ไม่ว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจะให้ความสนใจหรือไม่

แต่กิจกรรมของ”นักเรียนเลว”มีความต่อเนื่องอย่างคึกคัก

ไม่ว่า คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ศึกษาธิการจะให้ความสนใจหรือไม่

แต่การเคลื่อนไหวของ”นักเรียนเลว”แทบไม่เคยหยุดนิ่ง

หลังจากการออกหนังสือ”คู่มือการเอาตัวรอดในโรงเรียน”ประ สบกับการขานรับอย่างคึกคัก ยอดความต้องการทะลุหลักแสนไปท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

จังหวะก้าวที่ตามมาเป็นจังหวะก้าวในลักษณะ”ก้าวกระโดด”เป็นอย่างสูงในการเคลื่อนไหว อาศัยห้วงเวลาสุกดิบก่อนวันเด็กดำ เนินการไลฟ์สดในคืนวันที่ 8 มกราคม

เชิญชวนให้รับฟังการตระเตรียม”ร่างกฎหมาย”สำคัญ

ยืนยันอย่างเด่นชัดว่า เป็นร่างกฎหมายจากการร่วมคิดร่วมทำของ”นักเรียน” บนพื้นฐานแห่งคำประกาศที่ว่า

“รื้อระบอบ อำนาจนิยม”

 

ใครก็ตามที่คลิกเข้าไปในเพจ”นักเรียนเลว”จะเห็นคำเชิญชวน มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงของเด็กไทยจากระบอบอำนาจนิยม

และร่วมกันสร้างสังคมโรงเรียนใหม่ ผ่านการเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายปกป้องสิทธิที่ร่างโดย”นักเรียน”

ภายใต้แนวทางใหญ่ “รื้อระบอบอำนาจนิยม”

เป็นการ”ส่งเสียงของทุกคนไปพร้อมกับเรา” เหล่า”นักเรียนเลว” ผ่านร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของนักเรียน พ.ศ……

นี่คือการส่งเสียงไปยัง”นักเรียน”อย่างเป็นระบบแจ้งชัด ขณะ เดียวกัน ก็เป็นการสื่ออย่างตรงไปตรงมาไปยัง”ผู้ใหญ่”

สะท้อนให้เห็นว่า “นักเรียน” คิดอย่างไรต่อ”ระบบการศึกษา”

 

หากมองจากความเคยชินดั้งเดิมของผู้ใหญ่ จังหวะก้าวของ”นักเรียนเลว”ย่อมเป็นการท้าทายโดยตรงไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ไปยัง”ผู้ใหญ่”

ยืนยันให้เห็นความไม่พอใจต่อระบบการศึกษาตรงไปตรงมา

บทบาทของ”นักเรียนเลว”จากที่เคยเคลื่อนไหวเพร้อมกับ”เยาว ชนปลดแอก”นับแต่เดือนกรกฎาคม 2563 จึงไม่หยุดนิ่ง

หากแปร”ความคิด”ไปสู่”การปฏิบัติ”อย่างเอาการเอางานยิ่ง