ควันหลงแต่งตั้งนายพัน วาระ 2564 ‘คนทำงานไม่เจริญ’ สะเทือนองค์กร สร้างโอกาสพิสูจน์ฝีมือ ‘นักสืบหญิง’/โล่เงิน

โล่เงิน

 

ควันหลงแต่งตั้งนายพัน วาระ 2564

‘คนทำงานไม่เจริญ’ สะเทือนองค์กร

สร้างโอกาสพิสูจน์ฝีมือ ‘นักสืบหญิง’

 

ควันหลงแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึงสารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2564 ที่สร้างแรงกระเพื่อมให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อยู่ในห้วงเวลานี้ คงหนีไม่พ้นกรณี พ.ต.ท.บุรี อมรพิชิต ตำแหน่ง สว.อก.สภ.กรับใหญ่ จว.ราชบุรี ขอลาออกจากราชการ

ให้เหตุผลในบันทึกข้อความถึง พ.ต.อ.วีรศักดิ์ กลั่นเกิด ผกก.สภ.กรับใหญ่ ใจความว่า

“ขอลาออกราชการ เพื่อดูแลมารดาซึ่งป่วยมีสภาพนอนติดเตียง และที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่กลับไม่ได้รับความเจริญก้าวหน้าในอาชีพตามสมควร จึงขอลาออกจากราชการเพื่อประกอบอาชีพอื่น ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2565 และขอเรียนว่าการลาออกจากการราชการครั้งนี้เป็นความประสงค์ของข้าพเจ้าเอง มิได้ถูกผู้บังคับบัญชาบีบบังคับ หรือถูกกลั่นแกล้ง และขอยืนยันว่าข้าพเจ้าจะไม่เลิกล้มความตั้งใจและเปลี่ยนใจถอนใบลาออกนี้”

พร้อมทิ้งท้ายวลีสุดอัดอั้นบนโซเชียลมีเดีย “คนทำงานไม่เจริญ คนเจริญไม่ทำงาน” สะท้อนปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายยังคงมีให้เห็นทุกยุค

 

ฤดูกาลการโยกย้ายนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ พ.ต.ท.บุรีที่ขอลาออก หลังอกหักจากการแต่งตั้งโยกย้าย

ย้อนไปเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชร์รักษ์ ผกก.สภ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี ก็ได้ยื่นหนังสือขอลาออก หลังถูกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.ฝอ.ภ.จ.กาฬสินธุ์ จว.กาฬสินธุ์ โดยให้เหตุผลว่า เหลืออายุราชการอีกเพียงปีเดียว กับตำแหน่งใหม่ที่ถูกโยกย้ายไปนั้นซึ่งต้องเดินทางกว่า 500 กิโลเมตร ประกอบกับสุขภาพของตนที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยในการเดินทางไกล ทำให้ตนตัดสินใจลาออกไปพักผ่อนและหางานอดิเรกทำ

ยังมี พ.ต.ท.รัชอานนท์ ภูริภากร สว.ฝ่ายอำนวยการ กองกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค 8 ไม่ได้ยื่นขอลาออก แต่ร้องขอความเป็นธรรมผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ “สารวัตรเคน สิงหนคร” ระบุถูกรังแกและกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับแต่งตั้งโยกย้ายให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จ.สงขลา สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเกิด หรือพื้นที่ต่อเนื่องพื้นที่ จ.สงขลา สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ตามที่ได้ทำบันทึกร้องขอความเมตตาต่อผู้บังคับบัญชา

เพื่อกลับไปดูแลแม่ที่มีอาการป่วย

 

เป็นปมร้อนถึง พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เผยว่า จากกรณีมีข้าราชการตำรวจบางรายยื่นใบลาออก หรือบางรายเกิดอาการท้อแท้กับการรับราชการตำรวจนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยให้ลงไปหาข้อมูล ข้อเท็จจริงกับกำลังพลในสังกัด รวมถึงรายละเอียดของปัญหาแต่ละบุคคล แล้วให้เสนอมาตามลำดับชั้นเพื่อจะได้นำไปหาทางแก้ไขให้เกิดขวัญกำลังใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มกำลังความสามารถ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขต่อพี่น้องประชาชน

“ไม่อยากให้กำลังพลทุกนายท้อแท้ เพราะหากกำลังพลท้อแท้ต่อการปฏิบัติหน้าที่ ผลที่เกิดขึ้นจะตกอยู่กับประชาชน การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี ทุกๆ ปีที่ผ่านมา มีทั้งคนสมหวัง ผิดหวัง เป็นปกติ เหมือนกันกับข้าราชการทุกหน่วย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ดำเนินการด้วยความรอบคอบ เป็นไปตามกฎ ก.ตร. รวมทั้งระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง วอนว่าอย่าท้อแท้ จงสร้างพลังให้กับตัวเองเพื่อจะได้เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน และหากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีช่องทางกฎระเบียบให้ร้องทุกข์ต่อ ก.ตร.ได้”

โฆษก ตร.กล่าว

 

ด้านกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เผยแพร่วีดิทัศน์ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ลงชื่อ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. มีเนื้อหาแสดงให้เห็นถึงตำรวจผู้เสียสละในการทำงานในการปฏิบัติหน้าที่ และได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจ ว่าความดี ความเสียสละที่ข้าราชการตำรวจได้ทำ ต้องมีผู้บังคับบัญชาเห็น จงอย่าท้อ จงทำงานต่อไป อย่างน้อยที่สุด ใครไม่เห็น ตัวท่านเองก็เห็น หรือไม่ฟ้าดินก็เห็น

ทั้งนี้ พล.ต.ท.กรไชยยังหยิบยกความตอนหนึ่งของ ผบ.ตร.ที่กล่าวในวันมอบนโยบายการบริหารราชการ ประจำปีงบประมาณ 2564 เมื่อ 2 ตุลาคม 2563 ว่า

“เรื่องการแต่งตั้ง เราต้องคัดเลือกคนที่ดี ที่เด่น เพื่อให้ได้ดีให้ได้ ตำแหน่งแห่งที่ไม่ใช่รางวัลชนิดเดียวที่เราจะให้ลูกน้องหรือใครก็ตาม แต่การให้โอกาสเขาก็เป็นรางวัลอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้น ท่านต้องสร้างโอกาสให้กับทุกคน”

 

สอดรับกับบรรทัดฐานใหม่ของวงการตำรวจ ที่ตำรวจหญิงหลายนายได้รับโอกาสให้มาทำหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แม้ในอดีตถูกมองว่าต้องเป็นงานเฉพาะตำรวจผู้ชายเท่านั้น อาทิ พ.ต.ท.หญิง โสพิศ พิศพรรณ สว.ฝอ.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนเป็นรอง ผกก.สส.สภ.บ้านตาขุน จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.ต.หญิง กิตติมา เซ่งล่ำ สว.อก.สภ.บัวลาย จว.นครราชสีมา โยกเป็น สว.กก.สส. ภ.จว.นครราชสีมา, ร.ต.อ. หญิง ดาวฤกษา พรรณราย รอง สว.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เป็น สว.กก.สส.ภ.จว. นครศรีธรรมราช และ ร.ต.อ.หญิง ชาดา เสสะเวช รอง สว.กก.ดส. เป็น สว.กก.ดส. เป็นต้น

พ.ต.ท.หญิง โสพิศกล่าวว่า กรณีได้รับการแต่งตั้งมาดำรงตำแหน่งรอง ผกก.สส.สภ.บ้านตาขุน จว.สุราษฎร์ธานี ผู้บังคับบัญชาคงเล็งเห็นถึงความรู้ความสามารถที่ผ่านมา เมื่อผู้บังคับบัญชาให้โอกาส ตนขอให้คำมั่นกับทุกคนว่าจะตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด สุดท้ายต้องขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นที่เห็นความสำคัญ และใช้ดุลพินิจในการให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นในครั้งนี้ ตนยังเชื่อว่าความเป็นธรรมยังมีอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนข้าราชการตำรวจที่มีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่

แม้ทุกคนรู้ดีว่าเรื่องสมหวัง-ผิดหวัง เป็นสัจธรรมการแต่งตั้ง แต่ผู้มีอำนาจต้องพิจารณาด้วยความเป็นธรรมอย่างทั่วถึง

อย่าให้คำว่า “คนทำงานไม่เจริญ คนเจริญไม่ทำงาน” ทำลายขวัญกำลังใจกำลังพลจนเป็นเรื่องเคยชิน