ฟ้า พูลวรลักษณ์ : หากไม่มีธรรม ก็จะไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๘๓)

วันนี้ฉันอยากคุยถึงมนุษย์ต่างดาว ว่ามีจริงไหม และเป็นอย่างไร เราจะเจอกันไหม

ฉันเชื่อว่า การจะเจอมนุษย์ต่างดาว มีโอกาสน้อยมาก หากพวกเขามีอยู่จริง เราน่าจะเจอหุ่นยนต์ต่างดาวมากกว่า เพราะการเดินทางในอวกาศ มีคุณสมบัติดังนี้คือ มันกินเวลานานมาก และสิ่งที่ต้องเดินทางในความเวิ้งว้างอย่างยาวนาน สิ่งที่เหมาะสมที่สุดคือหุ่นยนต์ เพราะหุ่นยนต์ไม่ต้องการหายใจ และไม่ต้องกินอาหาร

หน

การจะหายใจและกินอาหารในอวกาศอันเวิ้งว้าง คือปัญหาที่ยากที่สุด

ในขณะที่หากใช้หุ่นยนต์ เพียงแค่แก้ปัญหาเรื่องพลังงานเท่านั้น ก็จบ การสร้างยานอวกาศที่เดินทางไกลใน deep space ได้ การมีแหล่งกำเนิดพลังงานในยาน น่าจะทำได้ ข้อดีคือ หุ่นยนต์เหล่านี้จะเดินทางนานกี่ร้อยกี่พันปีก็ได้ และพวกมันจะตั้งมั่นอยู่บนตรรกะ ทำให้ยิ่งเหมาะกับการเดินทางไกล

ในอวกาศ หากมีจิตใจ มีอารมณ์ จะเกิดปัญหามากมาย

หากเราส่งมนุษย์ไปในอวกาศ ซึ่งไปไกลมาก และใช้เวลายาวนานมาก ต่อให้เลี่ยงปัญหาด้วยการแช่งแข็ง ก็แก้ปัญหาได้เพียงบางส่วน ท้ายสุดมนุษย์ก็ต้องอยู่รวมกัน ในพื้นที่แคบๆ ต้องหายใจและกินอาหาร และมีอารมณ์

ความเหงานั้นน่าสะพรึงกลัว

และเรื่องเซ็กซ์อีก เพราะหากนักอวกาศเหล่านั้นเป็นเพศเดียวกัน เดินทางยาวนานเป็นร้อยเป็นพันปี นั่นทำไม่ได้ ต้องจบลงบนความเหงาและความเสียสติ

หากมีสองเพศ ก็อาจเกิดความหึงหวง ความริษยา เกิดความต้องการ ก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์ รับรองว่าเดินทางได้ไม่ไกล ก็ต้องเกิดเรื่อง

เราจึงลืมมนุษย์ต่างดาวไปได้ และคิดถึงแต่หุ่นยนต์ต่างดาว

ข้อดีคือ การสื่อสาร จะมีทางเป็นไปได้ เพราะหุ่นยนต์ต่างดาวจะสื่อสารกับสมองกลโลก ด้วยหลักตรรกะ ภาษาตรรกะน่าจะเป็นสากลที่สุด คอมพิวเตอร์คุยกันได้กว้างที่สุด เรียบง่ายที่สุด และว่องไวที่สุด

สมมุติมีมนุษย์ต่างดาวจริง มีคนมองสองแบบ

๑ แบบมองโลกในแง่ดี คิดว่ามนุษย์ต่างดาวน่าจะมาดี เพราะสิ่งมีชีวิตที่เจริญระดับเดินทางได้ไกลในจักรวาล น่าจะมีจิตใจสูงส่ง รักสงบ และมาช่วยมนุษย์ให้เจริญขึ้น มาเป็นพี่เลี้ยงมนุษย์

๒ แบบมองโลกในแง่ร้าย คิดว่ามนุษย์ต่างดาวจะมายึดครองโลก มาฆ่ามนุษย์ให้สูญพันธุ์ หรือไม่ก็เอามนุษย์ไปเป็นทาส มาแย่งชิงทรัพยากรของโลก

สองข้อนี้ตรงข้ามกัน แต่แปลกที่ฉันมองว่ามันมีค่าเท่ากัน กล่าวคือ หากมี super hero ก็ต้องมี super villain เหมือนถ้ามี Bat Man ก็ต้องมี Joker มันมาคู่กัน หากมีอันหนึ่ง ไม่มีอีกอันหนึ่ง ก็จะว่างเปล่า ไร้ความหมาย ที่เป็นเช่นนั้น เพราะนี้คือธรรมะ

อย่าดีใจที่เจอ Bat Man เพราะที่ตามมาคือ Joker

อย่าดีใจที่เจอ Thor เพราะที่ตามมาคือ Loki

ที่สมเหตุสมผลมากกว่าคือ มนุษย์ต่างดาวไม่ได้ดีหรือเลว หากแต่เป็นอีกสิ่งมีชีวิตหนึ่ง เหมือนพืช เห็ดรา ฯลฯ คำถามจึงเป็น สิ่งนี้ให้คุณหรือให้โทษต่อมนุษย์ เจตนาดีหรือร้ายไม่มี ความดีความชั่วไม่มี

แม้แต่แบคทีเรีย ก็ไม่ได้มีความดีหรือความชั่ว พวกมันเพียงแตกต่าง มีบางสายพันธุ์ให้คุณ บางสายพันธุ์ให้โทษ เช่นเดียวกับพืช

แต่โดยรวม ฉันว่าประเด็นนี้มีความสำคัญเป็นรอง

ประเด็นสำคัญกว่า คือการปรากฏตัวของมนุษย์ต่างดาว หรือแม้แต่หุ่นยนต์ต่างดาว จะก่อให้เกิดความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ นั่นคือการล่มสลายของธรรม

การล่มสลายของธรรม มีความสำคัญมากจนกระทั่งว่า พวกเขามาดีหรือมาร้าย ให้คุณหรือให้โทษ เป็นประเด็นรอง เพราะความล่มสลายของธรรม เป็นเรื่องจริง และร้ายแรงมากเหลือเกิน

ธรรม คือเสาค้ำฟ้า ไม่มีธรรม คือไม่มีบ้าน

ล่มสลายวันใด เหมือนบ้านของเราพังครืน และไม่มีเวลาหาวัตถุดิบใดที่จะสร้างบ้านใหม่ เราจะต้องเผชิญหน้ากับลมฝน หิมะ ความหนาวเย็น เราจะกลับไปเป็นคนป่าที่อยู่ในรู ในถ้ำ ผู้คนจำนวนมากจะต้องตายหรือเป็นบ้า รวมทั้งตัวฉัน ที่ต้องกลายเป็นบ้า

ธรรมในที่นี้คือ

๑ ไม่มีวัตถุใดเดินทางได้เร็วกว่าแสง

๒ ชีวิตไม่เป็นอมตะ

๓ เราเดินทางย้อนอดีตไม่ได้

ข้อใดข้อหนึ่งที่ถูกล้มล้าง จะเกิดผลกระทบกว้างใหญ่

ในที่นี้ คือการเดินทางเร็วกว่าแสง

เพราะหากเดินทางช้ากว่าแสง มองไม่เห็นทางใดที่สิ่งมีชีวิตจะเดินทางใน deep space ซึ่งไกลห่างกันเป็นหลายปีแสง เอาใกล้สุดคือดาวอัลฟ่าเซ็นจูรี่ ก็อยู่ห่างสี่ปีแสง

ไม่นับดวงดาวมากมาย ที่อยู่ไกลเป็นร้อยเป็นพันปีแสง

หรือเป็นหมื่นเป็นแสนปีแสง

ฉันเชื่อว่าชีวิตต่างดาวมีอยู่จริง เพราะชีวิตคงไม่ได้เกิดยากขนาดนั้น ในกาลเวลายาวนานเป็นพันล้านปี ในดวงดาวเป็นโกฏิดวง ก็น่าจะมีบางดาวเคราะห์ที่เกิดสิ่งมีชีวิต แต่ปัญหาคือพวกเขาจะข้ามที่ว่างอันกว้างใหญ่นั้นมาไม่ได้

เหมือนฉันเชื่อว่าชาติภพอาจมีจริง แต่เราก็ข้ามชาติภพไม่ได้

เพราะมีช่องว่าง มีที่ว่างมากั้นไว้ และที่ว่างนี้กว้างใหญ่กว่ามหาสมุทรบนโลกนับโกฏิล้านเท่า ฉันคิดว่า สิ่งที่ขวางกั้นไว้นี่แหละ คือธรรม

วิธีคิดง่ายๆ คือ หากมันสื่อสารกันได้ เราสื่อสารกันนานแล้ว

หากชาติภพมีจริง และสื่อสารกันได้ เราสื่อสารกันทุกวันอยู่แล้ว

แต่ถ้าไม่มี แสดงว่าถึงชาติภพมี ก็มีบางสิ่งมาขวางกั้นไว้ และสิ่งที่ขวางกั้นนี้กว้างใหญ่เกินกว่าจะฝ่าฝืนได้ มันคือธรรม

หากชาติภพมีจริง มันต้องเยอะแยะไปหมด นับเป็นโกฏิล้านชีวิต เพราะขนาดในวันนี้ มนุษย์โลกก็มีแปดพันล้านชีวิต หากชาติหน้า ชาติที่แล้วมีจริง และสื่อสารกันได้ มันวุ่นวายเหลือจะประมาณ คลื่นแห่งการสื่อสาร คือต้องคูณเข้าไปอีก ไม่รู้กี่ล้านเท่า

มนุษย์ต่างดาว หากเดินทางเร็วกว่าแสงได้ เราคงเดินชนกันตาย ท้องฟ้าก็บินว่อนด้วยยานอวกาศ มากกว่ายุง เพราะจักรวาลไร้ที่สิ้นสุด หากมีหนึ่ง ก็ต้องมีไม่สิ้นสุด

ในสภาจักรวาล เราคงไม่มีวันตกลงอะไรกันได้ เพราะสมาชิกในสภาล้นออกนอกสภา เผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิต มีมากจนไม่อาจคุยกันได้ ไม่มีที่ให้นั่ง

หากชีวิตเป็นอมตะ เกิดแล้วไม่ตาย

จักรวาลจะล่มสลาย

ธรรมเป็นเสาค้ำฟ้า เพราะมันทำให้จักรวาลดำเนินต่อไปได้ ดำรงอยู่ได้

มันมีอยู่ ด้วยเหตุจำเป็น

อะไรจำเป็นยิ่งกว่าการดำรงอยู่อีก

ดิ้นรนอย่างไร ก็ฝ่าธรรมไม่ได้

เพราะไม่มีธรรม ก็ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย