เลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร กลางปี 2565/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

เลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร กลางปี 2565

 

มาถูกที่ถูกเวลาเป๊ะ ประชาธิปัตย์ โดย “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานเปิดตัว “ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” ที่เพิ่งไขก๊อกจากอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มาหมาดๆ เป็นผู้สมัครลงชิงชัยผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร

อลังการงานสร้าง ท่ามกลางธารกำนัลน้อยใหญ่มาให้กำลังใจคึกคัก อาทิ “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา “บัญญัติ บรรทัดฐาน” ประธานที่ปรึกษาพรรค “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” อดีตผู้ว่าฯ กทม.

รวมถึงกรรมการบริหารพรรคทั้งอดีตและปัจจุบัน โดยมีว่าที่ทีมผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ “ส.ก.” ของประชาธิปัตย์ จำนวน 50 คน มาร่วมวงไพบูลย์ด้วย

ทั้งนี้ ในวันเปิดตัว “ด๊อกเตอร์เอ้” ต้องยอมรับว่า เริ่ดสะแมนแตนมาก มีการแสดงวิสัยทัศน์ บอกกล่าวเล่าสืบประวัติความเป็นมาของตัวเองทั้งประสบการณ์ การศึกษา ผลงานที่ผ่านมา และแนวนโยบายหากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้อยู่รอดปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วม รถติด มลพิษ เนรมิตให้เมืองหลวงเป็นกรุงโตเกียว

มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีเยี่ยม สัญญาณไฟจราจรควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องพึ่งพาตำรวจจราจร รวมทั้งเพิ่มพื้นที่ใต้ดินให้เหมือนสิงคโปร์ เปลี่ยนเศรษฐกิจเมืองให้ทันสมัย และสร้างรายได้ให้เป็นเมืองเศรษฐกิจดิจิตอล

สรุปได้ว่า ทั้งหล่อ ทั้งเก่งแล้ว ยังรวยปะอีกต่างหาก ผู้ชายแบบนี้พิมพ์นิยม ใครมีลูกสาวก็ต้องยกให้ แถมดวงเฮงอีกต่างหาก วันประกาศลงสมัครชิงเก้าอี้หมายเลขหนึ่งเสาชิงช้านั้นน่ะ

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี เหมือนมาตามนัด ร้อยวันพันปีไม่เคยปริปาก อมพระประธานมาตลอด จู่ๆ “บิ๊กตู่” ก็ป่าวประกาศว่า จะจัดการให้มีเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ในช่วงกลางปี 2565 ปล่อยผียกป่าช้าพร้อมสมาชิกสภา กทม. หรือ “ส.ก.”

จะเป็นวันไหน เดือนอะไร รัฐบาลจะส่งสัญญาณไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้กำหนด ช่วยเป็นแรงส่งให้การเปิดตัวของ “ดร.เอ้” ได้รับอานิสงส์ทั้งขึ้นทั้งล่อง ข่าวคราวดังเอกอุทั่วยุทธภพ สื่อกระแสหลัก กระแสรอง จั่วหัวกันทุกสำนัก

ผลดีกับพรรค-ผู้สมัครเยอะมาก “ข้อเสีย” ก็มีแหละ ปะปนระคนกัน เป็นธรรมดาของการเมือง เมื่อมีคำอวยอร ต้องมีคำสาป มีเสียงชื่นชม ยินดี และต้องมีฮาครืน มีดราม่าตามมาตอนหนึ่งที่ “ดร.สุชัชวีร์” อ้างอิงว่า ตัวเองเป็นลูกศิษย์ของ “ศ.เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์” แห่งสถาบันเอ็มไอที หลานแท้ๆ ของ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลก ซึ่งกาลต่อมา ถูกปฏิเสธว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแต่ประการใด

ประเด็นเล็กๆ เลยกลายเป็นไฮไลต์ นำมาหักกลบลบหนี้ ล้างบัญชีเกลี้ยงแทบไม่เหลืออะไรเลย

 

ขณะที่ผู้สมัครที่จะเป็นคู่แข่งรายสำคัญคนอื่นๆ ล่าสุดสะเด็ดน้ำแล้วว่า “นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” หรือ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” เจ้าเมืองจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีข่าวมาตลอดว่าจะลงชิงดำผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคพลังประชารัฐ ประกาศชัดเจนแล้ว ไม่ลงสมัคร เพราะมีปัญหาหมวดคุณสมบัติ ปมสำเนาทะเบียนบ้าน ในฐานะผู้ว่าฯ ต้องสัญจรไพรย้ายที่ประจำการไปตามคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย โมเมนตัมเลยขาดความต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 6 ถนนเทพปทุม ต.บางปรอก อ.เมือง ไม่ได้อยู่ในเขต กทม.แต่ประการใด เจ้าตัวเชื่อว่าคุณสมบัติเป็นไปไม่ได้ที่จะสมัคร

ดังนั้น “พปชร.” อาจจะเป็นพรรคการเมืองใหญ่ ที่มีที่นั่ง ส.ส.ใน กทม.ไม่ส่งผู้สมัครลงดวลเดือดเช่นเดียวกับ “เพื่อไทย”

ที่ไม่กล่าวถึงย่อมไม่ได้ คือ “ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เจ้าของฉายา “บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” เพราะเจ้าตัวประกาศเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่มาตั้งแต่ต้นว่า จะลงสมัครแบเบอร์ ไม่ว่ากระแสจะดีหรือไม่ดี

หัสเดิม “ดร.ทริป” ถูกเพื่อไทยเจรจาให้เป็นตัวแทนพรรค แต่เขาปฏิเสธ ปลีกวิเวก มาขอลง “อิสระ” และจากการสำรวจของ “นิด้าโพล” ตั้งแต่ครั้งที่ 1 ถึงครั้ง 7 ว่า “อยากได้ใครเป็นผู้ว่าฯ กทม.มากที่สุด”

“ชัชชาติ” นอนน้ำใสเกาะที่ 1 มาตลอด สัดส่วนเปอร์เซ็นต์ก็ทิ้งห่างที่ 2 และ 3 แบบไม่เห็นฝุ่น

โปรไฟล์ยอดเยี่ยมในทุกองค์ประกอบ ทั้งชาติตระกูล ญาติวงศ์พงศา ช่วงที่อยู่ในตำแหน่งบริหารบ้านเมือง มีผลงานเชิงประจักษ์เยอะแยะมากมาย มีความดีเสมอหน้า

ประวัติการศึกษาก็ไม่เป็นสองรองใคร วิศกรรมศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง ด๊อกเตอร์จากอิลลินอยส์

อีกคนน่าจะไม่แคล้ว คือ “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าฯ กทม.รักษาการ คาดว่าจะลงสมัครในนามอิสระเช่นเดียวกัน แต่น่าจะอิงฐานการเมืองของ พปชร.

“บิ๊กวิน” ถูกเทียบเชิญให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.สมัย “คุณชายหมู” ยังอยู่ในตำแหน่ง แต่เมื่อปี 2559 “พล.อ.ประยุทธ์” อาศัยอำนาจมาตรา 44 ให้ “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้ง “พล.ต.อ.อัศวิน” เป็นผู้ว่าฯ แทนตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีเดียวกัน

“บิ๊กวิน” เลยตีนบวมมาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ถึงบัดนี้เป็นเวลา 5 ปีเศษ

“อำนาจ” เสพเข้ามากๆ นานๆ ติดเป็นตังเม เดิมทีเดียว “พล.ต.อ.อัศวิน” กอดคอสามัคคี เป็นปี่เป็นขลุ่ย สนับสนุนน้องรักที่ชื่อ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” อดีต ผบ.ตร. ลงลุยถั่ว หวังให้สืบทอดดูแลเสาชิงช้าต่อจากตัวเอง

แต่ไปๆ มาๆ เมื่อหันไปดูผลสำรวจ “นิด้าโพล” ในครั้งหลังๆ ชื่อ “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” กระโดดค้ำถ่อแรงกิ้งดีกว่า “น้องแป๊ะ”

กอปรกับเมื่อยลตามช่อง แยกสาย แบ่งขั้วใน พปชร.ดูแล้ว “บิ๊กวิน” มีความใกล้ชิด ได้รับการสนับสนุนจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” มากกว่า เลยเกิดความอยาก

เมื่อเกิดความอยาก เลยแสวงหา ขอลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.เอง เบียด “บิ๊กแป๊ะ” ตกขอบจอ

สรุป ตอนนี้มี “บิ๊กเนม” ที่พร้อมท้าชนชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว 3 คนด้วยกันคือ 1. “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” 2. “สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” 3. “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง”

ต้นปีหน้า เชื่อว่าจะเปิดตัวอีก 2-3 พรรค