คุยอดีตขุนคลัง ปัญหา-ทางออกเศรษฐกิจไทย ทำยังไงประเทศถึงจะเจริญ?/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

พิชญ์เดช แสงแก่นเพ็ชร์

 

คุยอดีตขุนคลัง

ปัญหา-ทางออกเศรษฐกิจไทย

ทำยังไงประเทศถึงจะเจริญ?

 

ศ.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มองสภาวะข้าวของแพงและวิกฤตเศรษฐกิจตอนนี้ในประเทศไทยว่า เนื่องจากรัฐบาลจัดการปัญหาไม่ถูกต้อง เริ่มจากการปล่อยให้มีโรคระบาดอหิวาต์ในหมู และไม่ป้องกันล่วงหน้า พอเกิดขึ้นก็พยายามปกปิด โดยมีกรอบวิธีคิดแบบคนสมัยเก่า ไปคิดว่าคนไม่รู้ จะได้ส่งออกต่อไม่มีปัญหาอะไร แต่แท้จริงแล้วโลกยุคสมัยนี้ ยุคดิจิตอล มีอะไรต้องบอกวันนี้เลย ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ คนถึงจะเชื่อมั่น พอหมูขึ้นราคา ไก่ก็ขึ้น ไข่ก็ขึ้น หมูขึ้นราคาไปกว่า 50% ไข่ก็ขึ้นราคาฟองละ 20-30 สตางค์

ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ต้องโทษรัฐบาล เพราะว่าเบิกเงินไปดูแลโรคระบาดสัตว์ทุกปี ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมาจนถึงตอนนี้ พันกว่าล้านบาทแล้ว ไม่รู้ไปทำอะไรและไม่ยอมรับความจริง

กรอบคิดคือรัฐบาลต้องรับใช้ประชาชน ไม่ใช่เป็นนายประชาชน

อีกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วทั้งประชาชนในประเทศและทั้งโลกผิดหวัง คือเรื่องของความน่าเชื่อถือต่อตัวผู้นำประเทศ เมื่อผู้นำประเทศไม่น่าเชื่อถือ เศรษฐกิจก็ไม่เจริญ เพราะคุณดำเนินมาตรการผิดมาตลอด

แม้กระทั่งภาวะปกติธรรมดายังทำแบบผิดๆ ไปกู้เงินมากินมาใช้ โดยปกติแล้วเวลากู้เงินหรือทำงบประมาณใดๆ การกู้เงินจะต้องมาเพื่อลงทุนเท่านั้น แต่รัฐบาลชุดนี้กู้เงินมาแจก โดยไปเชื่อทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่ผิดๆ คิดว่าแจกประชาชนแล้วเศรษฐกิจจะเจริญ

เปรียบเหมือนในบ้านหลังหนึ่ง มีพ่อไปกู้เงินมาแจกลูกๆ คนทั้งบ้านต้องเป็นหนี้ ถามว่าแล้วแบบนี้จะเจริญได้อย่างไร?

ดังนั้น เรื่องที่เราเห็นชัดเจนวันนี้คือรัฐบาลเป็นหนี้จะทะลุ 60% แล้ว

จากนี้ไปสิ่งที่ประเทศเราจะเจอ คือ ประชาชนเป็นหนี้ รัฐบาลก็เป็นหนี้ แล้วประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่มีทรัพย์สิน

จะเห็นได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ประชาชนฐานะห่างกันเป็นอันดับ 1 ของโลก คือมีคน 1% ถือครองทรัพย์สิน 66% ส่วนคนอีก 99% มีทรัพย์สิน 33% โดยที่มีคนกว่า 10 ล้านคน ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย

แล้วแบบนี้จะทำอย่างไร?

 

เมื่อมองสภาวะที่เกิดขึ้น ศ.สุชาติจึงบอกว่าเป็นหน้าที่คนในประเทศยากจนแบบเราไปทำงาน เราต้องให้คนในประเทศไปทำงาน แต่ประเทศเรากลับมีวันหยุดเยอะแยะไม่ให้ทำงาน แล้วยังมีส่วนที่ถูกสั่งให้หยุดไม่ให้ทำ การคิดแบบนี้ไม่ถูกต้อง เขาทำสิ่งที่ผิดไปจากหลักเศรษฐศาสตร์เลย หากยังทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ประเทศอาจล้มละลายได้ หนี้รัฐบาลก็มาก และหนี้ประชาชนก็มาก แล้วไม่เกิดการลงทุนเพราะเงินคืนหนี้ก็ไม่พอแล้ว

ขณะเดียวกันเราควรหันกลับมาดูแลเรื่องการใช้จ่ายของรัฐบาล การใช้จ่ายของรัฐบาลหลายแสนล้านบาท เป็นการใช้จ่ายไม่จำเป็น เช่น ค่าโฆษณา ค่าทำไอโอ ค่าใช้จ่ายในการติดตามตรวจสอบประชาชน เป็นต้น มีการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ มีตำแหน่งในฝ่ายป้องกันประเทศเยอะจนเกินความจำเป็น หากลดเรื่องนี้ลงแล้วหันมาดูแลประชาชนให้ดีขึ้น

การนำเงินมาแจกประชาชนโดยที่เขาไม่รู้ว่าเป็นเงินที่ตนเองต้องร่วมใช้หนี้กับประเทศเหมือนการให้ยาเสพติด เอามาให้แล้ววันใหม่พรุ่งนี้เขาก็ต้องการอีก หากยังกู้เงินมาเรื่อยๆ ทั้งตัวประชาชนและตัวรัฐบาลจะทำให้ประเทศล้มละลาย หนี้สินล้น และตอนนี้ภาคประชาชนไม่มีเงินลงทุน และภาครัฐบาลก็ไม่ได้ลงทุนอะไรเลยทางด้านการผลิตแหล่งน้ำ ถนน ไม่มีอะไรเลย ปล่อยไปตามยถากรรม

ดังนั้น รัฐบาลควรหันกลับมามองการลดค่าใช้จ่าย Consumption ที่ไม่จำเป็นลง และเปลี่ยนเป็น Investment การลงทุนเพราะว่า GDP มันต้อง 4 ตัวบวกกัน คือ Combustion+Investment (การบริโภค+การลงทุน+การใช้จ่ายรัฐบาล และ+การส่งออกและการนำเข้า) คุณต้องปรับไปเน้นการลงทุน

เช่น ในจีนการลงทุนของจีนมีถึง 45% ของรายได้ทั้งประเทศที่เขาได้มา แต่โครงสร้างในไทยประมาณ 20% แบบนี้ต้องเร่งแก้ไขวางกรอบและหันมาดูจริงจังว่าตัวเองมีความเข้าใจการบริหารระบบเศรษฐกิจหรือไม่

เปรียบเทียบราคาเงินบาทกับเงินต่างประเทศ ปรับค่าเงินให้สู้กับต่างประเทศได้ บางครั้งคุณทำให้ค่าเงินแข็งเกินไปทำให้ราคาที่คิดเป็นมูลค่าดอลลาร์มันแพงเกินไป แล้วขายได้ไม่ได้ พอขายไม่ได้ก็จะถูกลดการผลิตลงเพราะว่าไม่มีคนซื้อ

มองไประบบการขนส่งต่างๆ และการสร้างระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะการคมนาคม ปีนี้ไม่ขยับอะไรเลย การป้องกันปัญหาอุทกภัยทางน้ำ รัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรเลยเหมือนกัน พอเกิดปัญหาหน้าแล้งฝนขาด หรือตกมากเกินไปจนท่วม จนทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย

ตามมาด้วยปัญหาการดูแลเรื่องโลกระบาดสัตว์ มองว่ารัฐบาลทำได้แย่หมด โรคระบาดในคน (โควิด-19) ที่ผ่านมาก็ทำได้ไม่ดีจนประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือ จนกระทั่งมาเกิดโรคระบาดในหมู ยังมีการปกปิด แล้วคิดว่าคนอื่นไม่รู้ เป็นไปไม่ได้แล้ว

 

ศ.สุชาติกล่าวอีกว่า ผมพูดความจริงจากใจเลยว่า การเอาเงินไปแจกประชาชนไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ มันไม่ได้ทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง แต่มันจะทำให้คนรู้สึกดีเหมือนในครอบครัวมีพ่อเลี้ยงที่ไม่หวังดี อยากจะให้คนในครอบครัวชอบ ก็ไปแอบกู้เงินในนามครอบครัว พอทุกคนเซ็นรับทราบ แล้วก็เอาเงินไปกินไปใช้ วันนี้คนละครึ่งมาอีก พรุ่งนี้ยิ่งใช้ยิ่งได้มาอีก ในที่สุดแล้วครอบครัวเป็นหนี้ ไม่ใช่คนที่ไปกู้เงินมาเป็นหนี้คนเดียว แต่เป็นทั้งครอบครัว

ถ้ามันเป็นสิ่งที่ดี ประเทศที่เจริญแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา เยอรมนี แคนาดา หรือแม้กระทั่งจีนปัจจุบัน เขาทำกันไปแล้ว ทำไมประเทศจีนเขาถึงให้ประชาชนออกไปทำงาน ทำไมเขาไม่ประกาศวันหยุดเยอะๆ ให้ประชาชนไปเที่ยว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาล-ผู้นำปัจจุบันไม่เข้าใจแล้วก็ไม่รู้ความจริง เป็นการสร้างหายนะให้กับแต่ละครอบครัวในประเทศและทำลายประเทศเอง พอถึงเวลาไม่มีเงินลงทุนเพราะเป็นหนี้

นี่คือเหตุผลที่เศรษฐกิจไทยในห้วง 6-7 ปีโตขึ้นแค่ 2-3% แต่เศรษฐกิจประเทศอื่นๆ ในอาเซียนโตกว่าประเทศไทยกันหมด ก่อนหน้านี้เราโตกว่าประเทศอื่นๆ อดีตโตขึ้นปีละ 6-7% สาเหตุมาจากเพราะมีรัฐบาลที่ดีและน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ในช่วงนั้นและผู้นำต้องฉลาด

 

ถ้าสมมุติว่ารัฐบาลนี้ยังอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ศ.สุชาติมองว่าก็จะเป็นประเทศที่ไม่เข้าใจโลกยุคใหม่ และอีกปีสองปีจะเป็นยุคควอนตัม คือมีคอมพิวเตอร์แบบใหม่ที่คิดได้เร็วกว่ายุคดิจิตอลเป็นล้านเท่า และโลกก็จะเป็นโลกเสมือนจริง คุณสามารถเอาของเสมือนจริงมานั่งตรงนี้ได้คุยกับตัวเราสามารถจัดการได้ แล้วถ้าคุณไม่รู้เรื่องเหล่านี้ แถมคุณคิดเป็นแบบเก่า เพื่อว่าคุณจะอยู่ในประเทศต่อไป มีอำนาจต่อไป ห้ามนี่ห้ามนั่น คนในประเทศคุณก็จะไม่มีความรู้ จริงๆ แล้วระบบการศึกษาเรามันแย่มาก เป็นเพราะเราใช้ระบบราชการให้การศึกษา เราไม่ใช้ระบบแข่งขัน เราบอกเอาเงินไปให้ราชการมากขึ้น โดยที่หวังว่าจะทำให้การศึกษาดีขึ้น ถามว่ามันจะดีได้ยังไง เพราะราชการมากขึ้นก็ตั้งองค์กรต่างๆ มากขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อดูแลคนของตนเอง

สุดท้ายผมอยากเรียนพี่น้องประชาชนแบบนี้ คือ อย่าไปเชื่อ อย่าไปหลงกับนโยบายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประชาชน เช่น คนละครึ่ง ยิ่งซื้อยิ่งได้ เพราะว่าบางส่วนคนที่เกี่ยวข้องในภาครัฐเขาได้ประโยชน์มากกว่าคุณ เราได้เศษมานิดหน่อย ประชาชนคุณต้องรู้เรื่องสิทธิเสรีภาพของตัวเอง คุณต้องเรียกร้องว่าต้องการสังคมอย่างไร คุณต้องเรียกร้องว่าต้องการสังคมที่สามารถทำงานและตัวเองเก่งขึ้น ฉลาดขึ้น มีเทคโนโลยี มีความรู้มากขึ้นอย่างไร ถ้าเรียนจบมาแล้วอยากทำงานในโลกสมัยใหม่ก็มีที่เรียนรู้ได้ รัฐบาลไม่ต้องจัดหรอก เดี๋ยวก็ไปแอบทุจริตกันไป รัฐบาลก็ให้ทุน ประชาชนแต่ละคนไปเรียนในที่ที่เอกชนจัด เข้าไปเรียนได้เลย

อย่างทุกวันนี้ทุนโครงการเรียนฟรีถึง 12 ปี มันอยู่ที่กระทรวงนะ ไม่ได้ให้ที่ตัวคนใช้ แต่คุณเอาเงินให้ระบบราชการไปใช้หมด มันไม่สามารถพัฒนาได้

ประชาชนต้องมีปากมีเสียงมากขึ้น มีสิทธิเสรีภาพมากขึ้น มีประชาธิปไตยมากขึ้น มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น

เมื่อไหร่ที่รัฐบาลลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้ เงินก็จะอยู่กับประชาชนมากขึ้น ประเทศก็จะเจริญ ให้ประชาชนมองอย่างนี้ ควรมองการบริหารประเทศด้วยความสงสัย ให้ความเห็นได้ เพราะเราเป็นเจ้าของประเทศ เราจ้างคนเหล่านั้นเข้ามาทั้งนั้น

การบริหารประเทศต่อไปนี้ประชาชนต้องมีอำนาจ

ชมคลิป