Acoustic Energy For the Love of Music / เครื่องเสียง : พิพัฒน์ คคะนาท

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

 

Acoustic Energy

For the Love of Music

 

ช่วงเวลาสบายๆ ของวันหยุดเทศกาลที่ผ่านมานับแต่สุดสัปดาห์ก่อนสิ้นปี ยาวมาจนสิ้นสัปดาห์แรกของปีนี้ มีลำโพงพลัดหลงเข้ามาอยู่ด้วยในห้องคู่หนึ่ง ซึ่งแม้จะไม่ใช่ลำโพงรุ่นใหม่เพราะออกตลาดมานานพอประมาณแล้ว แต่ก็ยังเป็นลำโพงที่ยังอยู่ในสายการผลิตของปัจจุบัน ที่ดูท่าแล้วคงยืนยาวไปอีกระยะ เพราะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในยอดนิยมระดับต้นๆ ของนักเล่นกลุ่มที่กำลังเริ่มสั่งสมทักษะการฟัง

ในตลาดทางแถบยุโรปนั้น ลำโพงรุ่นนี้ติดอยู่ในกลุ่ม Best Buy มาอย่างต่อเนื่อง และเท่าที่ทราบในตลาดบ้านเราก็ได้รับความนิยมแบบตามน้ำไปได้เรื่อยๆ ครับ

ลำโพงคู่ที่ว่าก็คือ Acoustic Energy AE300 ซึ่งเป็นลำโพงวางหิ้งที่แต่เดิมฝรั่งมังค่าผู้ให้นิยามนั้นเรียกว่า Bookshelf Speaker แต่ปัจจุบันมีความพยายามในการเปลี่ยนนิยามเรียกเสียใหม่ เพื่อให้ถูกต้องหรือเหมาะสมกับลักษณะการนำไปใช้งานจริงด้วยคำว่า Standmount Speaker

คือต้องประกอบเข้าขาตั้ง (Speaker Stand) หรือต้องนำไปวางบนขาตั้งในเวลาใช้งานเป็นสำคัญ

 

กับชื่อ Acoustic Energy หรือที่เรียกกันในวงการว่า AE นั้น แม้จะมีชื่อ ชั้น จัดอยู่แถวหน้าๆ ของยุทธจักรลำโพงโดยเฉพาะทางแถบยุโรปมาเกือบสี่ทศวรรษ

ทว่า กับในบ้านเราแล้ว ก่อนนี้ไม่เป็นที่รู้จักกันสักกี่มากน้อย เนื่องเพราะไม่ได้มีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยมีการเปลี่ยนมือตัวแทนผู้นำเข้าเป็นช่วงๆ ก็เลยไม่มีขาประจำสักเท่าไร ด้วยเหตุไม่มั่นใจในการยืนระยะของผู้นำเข้า อันนำไปสู่เรื่องสำคัญของผู้บริโภคซึ่งก็คือบริการหลังการขายนั่นเอง

แต่เวลานี้นักเล่นบ้านเราวางใจกับแบรนด์นี้มาได้สักระยะแล้วล่ะครับ สักระยะที่ว่าก็น่าจะสักใกล้ๆ ห้าปีเห็นจะได้ ที่ลำโพงค่ายนี้กลับมาในตลาดบ้านเราอีกครั้ง

ซึ่งการมาหนนี้เป็นการนำเข้าโดยมือเก่าระดับเก๋าของวงการ เพราะโลดแล่นอยู่ในยุทธจักรนี้มาร่วมๆ สี่ทศวรรษครึ่ง ซึ่งกำลังเดินหน้าสู่หลักไมล์ครึ่งศตวรรษของธุรกิจแขนงนี้อย่างมาดมั่น และยังไม่ได้ผลัดใบแบบเต็มไม้เต็มมือแต่อย่างใด

หัวเรือใหญ่ยังคงคัดท้ายองค์กรอยู่อย่างมั่นคง และเป็นจักรกลสำคัญที่ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำเข้าที่มีความรับผิดชอบในเชิง After Sale Service ระดับเบอร์ต้นๆ ของวงการบ้านเรามาตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่เริ่มต้นกิจการ จนตราบถึงทุกวันนี้ก็ยังคงได้รับความเชื่อมั่นในการนี้จากลูกค้าระดับสูงเช่นเดิม

ก็เลยทำให้มั่นใจได้ล่ะครับ ว่ากลับเข้ามาบ้านเราเที่ยวนี้ AE น่าจะยืนระยะอยู่ได้อีกนับนานเลยทีเดียว

 

กล่าวสำหรับ AE หรือ Acoustic Energy แม้อายุงานในวงการอาจไม่เท่าแบรนด์ลายครามหลายๆ แบรนด์ เพราะเพิ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาประมาณสามทศวรรษครึ่งเท่านั้น แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ลำโพงที่โลดแล่นในวงการอย่างมีสีสันอยู่ไม่น้อย และได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตลำโพงระดับ World Class มาตั้งแต่ยุคแรกๆ โดยลำโพงของค่ายนี้มิเพียงเป็นที่ยอมรับอย่างมากในสตูดิโอบันทึกเสียงเท่านั้น หากยังเป็นที่แพร่หลายนิยมชมชอบในหมู่คนเล่นเครื่องเสียงอย่างมากอีกด้วย ด้วยความเที่ยงตรงของน้ำเสียงที่กอปรเข้ากับเสน่ห์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวอย่างน่าฟัง

ทำให้นอกจากจะเป็นที่ชื่นชมของนักวิจารณ์ และสื่อทางด้านนี้แล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมเชิงนี้ทั้งในแง่ของการรังสรรค์วัสดุ และการคิดค้นทางด้านการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประสานใช้ในการออกแบบได้อย่างลงตัว

AE แจ้งเกิดที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกษ เมื่อปี ค.ศ.1987 โดย Phil Jones ผู้หลงใหลในเรื่องของเสียงและดนตรีมาแต่อ้อนแต่ออก เนื่องเพราะมีคุณพ่อเป็นนักดนตรีอยู่ในวง Big Band ขณะที่ตัวเขาเองนั้นเวลาส่วนใหญ่ก็ง่วนอยู่กับเรื่องพวกนี้ โดยเริ่มลงมือประกอบวิทยุ AM มาตั้งแต่เก้าขวบ หลังจากเริ่มเรียนรู้เรื่องราวทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ได้ไม่นาน

หลังจากก่อตั้งบริษัทขึ้นมาได้ไม่นานปี ก็เข้าสู่ยุคทองของวงการเครื่องเสียง Hi-Fi ซึ่งอยู่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80s ไปยันทศวรรษที่ 90s ได้มีทุนนอกเข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนในบริษัทด้วย ก็เลยย้ายฐานการผลิตออกไปนอกอังกฤษมาทางด้านแถบเอเชียเราในลักษณะ OEM : Original Equipment Manufacturer

และเป็นช่วงนั้นเองที่เสมือนเป็นการ ‘ติดปีก’ ให้กับ Acoustic Energy เพราะมีเงินทุนมาสนับสนุนทำให้สามารถออกแบบและผลิตนานาผลิตภัณฑ์ออกมาได้มากมาย เพราะมีความเชี่ยวชาญและช่ำชองทางด้านวิทยาการเชิงนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตบางสินค้าออกมาแบบ World First อีกด้วย อาทิ ลำโพง Bluetooth และเครื่องรับวิทยุ Wi-Fi Internet เป็นต้น

เมื่อธุรกิจอุตสาหกรรมขยายตัว ก็ต้องขยับขยายไปสู่ที่ทางใหม่ที่กว้างขวางกว่าเดิม เลยย้ายถิ่นฐานออกจากกรุงลอนดอน ไปยังเขตแถบเมืองเก่าที่รู้จักกันในชื่อ Cotswold Town โดยอยู่ที่เมืองหลักของย่านนี้ ที่ปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มเมืองทางด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของสหราชอาณาจักร คือเมือง Cirencester

ลำโพงรุ่นแรกที่เมื่อเปิดตัวออกมาและทำให้ชื่อของ Acoustic Energy กระฉ่อนวงการในทันทีก็คือ Model AE1 ได้รับการยกย่องอย่างมาก ว่าเป็นลำโพงแบบวางหิ้งที่ใช้งานประกอบขาตั้งแบบ Standmount ที่สามารถให้น้ำเสียงออกมาได้อย่างเลอเลิศในระดับต้นๆ ของลำโพงยุคนั้น

ได้รับการยกย่องว่า – เป็นลำโพงที่ทำลายทุกกฎเกณฑ์ที่เคยเป็นข้อจำกัดของลำโพงเล็กให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง และได้กลายเป็นลำโพงระดับตำนานของวงการมาจนทุกวันนี้ โดยนอกจากจะได้รับรางวัลจากสื่อต่างๆ มากกว่ามากแล้ว ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน Best British Speakers of All Time อีกด้วย

(ที่เห็นในภาพคือ AE1 Classic Limited Edition ผลิตออกมาเพียง 100 คู่ เมื่อปี ค.ศ.2016 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบสามทศวรรษแห่งความสำร็จของ AE1 วางจำหน่ายราคาคู่ละ 1,295 ปอนด์)

 

นับแต่ออกสู่ตลาด ลำโพงของ AE มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับเสียงชื่นชมตามมาไม่ขาดสายเช่นกัน โดยเฉพาะกับสื่อชั้นนำของสหราชอาณาจักรทั้ง What Hi-Fi? และ Hi-Fi Choice ต่างชื่นชอบและยอมรับในคุณภาพเสียงของลำโพงค่ายนี้มาโดยตลอด รวมทั้งรุ่นหลังๆ อย่าง Model AE100 ที่เป็นลำโพงเล็กแบบ Compact Bookshelf Standmount Speaker ซึ่งให้น้ำเสียงที่มีความยอดเยี่ยมและโดดเด่นอย่างมาก ทำให้ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะในแง่ของลำโพงที่มีความคุ้มค่าสูง ด้วยมีราคาจำหน่าย (ในบ้านเรา) ประมาณเจ็ดพันบาทต่อคู่ ปัจจุบันก็ยังอยู่ในสายการผลิต

หลังจากออกไปโลดแล่นท่องยุทธจักรอยู่ในมือของทุนใหม่ (ซึ่งเป็นบรรษัทข้ามชาติจากต่างแดน) มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 90s ปัจจุบันลำโพงแบรนด์นี้ได้กลับมาอยู่ในมือของคนอังกฤษล้วนๆ อีกหน เป็นการกลับสู่มาตุภูมิเมื่อเกือบห้าปีที่ผ่านมานี้เอง (ฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ.2017) ซึ่งเป็นการนำกลับคืนโดยเจ้าถิ่นในบริษัทสี่ซ้าห้ารายจับมือร่วมลงขันกันเอง

นับแต่นั้นมา Acoustic Energy จึงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นลำโพงอังกฤษแท้ๆ (อีกหน)

เที่ยวหน้า มาว่ากันถึง Model AE300 ของค่ายนี้กันครับ