E-DUANG : ในความคึกคัก ของ การเลือกตั้ง กับยุทธศาสตร์ ก้าวหน้า ก้าวไกล

ไม่ว่าการเลือกตั้ง”ซ่อม”ที่ชุมพรและสงขลาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม ไม่ว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่มีความเชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม

มีความคึกคักเป็นอย่างยิ่งจากพรรคพลังประชารัฐ จากพรรค ประชาธิปัตย์ แม้กระทั่งพรรคกล้าและพรรคไทยภักดี

ถามว่าพรรคก้าวไกลจะส่งผู้สมัครของตนเข้าร่วมชิงชัยหรือไม่

เพราะหากดูคะแนนและความนิยมในพื้นที่กทม.ที่แม้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะนำโด่งทุกสำนักโพล แต่พรรคประชาธิปัตย์ พรรค พลังประชารัฐก็เดินหน้า

เพราะหากดูจากพื้นฐานเดิมในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ไม่ว่าพื้นที่ชุมพร ไม่ว่าพื้นที่สงขลา ล้วนอยู่ในพื้นที่อิทธิพลและความยึดครองของพรรคประชาธิปัตย์

มีแต่พลานุภาพของพรรคพลังประชารัฐเท่านั้นที่เทียบเคียงได้

คำถามก็คือ สภาพการณ์ทางการเมืองเช่นนี้แทบไม่มีเนื้อที่ให้กับพรรคก้าวไกลเลยแม้แต่น้อย

น่าแปลกอย่างยิ่งที่พรรคก้าวไกลยังจะคงเดินหน้าเข้าไป

 

การเดินหน้าทางการเมืองของพรรคก้าวไกลก็เช่นเดียวกับการลุยไปยังสนามเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ว่าอบจ. ไม่ว่าเทศบาล ไม่ว่าอบต.ที่กระทำโดยคณะก้าวหน้า

นั่นก็คือ รู้อยู่เป็นอย่างดีว่ามีโอกาสน้อยมากแต่ก็ยังเดินหน้าเข้าสู่สมรภูมิแห่งการเลือกตั้ง

จึงเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกลยังยืนยันที่จะสู้ในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ไม่แปรเปลี่ยน และคาดหมายได้เลยว่าพรรคก้าวไกลน่าจะส่งคนลงสมัครเลือกตั้งซ๋อมไม่ว่าชุมพร ไม่ว่าสงขลา

ความคาดหมายเช่นนี้ดำเนินไปเพราะเห็นท่วงท่าการเคลื่อนไหวของพรรคก้าวหน้า ประสานกับจังหวะคณะก้าวหน้า

ปฏิบัติการเดิน 2 ขาคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล เป็นดังนี้

 

ไม่ว่าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ไม่ว่าการเลือกตั้งส.ส.คณะก้าวหน้า ประสานกับพรรคก้าวไกลอย่างมีลักษณะในทางยุทธศาสตร์ มิได้คิด ว่าจะกำชัยภายในวันสองวัน

ตรงกันข้าม แต่ละจังหวะคือสะสมชัยชนะ สะสมบทเรียน

เป็นบทเรียนในการสร้างงานมวลชนจากการลงพื้นที่ตั้งแต่ระดับตำบลจนถึงระดับประเทศ

สะท้อนการเล่นการเมือง”มวลชน”มิได้เป็น”พรรคสภา”