สิ่งแวดล้อม : ตามดู ‘อีวี’ เวียดนาม / ทวีศักดิ์ บุตรตัน

ทวีศักดิ์ บุตรตัน
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า "วินฟาสต์" ผลิตโดยบริษัทวินกรุ๊ปของเวียดนาม เตรียมบุกตลาดโลก (ภาพ : vinfastauto.us)

สิ่งแวดล้อม

ทวีศักดิ์ บุตรตัน / [email protected]

 

ตามดู ‘อีวี’ เวียดนาม

 

การเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายี่ห้อวินฟาสต์ (Vinfast) ของ “วินกรุ๊ป” แห่งเวียดนาม ในงานลอสแองเจลิส ออโต้โชว์ ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับเสียงประกาศลั่น รถวินฟาสต์จะบุกชิงตลาดรถยนต์สหรัฐและยุโรป นับเป็นดัชนีชี้วัดว่า เวียดนามนั้นพัฒนาประเทศก้าวไกลล้ำหน้าไทยไปมากโข

วินฟาสต์ซึ่งเป็นแบรนด์เวียดนามร้อยเปอร์เซ็นต์ เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2560 ได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนามซึ่งมองเห็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคือสินค้าของโลกอนาคต ไม่เพียงช่วยสร้างงานสร้างรายได้ แต่ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย

จากนั้นวินฟาสต์ร่วมมือกับบริษัทบีเอ็มดับเบิลยูของเยอรมนี สามารถผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน รุ่น Lux นำไปอวดสายตาชาวโลกที่ปารีส มอเตอร์โชว์ เมื่อปี 2561

ได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นรถดาวรุ่ง ก่อนผลิตออกวางขายในตลาดเวียดนาม 2 รุ่น

 

เมื่อต้นปี วินฟาสต์บุกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรืออีวี (Electric Vehicle) และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเต็มตัว

วินฟาสต์ ผลิต VF e34 เป็นอีวีอเนกประสงค์ หรือ SUV รุ่นแรกใช้เครื่องยนต์ 147 แรงม้า ติดตั้งแบตเตอรี่ขุมพลัง 42 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟครั้งเดียววิ่งได้ 300 กิโลเมตร

VF e34 วางตลาดในเวียดนามเมื่อกลางปี ราคาคันละ 25,600 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 ล้านบาท พร้อมกับรับประกันการใช้งาน 10 ปี เวลานี้มียอดขาย 25,000 คัน

เมื่อตลาดไปได้สวย ผู้บริหารวินฟาสต์ขอให้ทีมนักออกแบบรถยนต์อาชีพ พินินฟารินา (Pininfarina) จากอิตาลี ร่วมดีไซน์ต่อในรถรุ่น VF e35 และรุ่น VF e36 เพื่อบุกตลาดรถยนต์ของโลก

พินินฟารินาเป็นสำนักออกแบบรถยนต์ชื่อดัง มีผลงานการออกแบบให้กับรถยนต์ยี่ห้อดังๆ ของโลกมากมาย ตั้งแต่เฟอร์รารี่ มาเซราติ เปอร์โยต์ เฟียต จากัวร์ อัลฟ่า โรมิโอ ฯลฯ

“ไมเคิล โลห์เซลเลอร์” ผู้บริหารวินฟาสต์โกลบอลซึ่งเคยเป็นซีอีโอของบริษัทโอเปิลและโฟล์กสวาเกนแห่งเยอรมนีวางเป้าให้วินฟาสต์เป็นยานยนต์แห่งอนาคต ทั้งด้วยรูปทรงสวยงาม ระบบขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และระบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในรุ่น VF e35 ติดตั้งแบตเตอรี่ชาร์จไฟครั้งเดียววิ่งได้ 492 กิโลเมตร และ VF e36 ชาร์จไฟครั้งเดียววิ่งได้ 675 กิโลเมตร

ทั้งสองรุ่นติดตั้งระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ระบบตรวจสอบการจราจรและผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นระบบที่วินฟาสต์คิดค้นพัฒนาขึ้นมาเอง โดยทีมวินเอไอ (VinAI) และระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ วิ่งเข้าที่จอดรถได้เองเหมือน รถยี่ห้อดังๆ ระดับหรูของโลก

ผู้บริหารวินฟาสต์คุยว่า ระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ สามารถตรวจสอบความผิดปกติระหว่างการขับขี่ในระยะเวลาอันสั้นและแม่นยำอย่างมาก ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบาย

 

มาถึงกลางเดือนตุลาคม วินกรุ๊ปประกาศลงทุนสร้างโรงงานแบตเตอรี่ มีกำลังการผลิต 5 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง บนพื้นที่ 80 ไร่ของจังหวัดห่าติ๋ญ (Ha Tinh) ทางตอนกลางของเวียดนาม ใช้เงินลงทุน 387 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมๆ กับเล็งหาที่ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งที่สองใกล้ๆ กับโรงงานแบตเตอรี่

วินกรุ๊ปดึงพาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ไฟฟ้า ได้แก่ บริษัท สโตร์ดอต บริษัทโกเตี้ยน ไฮเทค และโปรโลเกียม เข้าร่วมวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมอิออนรุ่นใหม่ๆ และแท่นชาร์จประสิทธิภาพสูง

ล่าสุด วินฟาสต์เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ เพื่อระดมทุนให้ได้ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เอาไปสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

ปีหน้า วินฟาสต์จะเปิดโชว์รูมในรัฐแคลิฟอร์เนีย 60 แห่ง โชว์รูมในแคนาดา และยุโรป ยังเตรียมแผนการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถอเนกประสงค์ หรือ SUV ในสหรัฐราวๆ 3 ปีข้างหน้า

ถ้าวินฟาสต์สามารถเจาะตลาดสหรัฐและยุโรปได้สำเร็จ นั่นหมายถึงเวียดนามจะเป็นชาติแรกของกลุ่มอาเซียนที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

 

หันกลับมาดูบ้านเรามั่ง วันนี้นโยบายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รัฐบาลได้แต่พูดพล่ามๆ จะลงมือทำเมื่อไหร่ยังไม่มีแผนการชัดๆ

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนต่อเนื่องรถอีวีครบทั้งห่วงโซ่ ทั้งสนับสนุนด้านภาษีสรรพสามิต สนับสนุนในขั้นการผลิตหรือชิ้นส่วน แบตเตอรี่ มีคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางเข้าไปสนับสนุน

“การสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีทั้งเข้าไปสนับสนุนด้านราคา ขณะนี้ค่อนข้างมีราคาแพง ดังนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีกลไกส่วนใดเข้าไปช่วยให้ราคาลดลงได้ การสนับสนุนคงต้องมาจากเม็ดเงินภาครัฐ อาจเป็นลักษณะการจัดตั้งกองทุน นอกจากนี้ ยังต้องเข้าไปสนับสนุนให้เกิดสถานีประจุไฟฟ้าให้ทั่วถึง” นายอาคมอธิบายรายละเอียด

คำให้สัมภาษณ์ของนายอาคมสะท้อนให้เห็นว่า นโยบายรถอีวียังวนอยู่แค่ในอ่างฝัน จับต้องอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลย

เทียบกับเวียดนามแล้ว ไทยโดนทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น