ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 ธันวาคม 2564 |
---|---|
เผยแพร่ |
ไทม์เอาต์/SearchSri
‘โอไมครอน’
พายุโหมโลกกีฬาระลอกใหม่
จากเดิมที่ดูเหมือนว่าวงการกีฬาโลกจะเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 เข้าสู่ภาวะปกติได้ทีละนิด การมาของโควิดสายพันธุ์ โอไมครอน ดูจะทำให้ทุกอย่างเข้าสู่โหมดวิกฤตอีกครั้ง
หนักสุดไม่พ้น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกลูกหนังยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก ซึ่งเลื่อนเกมเตะร่วม 10 นัด หลังจากหลายทีมประสบปัญหาโควิดระบาดในหมู่นักเตะและสตาฟฟ์โค้ช โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
ซึ่งกรณีของสเปอร์ส ทำให้ต้องยกเลิกแมตช์เตะกับ แรนส์ ในศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก แต่เป็นการทำไปโดยพลการ ไม่ได้รับการเห็นชอบจากทั้งคู่แข่งและยูฟ่า เมื่อไม่สามารถกลับมาจัดแข่งใหม่ได้ตามกำหนด จึงโดนปรับแพ้และตกรอบไปโดยปริยาย
20 สโมสรพรีเมียร์ลีกเพิ่งประชุมฉุกเฉินไปไม่นานหลังจากยอดผู้ติดเชื้อในสหราชอาณาจักรพุ่งสูง แต่สุดท้ายเลือกที่จะไม่ยกเลิกการแข่งขัน แต่เลื่อนบางแมตช์
โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสซึ่งน่าจะเป็นช่วงพีกทีเดียว
ที่น่าสนใจคือ แม้พรีเมียร์ลีกจะออกมาตรการคุมเข้มขึ้นอย่างการให้นักเตะและสตาฟฟ์โค้ชสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดแทบจะทุกเวลา ยกเว้นตอนซ้อมกับตอนแข่ง รวมถึงต้องตรวจหาโควิดแบบใช้ชุดตรวจด้วยตัวเอง (ATK) ทุกวัน และตรวจแบบ PCR กับห้องแล็บโรงพยาบาลสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รวมถึงออกมาตรการคุมเข้มกับผู้ชมที่จะชมการแข่งขันในสนามต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส หรือมีผลตรวจเป็นลบอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องการควบคุมจำนวนผู้ชมการแข่งขันในสนามมากนัก
เหตุผลหลักๆ ก็คือ ตอนนี้พรีเมียร์ลีก รวมถึงลีกลูกหนังอื่นๆ ต่างไม่พร้อมที่จะแบกรับสถานการณ์ “ล็อกดาวน์” แบบปีที่แล้วซึ่งทำให้สูญเงินไปมหาศาลอีกแล้วนั่นเอง
มีการประเมินตัวเลขคร่าวๆ ว่าการล็อกดาวน์รอบที่แล้วทำให้พรีเมียร์ลีกสูญเสียรายได้รวมๆ กัน 2,000 ล้านปอนด์ (90,000 ล้านบาท) ทุกวันนี้หลายทีมไม่ใช่เฉพาะในอังกฤษยังต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เป็นหนี้สินและเข้าสู่ภาวะล้มละลาย
อีกทั้งการเลื่อนโปรแกรมแข่งขันจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงโปรแกรมแข่งขันฤดูกาล 2022-2023 ซึ่งในภาวะปกติก็ลำบากมากพออยู่แล้ว เนื่องจากต้องปรับโปรแกรมแข่งไปหยุดเตะกลางซีซั่นช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เพื่อหลีกทางให้ “ฟุตบอลโลกฤดูหนาว” ที่ประเทศกาตาร์
ข้ามไปฝั่งสหรัฐอเมริกา สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ มีประเด็นตั้งแต่ยังไม่แข่ง เมื่อผู้เล่นบางคน โดยเฉพาะ ไครี่ เออร์วิ่ง ของบรู๊กลิน เน็ตส์ ยืนยันไม่ขอฉีดวัคซีน ซึ่งตามกฎของรัฐนิวยอร์กไม่อนุญาตให้นักกีฬาที่ไม่ฉีดวัคซีนลงแข่งขันลีกกีฬาอาชีพในเขตรัฐ แม้เออร์วิ่งจะสามารถลงแข่งเกมเยือนให้ทีมได้ แต่เน็ตส์ไม่ต้องการให้นักกีฬาคนใดทำงานแบบ “พาร์ตไทม์” จึงยืนยันไม่ส่งลงสนาม
แต่สุดท้ายกลับต้องกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะผู้เล่นที่เหลือรับภาระหนักเกินไปในการโรเตชั่นลงแข่งขัน จึงต้องกลับมาเรียกตัวเออร์วิ่งอีกครั้ง
ไม่เพียงเท่านั้น ตอนนี้หลายทีมในลีกเอ็นบีเอเริ่มเผชิญปัญหาการระบาดของโควิดในทีมแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะ ชิคาโก บูลส์ ที่เหลือผู้เล่นไม่ถึงเกณฑ์ที่ทางลีกกำหนดไว้ จึงต้องเลื่อนโปรแกรมแข่งหลายนัด ขณะที่หลายทีมทยอยเลื่อนแข่งตามๆ กันมา
ด้านลีกฮอกกี้น้ำแข็ง เอ็นเอชแอล มีมติพักการแข่งขันเร็วกว่ากำหนดการเบรกคริสต์มาส เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มน่าเป็นห่วง
แต่ลีกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ยังมั่นใจว่าเอาเจ้าโอไมครอนอยู่ แม้ว่าจะระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้า แต่ยังถือว่าไม่เกินกว่าที่คาดคะเนไว้
ตอนนี้สถานการณ์โควิดในหลายๆ ภูมิภาคเริ่มกลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง รัฐบาลบางประเทศก็เริ่มกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ตามสมควรแล้วเช่นกัน
ไม่ช้าก็เร็ว วงการกีฬาโลกอาจจะต้องเจอกับภาวะวิกฤตเหมือนกับเมื่อปีกลาย แต่เชื่อว่าอาจจะไม่หนักหนาสาหัสเท่า
เพราะไม่อาจแบกรับภาระหนักหน่วงได้เหมือนเก่าอีกแล้ว