อาชญา ข่าวสด

 

พิษคลิป ‘น.อ.’ เมากร่าง

โดนล็อกตัวธำรงวินัย

เตรียมส่ง ตร.ฟันอาญา

บิ๊ก ทร.ร่วมรับผิดด้วย

 

ถือเป็นอภิมหาไวรัลในโลกออนไลน์เลยทีเดียว สำหรับคลิปเหตุการณ์กลุ่มชายหัวเกรียนที่ไปนั่งดื่มกินในร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้วเกิดวิวาทะกับตำรวจที่เข้าไประงับเหตุ ใช้ถ้อยคำเชิงดูถูก ก่นด่าว่าเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย ก่อนไล่ให้กลับไปเสีย

เมื่อตำรวจไม่ยอมกลับก็ยังโวยวาย ฟุ้งว่าเป็นเพื่อนกับบิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. และจะสั่งย้ายทั้งโรงพัก ก่อนจะปาแก้วใส่ โวยวายแสดงอำนาจ อ้างเขตอำนาจถิ่นของทหารเรือ

จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

จนตำรวจต้องทำเรื่องถึงกองทัพเรือ เพื่อถามว่าชายคนดังกล่าวเป็นทหารเรือจริงหรือไม่!??

และในช่วงนั้นก็มีอีกคลิป เป็นเหตุการณ์ชายคนเดียวกันโวยวายอยู่หน้าร้านอาหารย่านเอกมัย

แต่คราวนี้คู่กรณีเป็นพนักงานร้านและ รปภ. แถมบางช่วงบางตอนพาดพิงสถาบันอย่างน่าหวาดเสียว

จนกระทั่งกองทัพเรือ ออกมายอมรับว่าเป็นทหารเรือจริง แถมเป็นระดับนาวาเอก พร้อมส่งธำรงวินัยทันที

ไม่เพียงแค่นั้น บุคคลระดับ ผบ.ทร. และ ผบช.ฐานทัพเรือสัตหีบ ก็แสดงความรับผิดชอบ โกนหัวเข้าธำรงวินัยด้วย

สะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา และน่าสนใจอย่างยิ่งว่าจะมีบทสรุปอย่างไร!??

คลิปว่อนหัวเกรียนเมากร่าง

เหตุการณ์นี้ปรากฏเป็นข่าว เริ่มจากโลกออนไลน์โพสต์และแชร์คลิปที่ใช้ชื่อว่า “ทหารเรือกร่าง” พร้อมระบุข้อความว่า “หนุ่มใหญ่ เมาแล้วกร่าง ด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปดูแลร้านอาหาร อ้างรู้จักคนใหญ่คนโตที่ชื่อโจ๊ก พร้อมจะย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสัตหีบทั้งโรงพัก”

โดยเนื้อหาในคลิป มีชายกลุ่มหนึ่งตัดผมทรงเกรียน นั่งดื่มเหล้าอยู่ในร้านที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด่าทอตำรวจที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ ว่าเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย ให้กลับไปสถานีตำรวจ ไม่เช่นนั้นจะย้ายทั้งโรงพัก พร้อมอ้างว่าเป็นเพื่อนกับตำรวจใหญ่ชื่อ “โจ๊ก”

ขณะที่มีเสียงตำรวจระบุว่า ตนเองมาทำตามหน้าที่ แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังด่าทอ ขู่ย้าย และปาแก้วใส่ขณะถ่ายคลิปวิดีโอ แถมยังมีการระบุว่าพื้นที่สัตหีบ เป็นของทหารเรือ ให้ตำรวจหลบไป จนกลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

เมื่อตรวจสอบกับ พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก็เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 23 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 21.00 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ ร่วมกันออกตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และออกตรวจ ป้องกันการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ชลบุรี

เมื่อมาถึงร้านอาหารโกดัง เลขที่ 168 ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบว่ามีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน จึงแสดงตัวตรวจสอบ ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น มีชายไทยเข้ามาทำการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และพูดจาดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะปฏิบัติหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย และพยายามไล่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกจากร้านดังกล่าว

โดยอ้างว่าตนเองเป็นนายทหารเรือชั้นผู้ใหญ่ และรู้จักนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับสูง ถ้าไม่รีบออกจากร้านไป จะย้ายให้หมด และมีการปาแก้วใส่บริเวณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้วย ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปด้วยความยากลำบาก และเกรงว่าจะได้รับอันตราย ซึ่งได้ดำเนินการร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายไว้แล้ว

จึงทำหนังสือสอบถามผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อขอให้ตรวจสอบบุคคลดังกล่าว รับราชการทหารเรือจริงหรือไม่ ถ้าเป็นข้าราชการทหารเรือ ได้โปรดให้มาพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนต่อไป

เป็นคดีเมากร่างที่น่าตื่นตระหนก!!

ที่แท้ น.อ.-ธำรงวินัยทันที

ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีเสียงตอบรับจากกองทัพเรือว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวเป็นทหารเรือจริงหรือไม่ ก็มีคลิปตอน 2 โผล่มาให้ฮือฮากันอีกครั้ง โดยคลิปดังกล่าวถูกโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก “พระจันทร์ ลายกระต่าย” ระบุว่า “คลิปก่อนที่นี่สัตหีบ คลิปนี้ที่นี่เอกมัย พี่จะไม่เก็บคลิปนี้ไว้ดูคนเดียวเเน่”

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ก่อนเกิดเหตุที่สัตหีบ ระบุว่าเป็นร้านอาหารย่านเอกมัย กทม. ซึ่งเป็นชายหัวเกรียนคนเดิม กำลังมีปากเสียงกับพนักงานของร้านและ รปภ. เนื้อหาที่พูดออกมาในทำนองว่าตัวเองใหญ่ที่สุดในประเทศ สามารถจะรื้อร้านทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ และให้คนบ้านใหญ่นครปฐม ชลบุรีมากราบเท้า สนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ถึงขั้นเรียกพี่น้อง แถมยังฟุ้งว่าชีวิตราชการเจริญรุ่งเรือง จนได้มาคุมภาคตะวันออกทั้งหมด พร้อมท้าให้พามาเลย ใครก็ได้ที่คุ้มกะลาหัวได้ในประเทศนี้ให้พามา

ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีเนื้อหาบางตอนพูดถึงการเป็นราชองครักษ์ และพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง

ต่อมาในวันที่ 25 ธันวาคม พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ก็ออกมาแถลงถึงคลิปเหตุการณ์ ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุในร้านอาหารที่มีชายอ้างตัวเป็นทหารเรือเมาอาละวาด ทำลายข้าวของภายในร้านว่า เห็นคลิปแล้ว ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุได้ปฏิบัติตามหน้าที่

โดยจากการตรวจสอบ พบว่าเป็นข้าราชการทหารเรือจริง คือ น.อ.อลงกรณ์ ปลอดดี ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ สังกัดกองทัพเรือ ซึ่งเรียกมาสอบสวนแล้ว และสั่งธำรงวินัยทันที สำหรับในส่วนของคดีนั้นให้ทางเจ้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยต้นสังกัดเรียกตัวนายทหารผู้ก่อเหตุเข้ารายงานตัวอย่างเร่งด่วน และให้สารวัตรทหารเรือควบคุมตัวนายทหารคนดังกล่าวเข้ารับการธำรงวินัย ณ ศูนย์ธำรงวินัยกองทัพเรือ พร้อมดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อลงโทษทางวินัยต่อไป

ทั้งนี้ กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กำลังพลของกองทัพเรือได้แสดงกิริยาวาจาที่ไม่สมควรและก้าวร้าว ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่รวมถึงดูหมิ่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำให้ได้รับความเสียหาย

โดนธำรงวินัยทันที

2 บิ๊ก ทร.ด้วย-รอลุ้นคดีอาญา

และไม่จบแค่คนก่อเหตุ หรือแค่ตัว น.อ.อลงกรณ์ พล.ร.ท.ปกครอง เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมว่า เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้บังคับบัญชา 2 ระดับชั้นของ น.อ.อลงกรณ์ คือ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. และ พล.ร.ท.นฤพล เกิดนาค ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ได้เข้ารับการธำรงวินัยเพื่อแสดงความรับผิดชอบ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยผู้บัญชาการทหารเรือจะธำรงวินัยเป็นเวลา 3 วัน และผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบจะธำรงวินัยเป็นเวลา 7 วัน

ขณะที่มีรายงานจากที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวชื่นชม พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.ร.ท.นฤพล เกิดนาค ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ที่เข้ารับการธำรงวินัยเพื่อแสดงความรับผิดชอบจากเหตุการณ์

ส่วนเรื่องคดีความนั้น พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษก ตร. กล่าวว่า กรณีนายทหารเรือยศนาวาเอกนายหนึ่ง ที่มีคลิปปรากฏออกมาอยู่ในพื้นที่ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรีนั้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบประสาน พล.ร.ท.นฤพล เกิดนาค ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบแล้ว

ขณะนี้ทางฐานทัพเรือขอให้มีการธำรงวินัยเสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจะนำ น.อ.อลงกรณ์มาพบพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ พร้อมนายทหารพระธรรมนูญ

ส่วนกรณีกล่าวพาดพิงหน้าร้านแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครนั้น จากการตรวจสอบพบว่าร้านดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ สน.คลองตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และเข้าข่ายความผิดใดๆ หรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผกก.สน.คลองตัน ระบุว่า เหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิป จากการตรวจสอบทราบว่าเกิดขึ้นที่บริเวณร้านคาสเซ็ต ซอยเอกมัย 10 ส่วนรายละเอียดให้ทางผู้บังคับบัญชาเป็นผู้เปิดเผยข้อมูล เบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหลักฐานแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้เข้ามาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีแก่นายทหารคนดังกล่าว

ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะความเมา ส่วนบทสรุปจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป!!