ก่อสร้างและที่ดิน/นาย ต.

ธุรกิจรับสร้างบ้านตลาดบนบูมหนัก

 

ช่วงที่โควิด-19 ระบาดระลอกแรกเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2563 ตลาดที่อยู่อาศัยเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่ ผู้ซื้อหันเหความต้องการมาที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น

เรื่องนี้เข้าใจได้เพราะผลจากโควิด-19 ทำให้คนไม่อยากใช้ประตู ใช้ลิฟต์ร่วมกับคนจำนวนมาก

และบ้านแนวราบระดับราคาแพง 10 ล้านบาทขึ้นไป มียอดขายดีมาก นอกจากไม่ตกแล้ว ยังมียอดขายเพิ่มขึ้นด้วย

เรื่องนี้ก็เข้าใจได้ เพราะแม้วิกฤตโควิดแพร่ระบาด จะส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ มีธุรกิจเจ๊ง มีคนตกงานจำนวนมาก แต่ผู้มีรายได้ระดับสูงๆ เจ้าของกิจการใหญ่ แม้ธุรกิจกระทบบ้างแต่ทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ถูกกระทบ

มาจนปี 2564 ที่กำลังจะหมดปีไปนี้ ก็ยังพบว่า บ้านใหม่ตลาดบนยังดีไม่มีตก

จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า จริงอยู่ประเทศไทยเศรษฐกิจกระจุกตัว คนรวยรวยมากและรวยมากขึ้น แต่จำนวนคนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีมากนัก

ทำไมตลาดบ้านจึงดีต่อเนื่องนานร่วม 2 ปี

 

สอบถามกับผู้บริหารบริษัทอสังหาฯ ที่ทำบ้านระดับราคา 40 กว่าล้านบาทไปจนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อหารายละเอียดเกี่ยวกับผู้ซื้อ ได้ความว่า มีหลายกลุ่ม แต่กลุ่มใหญ่ที่ทำให้ขายดีคือ คนอายุ 30-40 ปี ที่แยกตัวออกจากครอบครัวใหญ่ของเจ้าของกิจการเจ้าของโรงงาน ที่เดิมก่อนหน้านี้อยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ 3-4 เจเนอเรชั่น

เรื่องนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะถ้าคน 3-4 รุ่นต้องอยู่ร่วมกันในบ้านใหญ่ตลอดเวลาเพราะ “ล็อกดาวน์” ออกไปไหนมาไหนไม่ได้ สักเดือนสองเดือน คงจะต้องมีความคิดซื้อบ้านใหม่ต่างโครงการ แต่ไม่ไกลจากบ้านพ่อแม่มากนักกันแทบทุกราย

แต่ก็ยังคิดว่า คำตอบยังไม่น่าจะครบถ้วน จนกระทั่งได้ข้อมูลจากเจ้าของและผู้บริหารธุรกิจรับสร้างบ้านระดับราคาสูงหลายสิบล้านบาทไปจนกว่า 100 ล้านบาท

จึงมั่นใจว่าได้คำตอบสุดท้ายที่ครบถ้วนแล้ว

 

ธุรกิจรับสร้างบ้านผู้บริหารหรือเจ้าของจะไปคุยกับลูกค้าด้วยตัวเอง เพราะกระบวนการจะเริ่มจากการหารือกันเรื่องแบบดีไซน์บ้านที่ต้องปรับให้ตรงกับความต้องการของแต่ละราย ทั้งการใช้สอย รสนิยม ไลฟ์สไตล์

ธุรกิจรับสร้างบ้านผู้บริหารจึงมักรู้จักลูกค้าและสมาชิกในครอบครัวลูกค้าค่อนข้างดี ต่างจากโครงการบ้านในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างบ้านเสร็จให้ลูกค้าไปเลือกชมและตัดสินใจซื้อหลังที่ต้องการ ผู้บริหารบริษัทได้รับข้อมูลรายงาน แต่ไม่มีโอกาสได้พบปะลูกค้าตัวเป็นๆ โดยตรง

ข้อมูลจากเจ้าของและผู้บริหารธุรกิจรับสร้างบ้านตลาดบนรายใหญ่ ทำให้ทราบว่า การเปลี่ยนแปลงของตลาดรับสร้างบ้านช่วงโควิด 2 ปีนี้ ที่น่าสังเกตก็คือตลาดต่างจังหวัดมีการเติบโตมาก เป็นบ้านระดับราคาสูง

ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่ง ทั้งตลาดรับสร้างบ้านกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด ก็คือ พบว่าลูกค้าตัดสินใจซื้อบริการเร็วกว่าเมื่อก่อนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรวยเงียบๆ รวยมานาน แต่ไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมาก ใช้ชีวิตเรียบๆ ไม่หรูหราฟู่ฟ่า

ลูกค้ากลุ่มนี้บางรายเลือกดูแบบบ้านขนาดใหญ่กว่า 1 พันตารางเมตร ราคาประมาณ 100 ล้านบาท พอ “อาม่า” ชี้ชอบหลังนี้ก็ตัดสินใจซื้อเลยและไม่ได้ซื้อแค่หลังเดียวด้วย

ยอดขายตลาดบนของธุรกิจรับสร้างบ้านหลายรายโต 2-3 เท่าเลยทีเดียว

 

สรุปได้ว่า วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ ส่งผลกระทบไม่เพียงด้านกายภาพที่เป็นวัตถุเท่านั้น

ยังส่งผลต่อความคิดจิตใจของลูกค้าหรือตลาดด้วย

อย่างในกรณีตลาดรับสร้างบ้านระดับราคาสูงนั้น ความไม่แน่นอนของชีวิตคนจากข่าวการเจ็บการตายที่เกิดขึ้นของคนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก

ทำให้คนรวยที่มีเงินเก็บสะสมมาก ตัดสินใจใช้ชีวิตแบบที่เคยฝันไว้เร็วขึ้นแบบทันที