จดหมาย (ฉบับประจำวันที่ 7-13 มกราคม 2565 ฉบับที่ 2160)

จดหมาย

 

0 ทันโลก

ดิฉันอายุ 86 ปี จะใกล้ 87 ปีแล้ว

แต่ยังสนใจการขับเคลื่อนของเยาวชนมาก

ถ้าอยู่กรุงเทพฯ คงจะไปม็อบกับรุ่นน้องๆ

ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัด อยู่บ้านไม่มีโอกาสไปไหนเลย

จึงถือโอกาสเรียนวิชาชีพทางออนไลน์

ทำให้ได้โอกาสทำข้าวหมาก ทำน้ำกระชาย น้ำเต้าหู้ ฯลฯ จะขายทางออนไลน์ ขอโอท็อปได้แล้วนะคะ

ขณะเดียวกันก็เตรียมการจัดทำสารคดีเกี่ยวกับการจรรโลงพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย โดยผ่านเรื่องของ ดร.เอ็นเบคก้า บุรุษผู้นำพุทธศาสนา สู่มาตุภูมิ

การจัดทำสารคดีนั้นสืบเนื่องจากดิฉันจัดทัวร์ไปอินเดียหลายปี

จึงได้รู้จัก ดร.เอ็มเบคก้าในหลายด้าน โดยเฉพาะความมีประชาธิปไตย ดร.เอ็มเบคก้าเป็นผู้ร่างกฎหมายใช้ถึงปัจจุบันนะคะ ประกอบกับได้รับการอบรมการเขียนรุ่นที่ 25 (สารคดี) ในโครงการโรงเรียนนักเขียนของสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย 10-20 ธันวาคม 2559

หนังสือมติชนสุดสัปดาห์ ถือเป็นหัวใจของพวกเราทุกคนที่บ้าน ก็เท่ากับได้รู้จักบรรณาธิการนะคะ

คงต้องขอขอบคุณที่ให้ความรู้แก่ผู้อ่าน ได้พัฒนาสมอง เป็นชีวิตที่มีความสุขของผู้สูงวัยดีมากค่ะ

ขอให้บรรณาธิการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อมติชน เพื่อสังคมไทย จะอยู่ไปนานเท่านาน

ด้วยความนับถือยิ่ง

มณฑา สังข์สุวรรณ

 

เขียนจดหมายมาตั้งแต่ 14 กันยายน 2564

นี่ย่างเข้าสู่สัปดาห์แรกของปี 2565 แล้ว

จึงได้มีโอกาสนำเสนอ

ขออภัยในความล่าช้าและต้วมเตี้ยมของ บก. ที่แม้จะมีวัยน้อยกว่า

แต่กลับบกพร่อง

ทำจดหมายอันมีค่าฉบับนี้ตกหล่น

ผู้น้อยต้องขออภัยอีกครั้ง

ดูกิจกรรมที่ “มณฑา สังข์สุวรรณ” ทำและเล่ามาให้ฟัง

ถือเป็น สว.ที่ทันโลก มีคุณภาพ และแอ๊กทีฟดียิ่ง

ขอให้ปีใหม่นี้

สุขภาพแข็งแรง และทำสิ่งที่ประโยชน์ต่อไป–เหมียนเดิม

 

0 ทันโรค

สุขสันต์ ครองความสุข

ปลดจากความทุกข์ ลุกไปเต้น

เน้นสิ่งตรงหน้า บ้าก็บ้ารัก

ทักก็ทักแต่เรื่องดีๆ อย่าบ่นนักเลย

อยากให้ความรู้ “โรคจิตเภท” และ “โรคไบโพลาร์”

ที่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มอาการแมเนีย (Mania) คือ อารมณ์ดี หรือคึกคัก สนุกสนาน

และกลุ่มอาการซึมเศร้า (Depress)

จึงเรียกโรคนี้ว่า โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว (ขั้วบวก = แมเนีย และขั้วลบ = ซึมเศร้า)

ขอยกอาการพอสังเขป สังเกตตัวเรามีอาการอย่างนี้ไหม

โรคไบโพลาร์

ในช่วงซึมเศร้า

1) เบื่อท้อแท้ น้ำหนักลด 2) นอนไม่หลับกระวนกระวาย อยู่ไม่สุข 3) อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง 4) รู้สึกตนเองไร้ค่า 5) สมาธิ ความจำ ลดลงมาก และไม่อยากมีชีวิตอยู่

ในช่วงแมเนีย

1) มีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น เชื่อว่าตนเองมีความสำคัญยิ่งใหญ่กว่าปกติ 2) การนอนปกติ รู้สึกว่านอน 3 ชั่วโมงก็พอแล้ว 3) คิดแล่น เร็ว จึงพูดเร็วมากๆ วอกแวกง่าย 4) เคลื่อนไหวตลอด อยู่นิ่งๆ ไม่ได้ 5) ยับยั้งใจไม่ได้ เช่น ใช้เงินหรือทำกิจกรรมทางเพศมากเกินจริง

แค่ยกมาให้ทราบ มีอาการควรให้แพทย์วินิจฉัย

คงดังที่เป็นศิลปินในดวงใจ ที่ชอบเป็นเป็นโรคซึมเศร้า มี 1) ลีโอนาโด ดาวินซี คิดแหวกกฎไม่เหมือนชาวบ้าน มีโครงการผุดขึ้นเต็มหัว จินตนาการพวยพุ่ง 2) วินเซนต์ ฟานก็อก เจ้าของภาพ ราตรีประดับดาว ผิดหวังเกี่ยวกับภาพวาดของตนเอง ขายได้ชิ้นเดียว ตัดสินใจปลิดชีวิตตนเองตอนอายุ 37 ปี แต่หลังจากเสียชีวิต ผลงานกลายเป็นสมบัติล้ำค่า ราคาสูงยิ่ง

3) เอ็ดเวิร์ด มุงก์ เจ้าของภาพ “หวีด” พบเจอความสูญเสียมาตลอด 4) ชาร์ลส์ เอ็ม ผู้ให้กำเนิดสนุปปี้ อารมณ์แกว่งไกวสุดขั้ว 5) จบด้วยท่านนี้ มีหลายแง่คิด อับบราฮัม ลินคอล์น

ดิฉันก็มีอาการเช่นกัน ต้องไปรับการรักษาจากหมอ หมอบอกว่า คุณเป็นศิลปิน นักสร้างสรรค์ ครีเอทีฟ มักมีความเข้มข้นของอารมณ์มากกว่าคนทั่วไป เลยอ่อนไหวกับสิ่งที่มากระทบจิตใจ

จึงขอพรพระทุกทิศา อย่าให้ทุกท่านเป็นโรคภัยใดๆ เลย รวมทั้งโรคทางจิตอย่างดิฉัน มันทรมานมาก

หนิง ณ บางบอน

 

ลงจดหมายฉบับนี้

ด้วยความห่วงใย

เพราะเราได้รับรู้ข่าว

เพื่อนร่วมสังคมป่วย “โรคจิตเภท” และ “โรคไบโพลาร์” มากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะในภาวะทุกข์ยากของสังคมที่ “วิกฤต” บีบคั้นทุกด้านในตอนนี้

ขอให้หนิง ณ บางบอน และคนไทยทั้งหลาย

รอดพ้นจากโรคภัยทั้งปวง