ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 ธันวาคม 2564 - 6 มกราคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ก่อสร้างและที่ดิน |
เผยแพร่ |
ก่อสร้างและที่ดิน/นาย ต.
บอกลาจุดต่ำสุด
การส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่จากปี 2564 ไปปี 2565 นี้ เป็นการเปลี่ยนปีที่ต่างไปจากปีก่อนๆ หลายเรื่อง
ทุกครั้งที่ผ่านมามันเป็นการสิ้นสุดปี พ.ศ.เก่า จบการทำงานตามแผนงานเก่า แล้วเริ่มปีใหม่พร้อมกับเป้าหมายและแผนงานใหม่ ความคิดใหม่ๆ ความหวังใหม่ๆ
แต่ครั้งนี้มองย้อนปีที่ผ่านมา เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ผู้คนและธุรกิจถูกบังคับกดดันให้เปลี่ยนในความเร็วที่มากกว่าปกติ
เห็นความผันผวนไม่แน่นอนที่ไม่อาจคาดการณ์ได้แทบจะเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน แผนธุรกิจแผนการตลาดต้องปรับตามสถานการณ์ตลอดทั้งปี
อสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัย นอกจากเผชิญปัญหาอุปสรรคจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เหมือนกับทุกธุรกิจแล้ว ยังมีข้อดีเฉพาะธุรกิจนี้ตรงที่ว่า เป็น 1 ใน 4 ปัจจัยจำเป็นในการดำรงชีวิตของคนที่ขาดเสียมิได้ แม้ช่วง “ล็อกดาวน์” ยอดขายจะตกวูบ แต่พอคลายล็อกแรงอั้นที่ไม่ได้ซื้อก็ดันให้ตลาดมียอดขาย “เด้ง” ขึ้นมากกว่าปกติ เพราะความต้องการซื้อยังมีอยู่เสมอ
เพียงแต่ความวิตกกังวลโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไป คนไม่ต้องการอยู่ในบริเวณหรือสถานที่ที่มีการอยู่อาศัยหนาแน่นคนเยอะ จึงหันมาซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบกันมากขึ้นกว่าเดิม
และแน่นอนว่า ผู้มีรายได้สูงมีทรัพย์สินเงินทองสะสม ไม่เดือดร้อนจากการตกงาน จากรายได้ลด สามารถตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ได้ทันที จึงทำให้ตั้งแต่แพร่ระบาดระลอกแรก จนระลอกล่าสุด บ้านเดี่ยวราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปขายดีมากกว่าอดีตที่ผ่านๆ มา
ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุดยังพบว่า ข่าวคราวผู้ติดเชื้อหลักหมื่นหลักแสน ผู้เสียชีวิตจำนวนนับร้อยนับพันต่อเนื่องเป็นปีที่ซึมซับผ่านข่าวสาร และทุกคนก็ต้องมีคนที่รู้จักเสียชีวิตไปด้วยโรคร้ายนี้ ส่งผลต่อความคิดจิตใจ
ทำให้เศรษฐีที่มีทรัพย์สินเงินทองสะสมจำนวนมาก ตัดสินใจใช้ชีวิตตามความฝันทันที ด้วยการซื้อบ้านในโครงการอสังหาฯ หรือใช้บริการธุรกิจรับสร้างบ้าน ซื้อบ้านระดับราคาหลายสิบล้านจนหลัก 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี คงต้องกล่าวไว้ด้วยว่า สำหรับผู้ถูกเลิกจ้าง ตกงานเนื่องจากโควิด-19 โอกาสการซื้อบ้านก็ตัดไป
ผู้มีรายได้น้อยแม้ยังมีความต้องการแต่กำลังซื้อก็ยากที่จะเอื้อมถึงเพราะราคาที่ดิน ค่าก่อสร้าง รวมทั้งราคาบ้านไม่ได้ลดต่ำลงแต่อย่างใด
คนรายได้ปานกลางกินเงินเดือนโอกาสซื้อที่อยู่อาศัยยังมี
แต่ความเสี่ยงที่ต้องลุ้นอยู่ที่การกู้เงินจากสถาบันการเงิน จะผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะคนกลุ่มนี้ก็มีหนี้สินครัวเรือนมากอยู่แล้ว ช่วงโควิดแพร่ระบาดก็ยิ่งต้องกู้เพื่อการอยู่กินมากขึ้นไปอีก
ปีหน้า 2565 แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยคงไม่ต่างจากนี้ไปมาก
ตลาดบนคงดีต่อไปเรื่อยๆ ส่วนตลาดกลางๆ ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศที่จะทำให้คนมีรายได้มากขึ้นได้เพียงใด
ข้อสบายใจมีอยู่เรื่องเดียวคือ เศรษฐกิจประเทศและธุรกิจต่างๆ ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ไม่มีอะไรอึดอัดหรือแย่ไปกว่าที่ผ่านมาอีกแล้ว
แต่ความผันผวนไม่แน่นอนยังไม่หมด ยังคงมีอีกต่อไป
และยังมีความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมที่สะสมมาหลายปี ยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลาย ตรงข้ามกลับสั่งสมตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้จะปะทุเมื่อไหร่และอย่างไร
ยังไงก็ขอสวัสดีปีใหม่ 2565 ทุกคน