นักเตะไอดอลชายแดนใต้ แชมป์ซูซูกิ กับการใช้ฟุตบอลดับ 18 ปีไฟใต้/บทความพิเศษ

บทความพิเศษ

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

[email protected]

 

นักเตะไอดอลชายแดนใต้

แชมป์ซูซูกิ

กับการใช้ฟุตบอลดับ 18 ปีไฟใต้

 

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

ขอแสดงความยินดีกับทีมชาติไทย ที่กลับมาเป็นเจ้าอาเซียนอีกครั้ง ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์อาเซียนสมัยที่ 6 พร้อมสถิติไร้พ่ายหลังเอาชนะอินโดนีเซียในรอบชิงชนะเลิศไปด้วยสกอร์รวม 2 นัด 6-2 โดยนัดแรกเอาชนะได้ 4-0 ก่อนที่จะเสมอกับอินโดนีเซียในนัดที่ 2 ไป 2-2 ส่งผลให้พวกเขาคว้าแชมป์อาเซียนสมัยที่ 6 มาครองได้สำเร็จ

ในขณะเดียวกันก็ให้กำลังใจแก่ผู้แพ้ “อินโดนีเซีย” เพราะมันคือสปิริตกองเชียร์เช่นกัน โดยเฉพาะในโลกโซเชียล

“ร่วมให้กำลังใจทีมชาติอินโดนีเซียและชาวอินโดนีเซีย เป็นสปิริตผู้ชนะ ไม่ว่านักเตะและกองเชียร์ชาวไทย อันเป็นจิตวิญญาณเกมกีฬาฟุตบอล กีฬาเป็นยาวิเศษ… เพลงที่ผู้เขียนฟังมาตลอดสมัยแข่งฟุตบอลสมัยเด็กๆ กว่า 40 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่โรงเรียนบ้านนา จะนะวิทยา และที่อื่นๆ ที่ผู้เขียนตระเวนแข่งขันสมัยนั้น”

“เราได้เห็นนักเตะพลังหนุ่มอินโดนีเซีย ถือว่าภาพรวม ‘เขาเล่นมีคุณภาพ มีนํ้าใจ’ และหวังว่าพวกเขาจะกลับมายิ่งใหญ่เมื่อมากประสบการณ์ขึ้น”

อย่างไรก็แล้วแต่ เกมกีฬาฟุตบอลครั้งนี้ได้ส่งผลต่อชายแดนใต้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะไอดอลสองนักเตะมุสลิมชายแดนภาคใต้ “นราธิวาส-ปัตตานี” คือ เอเลียส ดอเลาะ และศุภชัย ใจเด็ด

การแข่งขันฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ที่ประเทศสิงคโปร์ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดสุดท้าย ประจำวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2564 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เป็นเกมคู่ระหว่างทีมชาติไทย จ่าฝูงของกลุ่มที่มี 9 แต้ม จาก 3 นัด ลงสนามดวลกับเจ้าภาพสิงคโปร์ ทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม ที่มี 9 แต้ม จาก 3 นัดเท่ากัน แต่ลูกได้เสียเป็นรองทัพ “ช้างศึก” อยู่หนึ่งลูก

นาที 31 จากลูกฟรีคิกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษเยื้องทางขวา บดินทร์ ผาลา วิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวา บอลข้ามกำแพงไปถูกฮัสซัน ซันนี่ บินปัดแต่บอลไปชนเสามาเข้าทางปืน เอเลียส ดอเลาะ วิ่งตามมาซ้ำส่งบอลเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ช่วยให้ทัพ “ช้างศึก” ขึ้นนำ 1-0 จังหวะนี้เป็นโอกาสจบสกอร์ครั้งแรกของเอเลียส ดอเลาะ ในนามทีมชาติไทย

ช่วงทดเจ็บ นาที 45+2 ทัพ “ช้างศึก” มาได้ประตูหนีเป็น 2-0 จนได้ จากจังหวะที่วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ จ่ายบอลทะลุช่องมาให้กับศุภชัย ใจเด็ด หลุดเข้ามาในเขตโทษก่อนจะกระทุ้งด้วยขวาเต็มข้อ บอลผ่านตัวฮัสซัน ซันนี่ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม และเป็นลูกแรกของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้อีกด้วย ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ส่วนครึ่งหลังทำสกอร์ไม่ได้ จบเกมทีมชาติไทยเอาชนะเจ้าภาพสิงคโปร์ 2-0 ทำให้ทัพ “ช้างศึก” ชนะรวด 4 เกมติด เก็บ 12 คะแนนเต็ม จบด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่มเอ ขณะที่สิงคโปร์ ชนะ 3 แพ้ 1 มี 9 แต้ม จบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเอ

จูงมือกันผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยกันทั้งคู่

เอเลียส ดอเลาะ (มุสลิมจะอ่านว่า อิลยาส อับดุลลอฮ์) กองหลังหนุ่มลูกครึ่งไทย (พ่อมาจากจังหวัดนราธิวาสเดิม)-สวีเดน ส่วนศุภชัย ใจเด็ด เป็นชาวปัตตานี

ในขณะนัดชิงชนะเลิศ แฟนบอลชายแดนใต้ออกมาโพสต์ในโลกโซเซียล อยากเห็นเอเลียส ดอเลาะ ลงสนามอีกครั้ง โดยกล่าวว่า “หวังว่าจะได้เห็นอิลยาส อับดุลลอฮ์ จากคนชายแดนภาคใต้และนราธิวาส ลงสนามและยิงประตูอีกครั้ง ในนัดชิงไทย-อินโดนีเซีย 29 ธันวาคม 2564 และ 1 มกราคม 2565 He said I am so proud of you. Keep it#EliasDolah #ED4 #ช้างศึก #EliasDolah #ทีมชาติไทย #AFFSuzukiCup2020 (https://fb.watch/abKAznHUiD/)

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงนัดชิงชนะเลิศไทย-อินโดนีเซีย (นัดที่หนึ่ง) 29 ธันวาคม 2564 แฟนบอลก็ได้เห็นเอเลียส ดอเลาะ ลงเล่นจริงๆ และเกือบทำประตูได้ แต่เขาต้องถูกเปลี่ยนตัวออกเพราะบาดเจ็บในนาทีที่ 39 ทำให้แฟนบอลมุสลิมชายแดนใต้ต่างออกมาขอพรต่อพระเจ้าให้เขาปลอดภัย โดยกล่าวว่า

“ดุอาอ์ (ขอพรต่อพระเจ้า) และเป็นกำลังใจแก่อิลยาส อับดุลลอฮ์ จากการบาดเจ็บนาทีที่ 39”

ด้านนักฟุตบอล (มุสลิม) แห่งปี กฤษฎา (บังแหละห์) กาแมน นั้นมาจากการจัดอันดับสุดยอดบุคคลวงการมุสลิมไทยของเพจอาบังงง เพจดังชายแดนใต้ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการเล่นกองหลังดีที่สุดจนทำให้ไทยคว้าชัยทุกนัดและเสียประตูแค่สามลูกในศึกครั้งนี้

อย่างที่โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคสโมสรชลบุรี เอฟซี เคยบอกเอาไว้ เด็กๆ ในอคาเดมีเล่นได้ 3 ตำแหน่งทุกคน และ “กฤษดา กาแมน” เล่นทั้งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ, แบ๊กขวา, กองกลางตัวรับ

เขาถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัวในปี 2018 โดยโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ม จนเป็นขุมกำลังหลักของทัพฉลามชลในปัจจุบัน

3 เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 เป็นบททดสอบที่เยี่ยมกับการปรับมาเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ หลังไม่ได้สูดกลิ่นอายนี้มานาน จากนั้นในเกมกับเวียดนาม เขาก็มาเล่นจุดนี้อีกครั้ง แต่บอกเลยว่าสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ เพราะครึ่งหลังเขาโคฟเวอร์ให้กับธีราทร บุญมาทัน อย่างแข็งแกร่ง มีจังหวะที่แบ๊กซ้ายลงมาไม่ทัน แต่เขาปักหลักคุมให้และแย่งบอลได้ด้วย หรือช่วงโดนปฐมพยาบาล ก็รีบวิ่งขอกลับมายืนตำแหน่งเดิมแบบเร็วจี๋

ยังมีการปล่อยหมัดเด็ดๆ บู๊หนัก, อัดอย่างเดียว, แพชชั่นของความกระหายชัย นี่แหละที่ทำให้เขาเด่นสุดๆ ในเกมกับเวียดนาม

อีก 1 สาเหตุที่เขาเล่นดีจริงๆ วิทยา เลาหกุล บอกว่าน่าจะมาจากการมีสมาธิของเขา ที่มาจากบอสบอล ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมชลบุรี เอฟซี ที่ประกาศแล้วว่า จะไม่มีทางขายและห์หรือสอและห์ออกไป หลังจากนักเตะยืนยันกับบอสบอลว่า ยังรักและเคารพสโมสรแห่งนี้ จึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะย้ายออกจากวังฉลาม

ขณะที่การติดโผทัพช้างศึก ลุยศึกชิงแชมป์อาเซียนครั้งนี้ ซึ่งมาโน่ โพลกิ้ง ให้ความไว้วางใจ และเลือกให้เจ้าและห์ลงสนามในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ปรากฏว่าสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น จนมีสถิติส่งบอลเฉลี่ย 57ครั้ง/เกม ด้วยความแม่นยำเฉลี่ย 91% เข้าปะทะเฉลี่ย 10 ครั้ง/เกม ชนะ 60% และดวลลูกกลางอากาศเฉลี่ย 5 ครั้ง/เกม ชนะ 63% (สถิติหลังพบเวียดนาม) (อ้างอิงจาก https://www.90min.com/th/posts/feature-kritsada-kaman-strong-thai-defender)

แม้ความเป็นจริงยังมีสองนักเตะมุสลิมชายแดนภาคใต้ “นราธิวาส-ปัตตานี” เอเลียส ดอเลาะ และศุภชัย ใจเด็ด ยิงประตูทีมชาติสิงคโปร์ชนะ 2-0 คว้าแชมป์กลุ่ม

แต่กฤษฎา (บังแหละห์) กาแมน เป็นนักฟุตบอลมุสลิมแห่งปี เฉือนคะแนนไปแบบเฉียดฉิว

ปัจจุบันเยาวชนให้ความสำคัญด้านกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล และเยาวชนมุสลิมจังหวัดภาคใต้ก็เช่นกัน แต่จากการศึกษาเชิงประจักษ์พบว่าเยาวชนมุสลิมเหล่านี้คิดแยกส่วนกับศาสนา ทำให้ผู้ปกครองไม่สบายใจถึงแม้ลูกจะเก่งกีฬาแต่ทิ้งละหมาด อ่านกุรอานไม่ได้ ไม่รู้หลักวิถีชีวิตอิสลาม

ดังนั้น โรงเรียนต่างๆ ที่ชายแดนใต้พยายามนำกีฬากับศาสนามาเชื่อมต่อกัน

หลายโรงเรียนของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เช่น โรงเรียนศิริธรรมวิทยามูลนิธิ จังหวัดนราธิวาส โรงเรียนคัมภีร์วิทยา ที่จังหวัดยะลา โรงเรียนพีระยานาวินคลองหินวิทยา จังหวัดปัตตานี ได้พยายามทำเช่นนี้

สำหรับโรงเรียนพีระยานาวินคลองหินวิทยา จังหวัดปัตตานี หรือปอเนาะบาโงจืองา ภายใต้การนำ ดร.อัสมี อาบูบากา ผู้บริหารโรงเรียนและยังรั้งตำแหน่งประธานเครือข่ายพัฒนาฟุตบอลโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดปัตตานี ได้สะท้อนถึงแผนการเรียน Q-SSP คำว่า Q-SSP เป็นคำย่อจาก Q = Quran คัมภีร์อัลกุรอานเปรียบเสมือนแนวทางการดำเนินชีวิตของมุสลิม S = Scienc วิทยาศาสตร์ S = Sport กีฬาในที่นี้เน้นฟุตบอล P = Program = แผนการเรียน อันเป็นนวัตกรรมการศึกษา ที่นำศาสนาและฟุตบอลมาปรุงแต่งให้ลงตัวภายใต้แนวคิด ISAP

คำว่า ISAP เป็นคำย่อจาก I เท่ากับ Islamic S เท่ากับ Sport A เท่ากับ Ability P เท่ากับ Program หมายถึงโครงการหรือกิจกรรมความสามาถด้านกีฬาโดยใช้หลักการอิสลาม

นอกจากนี้ ดร.อัสมี อาบูบากา ได้อธิบายแนวคิดการจัดการศึกษาที่พีระยานาวินว่า “ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างง่ายที่สุด ระหว่าง ‘องค์ความรู้อิสลามและแนวทางการพัฒนาแบบอิสลาม’ กับ ‘องค์ความรู้แบบตะวันตกและแนวทางการพัฒนาแบบตะวันตกหรือโลกวิถี (Secular)’ ก็คือ องค์ความรู้อิสลามมีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางและสูงสุด (God-Centered Knowledge)ในขณะที่องค์ความรู้ตะวันตก หรือองค์ความรู้สมัยใหม่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางความรู้ทั้งปวง (Human-Centered Knowledge)”

“พีระยาฯ จึงขอนำเสนอรูปแบบการจัดการศึกษาที่มีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางตามหลักแนวคิด Islamization of Knowledge หรืออิสลามานุวัตรองค์ความรู้ โดยมีรูปแบบดังนี้ 1.Q-SEP ( Al-Quran Science English Program ) 2.Q-MEP ( Al-Quran Mini English Program) 3.Q-STEM( Al-Quran Science Tecnology Engineer & Mathematics) 4.Q-SSP( Al-Quran Science Sport Program) 5.Q-SMP ( Al-Quran Science Mathematics) 6.Q-SMP/PIM (ธุรกิจสมัยใหม่) 7.Q-EP(Al-Quran English Program)”

“ทุกๆ รูปแบบ มีอัลกุรอานเป็นตัวนำ เสมือนเป็นหัวใจสำคัญของสรรพวิชาทั้งหลาย ใช้กระบวนการตัรบียะห์หรือขัดเกลาจิตใจของนักเรียนให้มีความนอบน้อม มีมารยาท ยึดตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด ให้เกียรติผู้อื่น หลังจากนั้น จะให้นักเรียนได้เรียนรู้ในศาสตร์สมัยใหม่ต่างๆ ตามความถนัดและความชอบของตนเอง เพื่อให้เป็นมนุษย์ที่ได้รับการพัฒนาทั้งทางด้านจิตใจและร่างกาย พร้อมรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมที่จะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพ เป็นคนดีของครอบครัว สังคม และเป็นทรัพยากรอันมีค่าของประเทศชาติต่อไป”

สําหรับที่มาของโครงการนี้ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ภายใต้สมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 6 จังหวัดคือ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา สตูล และพัทลุง ได้ปรึกษาหารือกัน และจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ [Workshop] ขึ้น ที่โรงแรมไดอิชิ อำเภอหาดใหญ่ 1-2 เมษายน 2560 โดยนายขดดะรี บินเซ็น นายกสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 6 จังหวัด ท่านวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประทศไทยฯ และคณะปรึกษาหารือร่วมจนได้ข้อสรุปคือจะใช้กีฬาเป็นฐานการพัฒนาเยาวชนตามวิถีอิสลามผ่านเครือข่ายโรงเรียน ISAP ภายใต้สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 6 จังหวัดโดยมีมติจัดทำหลักแผนพัฒนาสามส่วนใหญ่ๆ

1. เปิดแผนการเรียนกีฬาในโรงเรียนนำร่องผ่านเครือข่ายโรงเรียน ISAP

2. โรงเรียนฝึกกิจกรรมกีฬาหมายถึงโรงเรียนมิได้เปิดแผนการเรียนกีฬาแต่จะนำนักเรียนทุกแผนการเรียนที่สนใจกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล ฟุตซอล ให้อยู่ประจำกินนอน มีกิจกรรมกีฬา บูรณาการกับวิถีอิสลามตลอดทั้งวัน

3. การหนุนเสริมพัฒนาผู้บริหาร ครูผู้สอน นักเรียน เช่น พัฒนาผู้บริหารในโรงเรียนนำร่องผ่านเครือข่ายโรงเรียน ISAP ให้เข้าใจแนวทางพัฒนาแนวคิดนี้สู่ปฏิบัติ การฝึกอบรมผู้ฝึกสอนในหลักสูตร T- License นักเรียนจะมีการจัดการแข่งขันกีฬาเครือข่ายโรงเรียน ISAP ภายใต้สมาสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 6 จังหวัดเป็นต้นซึ่งแผนงานต่างๆ ก็ได้จัดตั้งคณะทำงานแต่ละชุด และเริ่มดำเนินการอยู่ 3 กิจกรรม คือ จัดทำแผนที่ 1-2 เมื่อวันที่ 13-15 และ 27-29 เมษายน 2560 ณ จังหวัดยะลา และมีการฝึกอบรมผู้ฝึกสอนในหลักสูตร T- License ณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ช่วง 29 เมษายน-3 พฤษภาคม 2560 โดยการอนุเคราะห์จากท่านวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประทศฯ

ดังนั้น หวังว่าบทเรียนนักเตะไอดอลชายแดนใต้แชมป์ซูซูกิคัพกับการใช้ฟุตบอลบูรณากับการศึกษาชายแดนใต้จะเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดของพรรคการเมืองต่างๆ นำเสนอนโยบายแก้ปัญหาไฟใต้ 18 ปี