บทความพิเศษ

สุภา ปัทมานันท์

 

เสียงประชาชนชาวญี่ปุ่น

 

มีรายงานการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวญี่ปุ่น จำนวน 2,318 คน อายุ 18 ปีขึ้นไป เมื่อวันที่ 4-5 ธันวาคมที่ผ่านมา ของสำนักข่าวเจเอ็นเอ็น หัวข้อเกี่ยวกับเรื่องต่างๆในขณะนี้ ทั้งที่เกี่ยวกับการเมือง โควิด-19 นโยบายป้องกันการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน（オミクロン株）ของรัฐบาล การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา เป็นต้น เป็นการสำรวจความคิดเห็นสั้นๆ แต่น่าสนใจ มาเล่าสู่กันฟังดังนี้

คำถามว่า “ท่านสนับสนุนรัฐบาลภายใต้การนำของ นายฟูมิโอะ คิชิดะ（岸田文雄）นายกรัฐมนตรีหรือไม่” มีผู้ตอบว่า “สนับสนุน” ถึง 64% เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนที่แล้ว ในจำนวนนี้เกินกว่า 20% ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะนาย คิชิดะ นายกรัฐมนตรีเป็นคนที่น่าไว้วางใจ และคณะรัฐมนตรีเป็นคนที่เชื่อถือได้จากพรรคแอลดีพี（自民党） ส่วนผู้ตอบว่า “ไม่สนับสนุน” มี 29% ลดลงจากเดิม　นับเป็นกำลังใจสำคัญสำหรับรัฐบาลจากการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นให้มุ่งมั่นทำงาน

“พรรคการเมืองที่ท่านสนับสนุนคือพรรคใด” มีเสียงสนับสนุนพรรคแอลดีพีของรัฐบาล 38.7% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนเสียงสนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน เช่น อิชิน（日本維新の会）(มีฐานเสียงอยู่ที่โอซากา) 8.5% พรรครัฐธรรมนูญเพื่อประชาธิปไตย（立憲民主党）พรรคแกนนำฝ่ายค้าน มีเพียง 8% ซึ่งลดต่ำลง

“ท่านเห็นด้วยกับนโยบายรับมือและจัดการกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลตั้งแต่เริ่มต้นจนบัดนี้หรือไม่” มีผู้ตอบว่า “เห็นด้วย” ถึง 59% สูงขึ้นจากเดือนที่แล้ว ผู้ตอบว่า “ไม่เห็นด้วย” มีเพียง 32%

ส่วนคำถามว่า “ท่านรู้สึกกังวลว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งใหม่อีกหรือไม่” มีผู้ตอบว่า “รู้สึกกังวล” “กังวลใจมาก” “กังวลใจบ้าง” รวมสูงถึง 86%

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่น ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 30 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วันได้ตรวจพบชายชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากนามิเบียติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน เป็นมาตรการรับมืออย่างรวดเร็วและเข้มงวดสูงสุด ต่อการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ในทันทีที่มีข่าวผู้ติดเชื้อในแอฟริกาใต้ และยุโรปหลายประเทศ และหลังจากนั้นยังมีมาตรการให้สายการบินแจแปนแอร์ไลน์และสายการบินเอเอ็นเอ งดการรับจองเที่ยวบินจากต่างประเทศด้วย แต่มาตรการนี้มีเสียงคัดค้านและร้องเรียนอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นที่อยู่ต่างประเทศต่างก็มีแผนเดินทางกลับญี่ปุ่นช่วงปลายปีเพื่อฉลองปีใหม่กับครอบครัว จนทำให้ต้องยกเลิกมาตรการงดรับจองเที่ยวบินไปในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตามมีผู้ตอบ “เห็นด้วย” กับมาตรการรับมืออย่างเข้มงวดสูงสุดของรัฐบาลถึง 84%

ญี่ปุ่นได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 ตั้งแต่เข้าเดือนธันวาคม ประชาชนส่วนใหญ่ถึง 79% สมัครใจ และกระตือรือร้นเตรียมเข้ารับการฉีดเข็มกระตุ้นนี้ มีเพียง 17% เท่านั้นที่ไม่ตื่นตัว

เรื่องเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลมีนโยบายจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นเงิน 100,000 เยน โดยจะจ่ายเป็นเงินสด 50,000 เยน และที่เหลืออีก 50,000 เยน จ่ายเป็นคูปองเพื่อนำไปแลกซื้อสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพต่างๆ มีเสียงคัดค้านการจ่ายเป็นคูปองจากประชาชนทั่วไปที่เห็นว่ายุ่งยาก ควรจ่ายเป็นเงินสดทั้งจำนวนดีกว่าเพื่อนำไปซื้อสินค้าจำเป็นได้ทันที และเสียงจากพรรคฝ่ายค้านว่าการทำเช่นนี้ทำให้ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์ การดำเนินงานและจัดส่งคูปองต่างๆเป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียว

พ่อแม่ที่มีลูกอายุต่ำกว่า 18 ปีที่อยู่ในข่ายจะได้รับความช่วยเหลือนี้ 55% ตอบว่า “อยากได้เงินสดทั้งจำนวน” 11% ตอบว่า “ทั้งเงินสดและคูปองก็ไม่เป็นไร” มีเพียง 9% ตอบว่า “คูปองดีกว่า” ส่วนอีก 20% ตอบว่า “ไม่ควรมีการให้ความช่วยเหลือ”

เรื่องการสนับสนุนให้คนญี่ปุ่นท่องเที่ยวในประเทศเพื่อช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว（観光支援対策）ในชื่อแคมเปญโกทูแทรเวล（Go Toトラベル） ที่ต้องระงับไปหลังจากเกิดการแพร่ระบาดอย่างมากตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว　รัฐบาลมีแผนจะนำกลับมากระตุ้นให้ผู้คนออกไปท่องเที่ยวในประเทศอีก โดยกำลังพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสม 22% ตอบว่า “ระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงช่วงวันหยุดยาวโกลเด้นวีค(ปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม)” 29% ตอบว่า “หลังวันหยุดยาวโกลเด้นวีค และ 33% ตอบว่า “ไม่ควรมีแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวอีก”

ช่วงใกล้ปลายปีบริษัทต่างๆและผู้คนจำนวนมากจะจัดงานฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่สำหรับปีนี้มีเพียง 20% ตอบว่า “มีแผนจะจัดงาน” ส่วนอีก 79% ตอบว่า “งดจัดงานเลี้ยงสังสรรค์”

วันหยุดต่อเนื่องปลายปีถึงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม เป็นช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นจะเดินทางกลับไปฉลองปีใหม่พร้อมหน้าครอบครัวพ่อแม่ ปู่ย่าที่ต่างจังหวัด แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สามารถควบคุมได้แล้ว ในหลายๆจังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อรายวันแล้ว อีกทั้งยอดผู้เสียชีวิตก็เหลือเพียงหลักหน่วย กำลังจะโล่งอก ปลอดโปร่งใจเตรียมฉลองปีใหม่กับครอบครัว กลับยังต้องเฝ้าระวังการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนอีก เมื่อถามว่า “ท่านจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดหรือไม่” 79% ตอบว่า “ปีนี้ไม่กลับ” มีเพียง 19% ที่ตอบว่า “จะกลับ”

มาถึงคำถามสุดท้ายเกี่ยวกับเรื่องการเมือง พรรคแกนนำฝ่ายค้านคือ พรรครัฐธรรมนูญเพื่อประชาธิปไตย（立憲民主党）มีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้ได้รับเลือกคือ นายเคนตะ อิสุมิ（泉健太）วัย 47 ปี “ท่านสนับสนุนนโยบายพรรคภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคคนใหม่หรือไม่” 38% ตอบว่า “สนับสนุน” และ 46% ตอบว่า “ไม่สนับสนุน”

ความเห็นเกี่ยวกับการเมืองและพรรคการเมืองอาจไม่สำคัญเท่าความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปากท้อง การดำเนินชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชน สวัสดิการ และการสาธารณสุข เป็นต้น สื่อมวลชนของญี่ปุ่นทำหน้าที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนอยู่เสมอ และเสียงเหล่านี้สะท้อนไปถึงรัฐบาลของเขาที่ใส่ใจฟังอย่างตั้งใจและสนองตอบอย่างมีประสิทธิภาพ

เสียงประชาชนชาวไทยล่ะ?…