การศึกษา/โควิดทำพิษ 2 ปีซ้อน ศธ.เลื่อนจัดงานวันเด็กปี ’65

การศึกษา

โควิดทำพิษ 2 ปีซ้อน

ศธ.เลื่อนจัดงานวันเด็กปี ’65

 

เป็นปีที่ 2 หลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตัดสินใจประกาศงดจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ และปรับเปลี่ยนรูปแบบจัดงานวันเด็กแบบนิวนอร์มอล ผ่านระบบออนไลน์

สำหรับงานวันเด็กจะตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ซึ่งวันเด็กแห่งชาติปี 2565 ตรงกับเสาร์ที่ 8 มกราคม ล่าสุด ศธ.มีมติออกมาชัดเจนแล้วว่า จะไม่จัดกิจกรรม ในลักษณะงานมหกรรม แต่จะจัดผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้

รวมถึงได้เผยโฉมหนังสือวันเด็กแห่งชาติ ชื่อ “เด็กไทยใจเป็นหนึ่ง” เป็นผลงานของ ด.ญ.นิชากานต์ เสมเถื่อน ระดับชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านท่ายาง (ประชาสรรค์) อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งชนะการคัดเลือกจากผลงานที่ส่งประกวดทั้งหมด 48 รายชื่อ

ภาพปก เป็นผลงานของ ด.ช.กฤตานนท์ กันทวงค์ และ ด.ช.ณัฐวุฒิ สุทธดุก ระดับชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านทาป่าเปา อ.แม่ทา จ.ลำพูน คัดเลือกจากผลงานส่งเข้าประกวดทั้งหมด 75 ผลงาน

ในหนังสือยังมีพระบรมราโชวาทจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระคติธรรมสมเด็จพระสังฆราช คำขวัญและสารของนายกรัฐมนตรี สารของรัฐมนตรีว่าการ ศธ. และผลงานเขียนของนักเรียน ในรูปแบบนิทาน เรื่องสั้น บทร้อยกรอง การ์ตูนช่อง และภาพวาด จำนวน 22 ผลงาน คัดเลือกจากผลงานส่งเข้าประกวดทั้งหมด จำนวน 95 ผลงาน

พร้อมทั้งบทความพิเศษเรื่อง เปลี่ยน Mindset เด็กได้ง่ายๆ แค่เปลี่ยนคำพูด เกี่ยวกับวิธีการพูดเพื่อสร้าง Growth Mindset สำหรับเด็ก และเกมฝึกสมองและทักษะสำหรับเด็ก

คาดว่าจะจัดพิมพ์แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2564

 

ขณะที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ. มอบหมายให้ผู้บริหาร ศธ.หาของขวัญปีใหม่และของขวัญวันเด็กให้กับนักเรียนและครู โดยนำโครงการต่างๆ ที่ได้ทำมาตลอด หรือโครงการที่ต้องการดำเนินการ มาปรับให้เกิดความสำเร็จ สามารถจับต้องได้

เบื้องต้นมีโครงการที่น่าสนใจ ดังนี้ ในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 อาจจะมีคาราวานของขวัญมอบให้กับเด็กด้อยโอกาส เด็กยากจนทั่วประเทศได้ หรือจัดโครงการวิทยาศาสตร์การเรียนรู้ให้กับเด็กที่สนใจ มาร่วมกิจกรรมทดลองวิทยาศาสตร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดผลักดันเรื่องการจ่ายเงินอุดหนุนตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ที่แต่ละปีการศึกษา ศธ.จะจัดสรรงบประมาณสนับสนุนใน 5 หมวด ได้แก่ ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบชุดนักเรียน และค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ว่าจะทำอย่างไรให้เงินค่าใช้จ่ายบางรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเข้าถึงผู้ปกครองโดยตรง เช่น ค่าเครื่องแบบชุดนักเรียน และค่าอุปกรณ์การเรียน เป็นต้น

นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ.ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการ ศธ.มอบหมายให้ไปสร้างแอพพลิเคชั่นรับเงินเรียนฟรี 15 ปีขึ้นมา ซึ่งอาจจะคล้ายกับแอพพลิเคชั่นเป๋าตังในขณะนี้ มองว่าการสร้างแอพพลิเคชั่นนั้นสร้างไม่นาน แต่ห่วงปลายทางการรับเงินอาจจะติดขัด เพราะผู้ปกครองบางคนอาจไม่มีบัญชีธนาคาร และบางรายอาจไม่มีมือถือสามารถรับแอพพลิเคชั่นได้

เบื้องต้นมองว่าควรจะจ่ายเงินตามความสะดวกของผู้ปกครอง เช่น หากผู้ปกครองรายใดสะดวกรับเงินผ่านแอพพลิเคชั่นให้มาลงทะเบียนรับเงินได้เลย และหากผู้ปกครองรายใดไม่สะดวกลงทะเบียนรับเงินผ่านแอพพลิเคชั่น ให้มารับเงินสดที่โรงเรียน เป็นต้น

คาดว่าต้นปี 2565 จะเห็นภาพแอพพลิเคชั่นเรียนฟรีที่เป็นรูปธรรมทันใช้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

 

สําหรับประวัติวันเด็กแห่งชาติ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2498 วัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กทั่วประเทศทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน ได้รู้ถึงความสำคัญของตัวเอง เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ต่อมาปี 2508 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ มีความเห็นพ้องต้องกันว่า สมควรที่จะเสนอเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสียใหม่เพื่อความเหมาะสม ด้วยเหตุผลว่า ในเดือนตุลาคม ประเทศไทยยังอยู่ในฤดูฝน มีฝนตกมาก เด็กไม่สะดวกในการมาร่วมงาน อีกทั้งวันจันทร์เป็นวันปฏิบัติงานของผู้ปกครอง จึงไม่สามารถพาเด็กของตนไปร่วมงานได้ ตลอดจนการจราจรก็ติดขัด

และควรกำหนด “วันเด็ก” ไว้ในช่วงต้นปี ซึ่งหมายความว่า ทุกภาคส่วนจึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กเป็นอันดับแรกๆ

คณะรัฐมนตรีในตอนนั้นจึงมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสนอ ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2508 ประกาศเปลี่ยนงานฉลองวันเด็กแห่งชาติจากวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม มาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

 

คําขวัญวันเด็ก เป็นอีกเรื่องที่เด็กๆ รอฟังจากนายกรัฐมนตรี มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2499 ในสมัยที่จอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ว่า “จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม” จากนั้นคำขวัญวันเด็กเว้นว่างไป 2 ปี กลับมาอีกครั้ง ปี 2502 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยปี 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้คำขวัญวันเด็กว่า “เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม”

จากนี้ต้องรอดูว่า นายกฯ จะมอบคำขวัญใดให้กับเด็กๆ ได้ยึดเป็นแบบอย่าง…

แม้ปีนี้จะไม่มีภาพบรรยากาศเฉลิมฉลองวันเด็กให้ครึกครื้นอีกเป็นปีที่ 2 แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ทุกคน

เชื่อว่าผู้ใหญ่ใจดีทุกคนจะเลือกของขวัญที่เป็นประโยชน์สำหรับเด็กๆ แน่นอน

และหวังว่าต่อไป บรรยากาศความสนุกสนานและรอยยิ้มของเด็กๆ จะกลับคืนมาให้เห็นเช่นเดิม…