่งมาก ด้วยความละเอียดอ่อนและอ่อนไหว
หากมองจาก สน.พญาไท หากมองจากกองบัญชาการตำรวจ นครบาล หากมองจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เหมือนกับ #หมอกระต่าย หรือ #ตำรวจมีไว้ทำไม เป็นการปั่น
กระนั้น คำถามที่สวนกลับคืนมาอย่างฉับพลันทันใดก็คือ การปั่นจะดำเนินไปอย่างเป็น”ปรากฏการณ์”ได้อย่างหนักแน่นทรงพลังก็ต่อเมื่อมี”ความจริง”เป็นรากฐานรองรับเท่านั้น
กล่าวสำหรับการตายของ”หมอกระต่าย”เป็นเรื่องน่าเศร้าและสะเทือนใจอยู่แล้ว เพราะว่าคุณหมอเป็น”แพทย์”ผู้มีความชำนาญ เฉพาะทาง และตายอย่างกะทันหันขณะข้ามทางม้าลาย
ยิ่งคนที่ยื่นความตายให้กับคุณหมอเป็นตำรวจ ซึ่งควบขับมอร์
เตอร์ไซค์หรูมาด้วยความเร็วสูงโดยไม่ลดความเร็วลงแม้ ณ เบื้องหน้าจะเป็นทางม้าลายก็ตาม
ปฏิบัติการของ”ตำรวจ”ต่างหากที่กลายเป็น”ตัวเร้า”อย่างดี
เด่นชัดอย่างยิ่งว่าใน 2 ชั่วโมงศพของ”หมอกระต่าย”อยู่ในลักษณะ เหมือนกับเป็น”มิสโด” ไม่มีหลักฐานใดๆจากฝ่ายของตำรวจ
หากไม่มีการติดตามจาก”เพื่อนหมอ”ด้วยกันเรื่องคงไม่”ดัง”
แต่แล้วเมื่อกระแสสังคมเรียกร้องให้จัดการตามกฎหมาย วัตร ปฏิบัติของตำรวจก็ยิ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างสูงโดยเฉพาะการปล่อยตัว”ผู้ต้องหา”อย่างง่ายดาย
การเปรียบเทียบคดีของ”หมอกระต่าย”กับคดีของเพนกวินและรุ้ง เบนจา ก็ตามมาโดยอัตโนมัติ แสงแห่งสปอตไลต์จึงฉายจับไปยัง กระบวนการยุติธรรม
อย่าได้แปลกใจหาก #หมอกระต่าย จะถูกเร่งเร้าอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นคำถาม #ตำรวจมีไว้ทำไม ขึ้นโดยอัตโนมัติ
สถานะของ”ผู้ต้องหา”ที่เป็นตำรวจมีความอ่อนไหวเป็นอย่างสูงอยู่แล้ว การระบุสังกัดว่าอยู่ใน”หน่วยควบคุมฝูงชน” หรือ”คฝ.”
จากเรื่อง”เฉพาะส่วน”จึงขยายกลายเป็นเรื่อง”ทั่วไป”
นี่คือปรอทสะท้อนอุณหภูมิในทางสังคมและในทางการเมืองที่มีต่อตำรวจและต่อรัฐบาลได้อย่างเด่นชัด