สมุนไพรเพื่อสุขภาพ / โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง/ข้ามปีใหม่พ้นภัยโอไมครอน ด้วยสมุนไพรไทย

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ/โครงการสมุนไพรเพื่อการพึงพาตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org

ข้ามปีใหม่พ้นภัยโอไมครอน

ด้วยสมุนไพรไทย

แม้ยังมิแน่ชัดว่า โอไมครอน เชื้อโควิดสายพันธุ์ล่าสุดจะมีพิษสงแค่ไหน แต่อย่างไรก็ประมาทมิได้

“โอไมครอนก็ยังไมโอ” (ฮา) เพราะถ้าวัคซีนเดิมที่ฉีดไปแล้ว 2 เข็ม แถมบวกกระตุ้นไปอีกหนึ่งเข็ม แต่ก็ยังป้องกันโอไมครอนหนามเยอะตัวนี้ไม่ได้ ก็โอละพ่อล่ะทีนี้ วัคซีนเป็นสารสร้างภูมิคุ้มกันเฉพาะ เมื่อเจอเชื้อสายพันธุ์ใหม่ก็ต้องเปลี่ยนวัคซีนใหม่ไปเรื่อย

รัฐบาลจีนคงรู้เรื่องนี้ดี จึงใช้ทั้งกระบี่วัคซีนป้องกัน กระบี่ยาเคมีรักษา และใช้ปังตอสมุนไพรพิชิตโควิดทุกสายพันธุ์

ทางการจีนกล้าคุยอวดว่า “92% ของผู้ป่วยโควิด-19 ในจีน ได้รับการรักษาด้วยการแพทย์แผนโบราณจีน”

แถมท่านสี จิ้นผิง ยังพีอาร์ให้เต็มๆ ว่า “การแพทย์แผนโบราณจีนเป็นสมบัติล้ำค่าของอารยธรรมจีน” เป็นผลทำให้ยาแผนจีนสร้างรายได้ให้ประเทศจีนถึง 420 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 14 ล้านล้านบาทในปี พ.ศ.2563

 

สําหรับรัฐบาลเสียมหลอก๊กแม้จะคุยอวดแบบนั้นไม่ได้ แต่คนไทยก็มีภูมิปัญญาสมุนไพรที่ไม่น้อยหน้าใคร

ขนาดศาสตราจารย์แพทย์ระดับผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาฯ ยังเชียร์ให้ใช้สมุนไพรอย่างยาฟ้าทะลายโจร ทันทีที่ตรวจพบติดเชื้อโควิดหรือแค่เป็นหวัดธรรมดา

การกินยาฟ้าทะลายโจรด้านหนึ่งเพื่อการต้านเชื้อไม่ให้ลุกลามรุนแรง โดยการแนะนำกับโควิด-19 คำนวณสารแอนโดรกราโฟไลด์ (สารสกัดหรือผงยาธรรมชาติก็ได้) ให้ได้ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน และยาฟ้าทะลายโจรได้รับขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้านใช้แก้ไข้ ไอ เจ็บคอ หรือแก้อาการหวัดทั่วไป (common cold) ได้ด้วยกินขนาด 60-120 มิลลิกรัมต่อวันได้เช่นกัน

ในอีกด้านหนึ่ง ฟ้าทะลายโจรใช้เป็นยาปรับสมดุลเสริมภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสหวัดแบบครอบคลุมที่เรียกว่า ไฟโต อะแดพโตเจน (Phyto Adaptogen) รับประทานเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ใช้ชนิดผงบรรจุแคปซูลหรือเม็ดขนาด 300-500 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน เว้น 2 วัน

รับประทานขนาดนี้รับรองไม่เกิดพิษข้างเคียง ยกเว้นในรายที่เคยแพ้หรือสตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน

ส่วนข้อควรระวังให้อ่านที่ฉลากยา แต่ฟ้าทะลายโจรเป็นยาสามัญประจำบ้าน ขายในร้านโชห่วยได้ แสดงว่าอันตรายน้อยกว่ายาเคมีที่ต้องขายในร้านขายยาเท่านั้น

กล่าวสำหรับฤทธิ์ข้างเคียงประการหนึ่งของฟ้าทะลายโจร ที่คนทั่วไปไม่รู้ก็คือ ใช้แทนไวอากร้าได้ (ฮา) อันนี้ไม่เฟกนิวส์ เพราะมีผลงานวิจัยในสัตว์ทดลองยืนยัน เมื่อป้อนสารแอนโดรกราโฟไลด์ให้มิกกี้ เมาส์ หนูทดลองเพศผู้ ขนาด 50 ม.ก./ก.ก.เพียงครั้งเดียว จากนั้นจึงใส่มินนี่ เมาส์ หนูทดลองเพศเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ลงไป พบว่าเพิ่มความถี่ในการผสมพันธุ์ (mounting frequency) ในช่วง 2-3 ชั่วโมงหลังโดปยา

และถ้าให้มิกกี้ เมาส์ รับสารแอนโดรกราโฟไลด์ในขนาดนี้ต่อไป เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่ามีผลทำให้ระดับฮอร์โมนเพศผู้เทสโทสเตอโรน (testosterone) เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ 4 ของการทดลอง

สรุปผลการทดลองว่า สารแอนโดรกราโฟไลด์มีฤทธิ์เพิ่มพฤติกรรมทางเพศของหนูเพศผู้ ส่วนของคนเพศผู้จะมีผลอย่างเดียวกันแค่ไหนยังไม่เคยทดลองวิจัยทางคลินิก ก็ต้องแอบถามจากประสบการณ์กันเอง (ฮา)

 

ถ้านับว่ายาฟ้าทะลายโจรเป็นยาสมุนไพรหลักที่ใช้รักษาและเสริมภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสหวัดทั่วไปและโควิดที่ไม่รุนแรงในช่วงหน้าหนาว แต่จะให้ผลดีต้องมียาช่วยให้ยาหลักได้ผลดีขึ้น

ในที่นี้ขอแนะนำยาชงหญ้าหนวดแมว (ชื่อพฤกษศาสตร์ Orthosiphon aristatus (Blume) Miq.) ซึ่งเป็นยาสำคัญในบัญชียาหลักแห่งชาติตัวหนึ่งเหมือนยาฟ้าทะลายโจร

โดยปกติยาชงหญ้าหนวดแมวระบุสรรพคุณขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา ขับนิ่วขนาดเล็ก

แต่ปัจจุบันผลสรุปจากงานวิจัยทั้งทางห้องปฏิบัติการ ในสัตว์ทดลองและในคน พบว่าสารกลุ่มฟีโนลิก (phenolic compounds) จากหญ้าหนวดแมวมีฤทธิ์ต้านอักเสบ ลดความอ้วน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิตและลดไข้ได้อย่างชัดเจน

ในที่นี้ขอกล่าวเฉพาะฤทธิ์ต้านอักเสบและฤทธิ์ลดความอ้วน

ฤทธิ์ต้านการอักเสบ จากการศึกษาในหนูทดลอง พบว่าสารยูปาโตริน (eupatorin) และสารไซเนนเซติน (sinensetin) ในกลุ่มฟีโนลิก ช่วยยับยั้งก๊าซไนตริกอ๊อกไซด์ (nitric oxide) ที่ผลิตจากเซลล์บุผนังหลอดเลือดที่ทำให้เกิดภาวะช็อกเนื่องจากหลอดเลือดขยายตัวมากเกินไป และยังยับยั้งภาวะไซโตคาย (cytokines) ที่ชักนำให้เกิดการอักเสบที่ผนังหลอดเลือดรวมทั้งการอุดตันของหลอดเลือด ทำให้เกิดอาการไข้และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ จากการอักเสบ

ฤทธิ์ลดความอ้วน จากการศึกษาเปรียบเทียบในหนูทดลองที่เหนี่ยวนำให้เป็นโรคอ้วน โดยให้กินอาหารไขมันสูงนาน 30 วัน แล้วแบ่งเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มที่หนึ่ง ป้อนสารสกัดใบหญ้าหนวดแมวขนาด 100 และ 200 ม.ก./ก.ก.น้ำหนักตัว นานเพียง 14 วัน พบว่าน้ำหนักตัวและไขมันในช่องท้องของหนูที่ได้รับสารสกัดหญ้าหนวดแมวลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับหนูกลุ่มควบคุม

ทั้งยังมีประสิทธิผลและความปลอดภัยมากกว่ายาลดความอ้วน ชื่อออร์ลิสแทต (Orlistat) ที่ต้องใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น

ผลจากการทดลองในหนูและในห้องแล็บสรุปว่าหญ้าหนวดแมวมีศักยภาพที่จะนำไปพัฒนาเป็นยารักษาโรคอ้วนได้

วิธีใช้หญ้าหนวดแมว ในรูปของยาชงคือ ยาแห้งบดหยาบบรรจุซองกระดาษเยื่อขนาด 2-3 กรัม แช่ในน้ำเดือด 150-200 ม.ล. ชงดื่มวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการขัดเบา และเป็นโรคอ้วนที่อาจมีภาวะการอักเสบในหลอดเลือดแทรกซ้อน

มีข้อห้ามใช้ สำหรับผู้ป่วยที่ต้องจำกัดปริมาณโพแทสเซียม เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ และมิให้ต้มสมุนไพรชนิดนี้เพราะจะทำให้สารโพแทสเซียมถูกสกัดออกมามากเกินไป มีผลกระทบต่อการเต้นของหัวใจ แต่พิษข้างเคียงอย่างอื่นมีน้อยมาก จากการทดลองในหนูตั้งท้องไม่พบอันตรายเมื่อใช้ในขนาดที่เหมาะสม

ด้วยการรักษาวินัยใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ ฉีดวัคซีน ประสานกับการใช้สมุนไพร ก็มีความหวังว่าชาวไทยว่าจะได้เห็นแสงพลุอันตระการตาในวันเคาต์ดาวน์ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ฉลองชัยพ้นภัยโควิด-19 ไปด้วยกัน