DON’T LOOK UP ‘ดาวหางชนโลก’ / ภาพยนตร์ : นพมาส แววหงส์

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์

นพมาส แววหงส์

 

DON’T LOOK UP ‘ดาวหางชนโลก’

 

กำกับการแสดง

Adam McKay

นำแสดง

Leonardo DiCaprio

Jennifer Lawrence

Meryl Streep

Cate Blanchett

Mark Rylance

Jonah Hill

Timothee Chalamet

 

Don’t Look Up เป็นหนังตลกเสียดสี (satirical comedy) ที่มีเนื้อหาแสบเข้าไปถึงทรวง ซึ่งวิพากษ์สังคมและสะท้อนให้เห็นโฉมหน้าของวงการเมือง สื่อมวลชน โลกโซเชียล และทัศนคติของผู้คนในยุคสมัยของโลกที่ล่วงเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 ของสหัสวรรษที่ 3

ในโลกที่อัดแน่นอื้ออึงไปด้วยข้อมูลข่าวสารที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง-ซึ่งมีที่ไม่จริงมากกว่าที่ยืนยันจริง-เสียงของหายนภัยขั้นร้ายแรงสาหัสถูกกลบไว้เสียจนแทบไม่มีใครตระหนกตกใจหรือกระดิกตัวลงมือทำอะไรกับข่าวร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ซึ่งจะหมายความถึงการอยู่รอดของสรรพสิ่งที่มีชีวิตบนดาวเคราะห์โลก

นี่เป็นคำวิพากษ์ถึงปฏิกิริยาของผู้คนต่อข่าวหายนภัยของภาวะโลกร้อนที่กำลังคุกคามโลกอยู่ทุกวันนี้ด้วย

 

คนทั้งหลายสนใจฟังอัพเดตล่าสุดเกี่ยวกับข่าวซุบซิบเรื่องซูเปอร์สตาร์สาว “เตียงหัก” หรือแตกหักกับแฟนคนล่าสุด และหันมาคืนดีให้อภัยแก่ความผิดพลาดครั้งใหญ่ในเรื่องนอกใจกัน ในรายการสดต่อหน้าผู้ชม มากกว่าจะสนใจกับการสัมภาษณ์นักดาราศาสตร์โนเนมที่มาแจ้งข่าวดาวหางพุ่งชนโลกในอีกหกเดือนข้างหน้า

และก่อให้เกิด “เมนต์” และ “เมาธ์” กันใหญ่โตเป็นสายยืดยาวต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ โดยไม่นำไปสู่ข้อสรุปอะไรเลย

ชีวิตของ “เซเลบ” กลายเป็นเรื่องสาธารณะที่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของบุคคลอีกแล้ว

 

เมื่อเปิดเรื่อง นักศึกษาปริญญาเอกซึ่งศึกษาเรื่องดาราศาสตร์อยู่ที่มหาวิทยาลัยในมิชิแกน เคต ดิบิอาสกี (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) ตื่นเต้นกับการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ของเธอ ด้วยการคำนวณตำแหน่งดาวหางจากนอกระบบสุริยะ ภายใต้อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ คือ ดร.แรนดัลฟ์ มินดี (เลโอนาร์โด ดิแคปริโอ)

ดาวหางได้รับการตั้งชื่อตามผู้คนพบ คือดาวหางดิบิอาสกี

ยังไม่ทันที่ความตื่นเต้นดีใจจะจางหายไป การคำนวณตำแหน่ง ความเร็ว และเส้นทางโคจรของดาวหางขนาดยักษ์นี้ก็บอกด้วยว่าดาวหางดิบิอาสกีกำลังจะพุ่งเข้าชนโลกในเวลาอีก 6 เดือน 15 วันข้างหน้า

นี่เป็นข่าวใหญ่ระดับมหากาฬสำหรับคนทุกคนบนโลก

ก็ถ้าเมื่อไดโนเสาร์ซึ่งครองความเป็นใหญ่บนโลกมายาวนานถึง 165 ล้านปี พากันล้มหายตายจากสูญพันธุ์ไปจากโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อนเนื่องจากมีดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนโลกแล้วละก็ เหตุการณ์ที่ซ้ำรอยเดิมแบบนี้จะก่อให้เกิดจุดจบแบบไหนสำหรับมนุษยชาติกันเล่า

ทั้ง ดร.มินดีและเจ้าของชื่อดาวหาง เกิดหนาวจับขั้วหัวใจเลยว่าเหลือเวลาอยู่บนโลกเพียงแค่หกเดือนเศษๆ เท่านั้น

 

ข่าวใหญ่ของการค้นพบแบบนี้ต้องถึงหูผู้มีอำนาจสั่งการในประเทศ นั่นก็คือ ประธานาธิบดี แต่ทั้งสองซึ่งถูกพาตัวเข้าพบประธานาธิบดีเพื่อแจ้งข่าวสำคัญนี้ กลับต้องรออยู่ทั้งวันและยังต้องค้างคืนทั้งคืนรอจนกว่าประธานาธิบดีออร์ลีน (เมอริล สตรีป) จะมีเวลาว่างให้พบและเข้าประชุมพร้อมกับเสนาธิการของเธอ คือ หัวหน้าทำเนียบขาว เจสัน ออร์ลีน (โจนาห์ ฮิลล์) ซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขสายตรงของเธอด้วย

นี่เป็นการเสียดสีใครที่เป็นประมุขของประเทศอย่างจังนั้นก็คงไม่ต้องชี้แจงแถลงไขในที่นี้ นอกจากจะบอกว่าเป็นการใช้ระบบเครือญาติในการบริหารปกครองประเทศ ซึ่งคงไม่ใช่แต่มีในสหรัฐเพียงประเทศเดียว

เป็นการวิพากษ์ระบบการเมืองอย่างจังทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งนี้พูดและทำในสิ่งงี่เง่าไร้ความคิดและแสดงความเย่อหยิ่งหัวสูงต่างๆ นานา โดยคิดหมกมุ่นอยู่เพียงเรื่องเดียวกับคะแนนเสียงที่จะได้รับจากประชาชนผู้เลือกตั้ง ซึ่งคือการอนาคตการเมืองของตนเอง โดยไม่ได้มองเห็นภาพใหญ่ภาพรวม หรือความอยู่รอดของโลกเลย

ผลสรุปของการประชุมครั้งนั้น คือ ประธานาธิบดีบอกให้นั่งเฉยๆ รอประเมินสถานการณ์ก่อน ซึ่งสร้างความตะลึงงันแก่กลุ่มนักดาราศาสตร์/นักวิทยาศาสตร์เป็นที่ยิ่ง

 

เมื่อบุคคลในระดับสูงคนเดียวที่จะมีอำนาจสั่งการในมาตรการรักษ์โลกขั้นสูงสุด ไม่ยอมขยับตัวทำอะไรก่อนจะ “ประเมิน” สถานการณ์ให้ถี่ถ้วน กลุ่มนักดาราศาสตร์โนเนมก็ได้รับคำแนะนำให้ไปหาสื่อมวลชน

และสื่อมวลชนที่พวกเขาติดต่อไปออกรายการสัมภาษณ์ คือรายการชื่อ The RIP ซึ่งเรามักจะใช้เป็นคำย่อสำหรับ Rest In Peace หรือถ้าพูดเป็นไทยก็คงต้องบอกว่า “ขอให้ไปสู่สุคติ” หรือ “ขอให้ไปที่ชอบๆ เถอะ” รายการนี้มีพิธีกรชายหญิง คือ แจ็ก เบรมเมอร์ (ไทเลอร์ เพอร์รี) และบรี เอวานที (เคต แบลนเชตต์)

ผู้ร่วมรายการที่มาให้สัมภาษณ์อีกคนคือ ซูเปอร์สตาร์นักร้องสาว (อาเรียนา กรานเด) ซึ่งกำลังตกเป็นข่าวเรื่องเพิ่งจะเลิกลากับแฟนหนุ่มที่นอกใจเธอตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

แถมพิธีกรกลับรับฟังและ “เมนต์” ต่อข่าวน่าตกใจนี้ในลักษณะทีเล่นมากกว่าทีจริง โดยบอกว่าหน้าที่ของสื่อมวลชนอย่างเขาคือ กรองข่าวที่จะสร้างความแตกตื่นแก่คนทั่วไปไว้ และทำให้เรื่องมันเบาสมอง และสนุกสนาน

ซึ่งแน่นอนว่านี่สะท้อนให้เห็นถึงโลกปัจจุบันของเราที่ไม่เห็นเรื่องอะไรเป็นเรื่องจริงจังเลย

 

เสียงตอบรับต่างๆ จากผู้คนแตกแยกกันไปคนละทางสองทาง และในที่สุดก็คือการมองข้ามหรือไม่มองดูความจริงไปเลย ซึ่งเป็นความหมายของชื่อหนังว่า “อย่าเงยหน้าไปมองสิ”

เนื่องจากหนังเป็นคอเมดีแบบจี้เส้น ดังนั้น แคแร็กเตอร์ของตัวเอกจึงพลอยหลุดโลกและเพี้ยนๆ ไปด้วย

เมื่อมองเห็นประโยชน์ในทางความนิยมของมวลชน ประมุขของประเทศก็สั่งการให้มีมาตรการรักษาโลกไว้ด้วยการยิงจรวดไปสะกัดวิถีการโคจรของดาวหาง แต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากผู้ทรงอิทธิพลเบื้องหลังทำเนียบขาว ต้องการใช้ประโยชน์จากแร่ธาตุบนดาวหาง

ปีเตอร์ อิเชอร์แวลล์ (มาร์ก ไรแลนซ์) เป็นอภิมหาเศรษฐีผู้ครอบครองกิจการทางเทคโนโลยี และอยู่เบื้องหลังแผนการใหญ่ทั้งปวงอีกที

หลังจากเหตุการณ์ร้ายแรงทั้งหลายทั้งปวงแล้ว หนังยังขยักตอนจบไว้หลังเครดิตอีกนิด ซึ่งจะสร้างความสะใจให้แก่พวกคนดูที่มักทนไม่ได้เมื่อผู้ร้ายที่ประกอบกรรมทำชั่วขั้นอุกฤษฏ์แล้วหนีรอดไปได้สบายๆ โดยไม่ได้ถูกลงโทษให้สาสม

อย่าลืมดูจนถึงท้ายเครดิตตอนจบนะคะ