จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 25-31 สิงหาคม 2560

เครื่องหมายพรรค

เรียน บ.ก. ที่นับถือ

ประเด็นการร่าง กม. เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. นั้น

ผมมีความเห็นง่ายๆ ดังนี้

ในเมื่อมีการกำหนดให้ ส.ส. ต้องสังกัดพรรคอยู่แล้ว

ในการเลือกตั้ง ส.ส.เขต ก็ให้ติดเครื่องหมายพรรค

และให้ผู้มีสิทธิ์ เลือกกาตรงเครื่องหมายพรรคไปเลย ไม่ต้องระบุหมายเลขอะไรอีกให้วุ่นวาย

เขตไหนพรรคที่ถูกเลือกได้คะแนนมาก ก็ได้ที่นั่ง ส.ส.เขตนั้นไปครับ

ขอเสนอแบบนี้ครับ

พีระศักดิ์ แฟนเก๊าเก่า

 

เห็น คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เชียร์แนวคิดนี้อยู่

คือ ให้ใส่ชื่อผู้สมัครและสัญลักษณ์พรรค ลงในบัตรลงคะแนน

ซึ่งสำหรับพรรคเก่าแก่ สัญลักษณ์พรรค “แม่พระธรณีบีบมวยผม” ดูจะเข้าไปอยู่ในใจของคนจำนวนไม่น้อยแล้ว

จึงน่าจะได้เปรียบ

แต่ปัญหาพรรคใหม่นั่นซี้

อย่างพรรคสีเขียว หรือพรรคเล็กที่อาจแปลงร่างขึ้นมา มาเพื่อเป็น “ฐาน” ให้ใครนั้น

การจะให้คนจำสัญลักษณ์พรรคได้ภายในปีสองปีอาจจะยาก

ไม่กลัว “บิ๊ก” เสียเปรียบหรือ

 

ซื้ออาวุธ

นานมากไม่ได้แสดงความคิดเห็น

หนนี้อดไม่ไหว เพราะนายกฯ ตอบออกทีวี ได้ยินได้ฟังกันทั้งประเทศ

“ไปยิงกับใคร แล้วมีเงินซื้อไหม”

ได้ฟังแล้ว เข้าใจ เห็นใจ ท่านอย่างสุดซึ้ง

ชี้ชัดว่าท่านมีสติ อดกลั้น คำนึงถึงประชาชนที่ยังทุกข์ยาก

บิ๊กๆ ทั้งหลาย

ก่อนจะเสนออะไร โปรดนึกถึงหัวอกท่านบ้าง

ระวัง ระวัง ท่านจะหมดความนับถือ เกรงใจ

นับถือ

กิตติ เนตวงษ์

 

พยายามจับน้ำเสียง ว่า “ประชด” หรือเปล่า

ดูแล้วท่าจะไม่ใช่การประชด

เป็นการสนับสนุนคำถาม “ไปยิงกับใคร แล้วมีเงินซื้อไหม” จริงๆ

ซึ่งตอนนี้ ก็คงรู้ว่า “อีหยังเป็นอีหยังแล้ว”

หลังกองทัพเรือออกมาชี้แจงว่าเป็นคนซื้อ “ขีปนาวุธ” เพื่อมาประจำเรือรบที่ต่อไป

ตามข้อตกลงและวงรอบการจัดซื้อเดิม

ประโยคขึงขัง “ไปยิงกับใคร แล้วมีเงินซื้อไหม” จึงค่อยๆ จางหายไป

แถมตุลาคมนี้ ตามที่ท่านว่า

คนที่ขึงขังดังกล่าว อาจต้องไปแท้งกิ้วผู้นำสหรัฐถึงทำเนียบขาวที่กรุณาขายอาวุธให้-เฮ้อ

 

ปฏิรูปตำรวจ

เรื่องการปฏิรูปตำรวจที่กำลังทำอยู่ และอ้างเหตุผลต่างๆ นานา

สาเหตุที่แท้จริง ลองมองย้อนหลังไป สมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งปรับปรุงกรมตำรวจให้แข็งแกร่ง ถึงขั้นมีตำรวจรถถัง

ผลสุดท้าย ท่าน ผบ.ทบ. ก็ไม่เห็นด้วย

จนเป็นสาเหตุให้ พล.ต.อ.เผ่า ต้องไปอยู่ต่างประเทศ และไม่ได้กลับมาเมืองไทยอีกเลย

สาเหตุที่แท้จริงไม่มีอะไร

เพียงเป็นการรักษา “อำนาจ”

ตะวันรอน

อ.ลอง จ.แพร่

 

ประวัติศาสตร์ เป็นบทเรียนของปัจจุบันและอนาคต

กูรู ท่านว่าไว้

ความล้มเหลวของการปฏิรูปตำรวจยุค พล.ต.อ.เผ่า

อาจจะแตกต่างสิ้นเชิงกับปัจจุบัน

แต่กระนั้น

ใครเชื่อว่าการปฏิรูปตำรวจ จะ “สำเร็จ”

ไม่ต้องยกมือขึ้น เมื่อย เปล่า-เปล่า

 

4+1 ข้อ

เกี่ยวกับ 4 คำถาม

1) สำหรับประชาธิปไตยของไทยก็เหมือนคน “ตาบอดคลำช้าง” โง่แล้วอวดฉลาด

2) รัฐธรรมาภิบาลกับนักการเมือง ต้องรอให้หมาเลิกกินขี้เสียก่อน

3) การทำดี-ความดี ทำได้ง่ายกว่า การทำชั่ว-ความชั่ว

ความดีลงทุนก็น้อย

ไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องถูกลงโทษ ไม่ต้องเที่ยวหลอกประชาชนแบบหน้าไหว้หลังหลอก ไม่ต้องทุจริต คอร์รัปชั่น เพียงแต่ไม่โลภมากเท่านั้น

4) อย่าเปิดโอกาสให้คนชั่วเข้ามามีอำนาจปกครองบ้านเมือง-ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการใช้เงินแจกเพราะคนไทยชอบขายสิทธิ-ขายเสียง ขายตัว ขายชาติ ขอให้ได้อำนาจ

คนดีปกครองบ้านเมืองไม่ได้หรืออย่างไร?

5) คุณลำไย ก็ประชาธิปไตยแบบผิดๆ ผิดจริยธรรม และผิดวัฒนธรรมของไทย

น่ารำคาญพวกประชาธิปไตยโง่ๆ จริงๆ

ประชาธิปไตยแบบ ปล่อยเสือเข้าป่า กลายเป็นเรื่องถูกต้อง การเมืองเป็นเรื่องของคน อย่าเอาเอี้ยเข้ามาปกครอง

ไม่ลงชื่อ

 

ข้อที่ 1 ถึงข้อที่ 4

โยนให้ฝ่ายข่าว คสช. ตัดนำเสนอเจ้าของคำถามเอง

(ซึ่งตอนนี้เงียบฉี่ ไร้ความคืบหน้าใดๆ)

ส่วนข้อที่ 5

จะเป็น “ขาเลาะ” อยู่ไย

มาาา… “คุณไม่ลงชื่อ” มา

มาแลกเปลี่ยนกันให้เห็นดำเห็นแดงกันไปเลย

หนูลำไยของ บ.ก. (ฮา) เป็นประชาธิปไตยแบบผิดๆ ตรงไหน