ส่องข้าวยาก ‘หมู’ แพง จับตาการเปลี่ยนแปลงห้วงสงกรานต์/รายงานพิเศษ ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ

รายงานพิเศษ

ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ

ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์สากลและยูเรเนียนแห่งประเทศไทย

email : [email protected]

Facebook : Classical and Uranian Astrology Thailand

วรเชษฐ์ ตียเกษม ที่ปรึกษา

โหราศาสตร์ยูเรเนียน

 

ส่องข้าวยาก ‘หมู’ แพง

จับตาการเปลี่ยนแปลงห้วงสงกรานต์

 

ช่วงปลายปี พ.ศ.2564 มีข่าวสะท้อนความทุกข์ร้อนของประชาชนเรื่องปัญหาปากท้อง ราคาหมูแพงพรุ่งพรวดไปถึงกิโลกรัมละ 200-250 บาท เป็นราคาหมูที่แพงสูงมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ เกิดจากหมูที่เลี้ยงลดจำนวนลงไปหลายล้านตัวเป็นผลมาจากช่วงวิกฤตโควิด-19 ผู้เลี้ยงหมูแบกรับภาระไม่ไหว ราคาอาหารหมูแพงขึ้น ในช่วงที่ผ่านมาเกิดน้ำท่วมใหญ่มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร นาข้าว พื้นที่ปลูกผักและเลี้ยงหมูได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ต่อมาเกิดโรคระบาดในหมู จากข่าวกรณีมีการตรวจพบเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican Swine Fever หรือ ASF) ในไทย จนเกิดการระบาดทำให้หมูในฟาร์มตายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น หมูที่นำมาชำแหละในช่วงเทศกาลปีใหม่มีความต้องการสูงขึ้น ทำให้ราคาหมูสูงขึ้นเรื่อยมาและยังไม่มีวี่แววว่าราคาหมูจะปรับลดลง

จากกรณีหมูเกิดโรคระบาดในคราวนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะนำมาเป็นการศึกษาค้นคว้าโดยใช้จุดอิทธิพล อังคาร+เนปจูน-มฤตยู (MA+NE-UR) หมายถึง การฆ่าสัตว์ด้วยความจำเป็น จากคัมภีร์พระเคราะห์ในโหราศาสตร์ยูเรเนียน เพื่อค้นหาผลของการเกิดเหตุดังกล่าวที่จะส่งผลต่อแนวโน้มแนวในการแก้ไขปัญหา

“หมู” เป็นวัตถุดิบพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของประชาชนทั้งประเทศ เรื่องของ “หมู” จะไม่หมูอีกต่อไป “หมู” นัยว่า “ง่ายๆ” กำลังจะสร้างปัญหาที่เป็นตัวแปรสำคัญต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

ตามที่เคยพยากรณ์ไว้ว่าประชาชนจะยากจนนั้น (บทความเรื่อง “โอมิครอน” เชื้อโควิดกลายพันธุ์) เหตุการณ์หลายๆ อย่างกำลังเกิดขึ้นส่งผลอย่างต่อเนื่อง ยุคนี้กลับกลายเป็น “ยุคข้าวยาก หมูแพง” อย่างไม่น่าเชื่อ

จากภาพดวงดาว ราคาหมูและวัตถุดิบอาหารอื่นๆ เช่น ไก่ ไข่ เป็ด เนื้อสัตว์ จะมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงหลังตรุษจีน แม้ว่ามีการพยายามตรึงราคาแต่ไม่สามารถทำได้จริง ไม่มีวัตถุดิบอื่นๆ เช่น เนื้อสัตว์เทียมที่ทำจากพืชมาใช้ทดแทนได้เท่ากับเนื้อหมูจริงๆ การปรับตัวของราคาหมูจะค่อยๆ ขยับขึ้นทีละน้อยๆ จนเห็นชัดเจนในช่วงตรุษจีนนี้

ผู้ค้าหัวใสจะนำหมูไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ยิ่งจะทำให้หมูสดชำแหละน้อยลง ราคายิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว แม้ว่าผู้ค้ารายย่อยๆ จะพอมีกำไรบ้าง แต่ผลกำไรที่เป็นกอบเป็นกำก็ยังตกอยู่ในมือของผู้ค้ารายใหญ่ที่มีน้อยรายในบ้านเมืองเรา ผลกระทบต่างๆ ก็โยงกันเป็นลูกโซ่ ค่อยๆ ลามออกไปอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลยังไม่สามารถหาแนวทางแก้ไขปัญหาราคาหมูแพงได้ ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนกันทั่วหน้า ด้วยรายได้ลดลง สินค้าแพงขึ้น วิกฤตโควิด-19 ก็ยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง กระแสความไม่พอใจที่มีต่อภาครัฐในการบริหารประเทศเริ่มสะสมและทวีความรุนแรงจากผลการทำงานอย่างต่อเนื่อง

เหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่มากมายในขณะนี้ ทั้งวิกฤตโควิด-19 การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสนี้ การบริหารจัดการวัคซีน การจัดการเรื่องหนี้สินของประชาชน การศึกษา และอื่นๆ อีกมากมายที่ยังคงค้างคาอยู่ในขณะนี้ ปมปัญหาเริ่มชัดเจน เห็นผลที่ลุกลามในวงกว้าง

การแก้ไขปัญหาของภาครัฐในด้านการเยียวยาด้วยการแจกเงินในแคมเปญต่างๆ ที่ภาครัฐพยายามจะสานต่อความต่อเนื่องเพื่อให้กับประชาชนเกิดความพึงพอใจ แต่ผลของปัญหามันกว้างและลุกลามจนโครงการแจกเงินอาจจะไม่ช่วยในการสร้างความเชื่อมั่นที่มีต่อการบริหารงานของรัฐบาลได้อีกต่อไป

อีกทั้งปมปัญหาต่างๆ ของพรรคร่วมรัฐบาลและความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างกันและกัน ก็จะยิ่งส่งผลต่อการประสานการทำงานที่จะเอื้อผลประโยชน์ต่อกัน กลับเริ่มให้แต่ละฝ่ายเร่งสร้างผลงานของตนเองให้โดดเด่นภายใต้วิกฤตต่างๆ ที่มากมายในขณะนี้

ความทุกข์ระทมของประชาชนจะค่อยๆ ระอุกลายเป็นคลื่นมหาชนที่พุ่งเป้าตรงไปยังนายกฯ และรัฐบาลชุดนี้ เหตุการณ์ต่างๆ เริ่มส่งผลต่ออำนาจของรัฐบาล ที่ “หมู” ปัญหานี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายในการแก้ไขปัญหา และอาจเป็นเหตุให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อรัฐบาลในไม่ช้านี้

รอจังหวะช่วงใกล้ๆ สงกรานต์จะเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น

 

หมายเหตุ

บทความนี้พยากรณ์โดยใช้ดวงเหมายัน (Winter Solstice) ตรงกับวันที่ 21 ธันวาคม 2564 เวลา 22:59:08 น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย (105E) พิมพ์ดวงจาน 2 ชั้น หรือจานจรัญ (45 องศา) ด้วยโปรแกรม Solar Fire

พยากรณ์ดวงชะตาใช้พยากรณ์ด้วยโหราศาสตร์ยูเรเนียนระบบจาน 2 ชั้น นำคำแปลความหมายมาจากหนังสือคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ อ.พลตรี ประยูร พลอารีย์

ภาพดวงดาวในดวงเหมายันมีดาวเนปจูน สถิตเรือนที่ 12 หมายถึง ความเจ็บป่วย โรคภัย เกี่ยวกับโรงพยาบาล การปศุสัตว์ ดาวเสาร์ทำมุม 150 องศากับฮาเดส หมายถึง ความเจ็บป่วยที่รุนแรงยาวนาน เสาร์ยังทำมุม 150 องศากับลัคนาด้วย

1. พิจารณาจุด อังคาร+เนปจูน-มฤตยู (MA+NE-UR) หมายถึง การทำลายล้าง อุบัติเหตุ การลอบสังหารที่อุบัติขึ้นโดยพลัน การฆ่าสัตว์ด้วยความจำเป็น เนื่องจากกาารป่วยเป็นโรคหรืออุบัติเหตุ

พบว่าจุด อังคาร+เนปจูน-มฤตยู (MA+NE-UR) สัมพันธ์กับอังคาร/เนปจูน สะท้อน = พลูโตสะท้อน/ฮาเดส = เสาร์/อาพอลลอน = เสาร์สะท้อน/ลัคนา = มฤตยู/ฮาเดสสะท้อน = มฤตยู/คิวปิโดสะท้อน = มฤตยูสะท้อน/จันทร์

แปลว่า การฆ่าสัตว์ด้วยความจำเป็น หรือการลอบสังหารที่อุบัติขึ้นโดยพลัน (หมูตายเพราะโรคระบาด) เกิดจากการติดเชื้อ (อังคาร/เนปจูน สะท้อน) เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการเสื่อมทรามอย่างเลวร้ายของสถานการณ์ (พลูโตสะท้อน/ฮาเดส) ส่งผลให้เกิดความขยะแขยงหรือความรังเกียจที่มีลักษณะพิเศษ (มฤตยู/ฮาเดสสะท้อน) เหตุการณ์ฉับพลันในครอบครัว ในที่นี้หมายถึงฟาร์ม (มฤตยู/คิวปิโดสะท้อน) เกิดการลุกฮือของประชาชน (มฤตยูสะท้อน/จันทร์) ทั้งนี้เพราะเดือดร้อนต่อปากท้องของประชาชนในวงกว้าง

2. พิจารณาจุด อังคาร/เนปจูน//มฤตยู (MA/NE/UR) สัมพันธ์กับอาทิตย์/เมษ = อังคาร/มฤตยูสะท้อน= อังคาร/คิวปิโด แปลว่า การฆ่าสัตว์ด้วยความจำเป็น หรือการลอบสังหารที่อุบัติขึ้นโดยพลัน เกิดขึ้นในดวงเหมายันเป็นเหตุการณ์ฉับพลัน (อังคาร/มฤตยูสะท้อน) ในกลุ่มการงาน (อังคาร/คิวปิโด)

ในที่นี้หมายถึง กลุ่มผู้เลี้ยงหมู