จะอยู่จนครบเทอม/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

จะอยู่จนครบเทอม

 

“พี่-น้องจบลงด้วยการพูดจา” ในที่สุด ความรัก ความผูกพันฉันพี่น้องร่วมสายเลือดที่เคยร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมายาวนาน ระหว่าง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับ “พี่ใหญ่-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

เกิดลมพัดหวน กลับมาชื่นมื่นอีกคำรบ หลัง “บริวารพ่นพิษ” ยักษ์ลักมา ลิงพาไป จนเป็นเหตุและปัจจัยให้มิตรภาพชำรุดมีรอยร้าว ทำท่าจะยกระดับสู่จุดแตกหัก

ล่าสุด “พี่ป้อม” กับ “น้องตู่” จูงมือกันไปเจริญศีลภาวนา เยือนถิ่นอีสาน ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ถิ่น “คนเสื้อแดง” ควงคู่ทักทายพี่น้องประชาชนที่จัดตั้งมารอรับ ภาพออกมาหวานเจี๊ยบ

จึงน่าจะเป็นที่ไปที่มาครั้งแรกที่ “พล.อ.ประยุทธ์” กล้าประกาศต่อสาธารณะว่า “จะอยู่ให้ครบเทอม ขอบคุณทุกคน” ปกติพอถามไถ่ถึงอายุราชการ มักจะแทงกั๊ก มากกว่าแทงโต๊ด

มีข่าวระดับคลุกวงในระบุว่า ก่อนออกตะลอนทัวร์ขอพร “พ่อปู่-แม่ย่าคำชะโนด” ค่ำคืนก่อนหน้านี้ “พี่ป้อม-น้องตู่” จับเข่า ถอดเสื้อคุย ปรับจูนโมเมนตัมเข้าหากันเรียบร้อย ลงตัวด้วยความราบรื่น หัสเดิมโปรแกรมเยือนอุดรธานี มีชื่อ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย “น้องรอง” ร่วมขบวนอยู่ก่อน

แต่มีการปรับทัพกะทันหัน เปลี่ยนโผจาก “พี่ป๊อก” เป็น “พี่ป้อม” ขณะที่คนอื่นๆ ในคณะยังดุจเดิม ไม่ว่าจะเป็น “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน “นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน

ทีนี้ ตามไปเกาะประเด็นที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ประกาศอย่างทระนงองอาจ “จะอยู่จนครบเทอม” ส่องตามไทม์ไลน์สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน ที่มาจากการเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 วันครบเทอม 4 ปีบริบูรณ์ คือวันที่ 23 มีนาคม 2566

เท่ากับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยังตีนตุ๊กแก มีอายุราชการเหลืออยู่บนเก้าอี้นายกฯ อีก 1 ปีกับ 3 เดือนโดยประมาณ เมื่อครบกำหนดแล้ว ตามไฟต์บังคับของรัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องเลือกตั้งภายใน 45 วัน

ระหว่างนั้น “บิ๊กตู่” จะเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ หากเลือกตั้งพรรคต้นสังกัดคือพลังประชารัฐ เสนอชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกรัฐมนตรีบัญชีชื่อต่ออีกสมัย เมื่อเลือกตั้งแล้วเสร็จ หากเข้าวินอีกครั้ง จะรากงอกในตำแหน่งผู้นำประเทศไทยไปถึงปี 2570

ศิโรราบหากนับจากจุดสตาร์ต จากวันปฏิวัติ-ยึดอำนาจสำเร็จ เมื่อเดือนพฤษาคม 2557 เท่ากับว่า “พล.อ.ประยุทธ์” สิงสถิตอยู่บนศูนย์อำนาจมาราธอนนานถึง 13 ปี เป็นรองแค่ “จอมพล ป.พิบูลสงคราม” ที่อยู่ในตำแหน่ง 15 ปี

แต่ชนะ “จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์” ที่อยู่แค่ 5 ปี และ “จอมพลถนอม กิตติขจร” 11 ปี และหาก “ลุงตู่” อยู่ครบเทอมถึงปี 2570 แล้ว ยังสามารถป้องกันแชมป์สมัยที่ 3 ได้อีกกระทอก ก็จะทุบสถิติเป็นนายสายท็อปบู๊ตที่สืบทอดอำนาจนานที่สุด 17 ปี

ตอนนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” อายุ 67 ปีเต็ม อยู่ครบเทอมปี 2566 อายุปาเข้า 69 ปีแล้ว บวกอีก 2 สมัย ประเทศไทยจะมีผู้นำประเทศแก่หงำเหงือก เหมือนวัตถุโบราณ 77 ปี ถือว่าเป็นกรรมของไอ้ทิดมันก็แล้วกัน

 

การที่ “พล.อ.ประยุทธ์” กับ “พล.อ.ประวิตร” ตาลปัตรกลับมาโลกสวยจูบปากกันได้อีกคำรบ นำ 2 สิ่งสำคัญยิ่งกลับมาอีกครั้ง “หนึ่งคือ” ความสัมพันธ์ระหว่าง “พปชร.” กับ “รัฐบาล” ที่จะแยกกันบริหารจัดการมีเอกภาพ มั่นคง จึงเป็นเงื่อนไขให้ “บิ๊กตู่” กล้าประกาศว่า จะอยู่ครบเทอม

“สองคือ” พี่ใหญ่แห่งบ้านป่ารอยต่อฯ “ตาสว่าง” ค้นพบสัจธรรมบางอย่างว่าการกลับมาญาติดีกับน้องเลิฟ ที่กอดคอกันมายาวนานตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น น่าจะเส้นทางปลอดโปร่ง อันตรายน้อยกว่าแนวร่วมใหม่ใน พปชร.

มีพรายกระซิบว่า ล่าสุด “พล.อ.ประวิตร” ปรับสภาพสิ่งแวดล้อมในพรรคพลังประชารัฐใหม่หลายเม็ดด้วยกัน เป็นต้นว่า จะมอบภารกิจสำคัญให้เครือข่ายของ “2 ป.” ที่ส่งมาเป็นหน่วยล่วงหน้า ดูลาดเลา มีบทบาทเพิ่มมากขึ้น ทั้ง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” และพร้อมอ้าแขนรับ “บิ๊กฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ที่กำลังจะเดินตามมาในลำดับต่อไป

เหนือสิ่งอื่นใดคือ “กลุ่มสามมิตร” และ “6 รัฐมนตรี” สายตรงที่ “บิ๊กตู่” ส่งเทียบเชิญนิมนต์ขึ้นตึกที่ทำเนียบ เมื่อไม่นานมานี้ ในอนาคต “ลุงป้อม” จะให้เครดิตและความใกล้ชิดมากขึ้น สามารถเข้า-ออกใช้บ้านป่ารอยต่อฯ ทุกเวลา

เมื่อเป็นเยี่ยงนี้ เท่ากับว่า สายตรงเก่าๆ ระดับ “ลูกรัก-ลูกโปรด” ไม่ว่าจะเป็น “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” หรือ “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ดีกรีแห่งความร้อนแรง จะค่อยๆ จืดจางลงโดยอัตโนมัติ

ไม่ถึงกับตัดสายสะดือทิ้งกลางอากาศ เพราะ “พล.อ.ประวิตร” ให้เครดิตกับ “ผู้กองธรรมนัส” บอกเล่าเก้าสิบกับใครต่อใครว่ามีศักยภาพต่อลูกพรรคสูงมาก จะมี ส.ส.เดินตามไปไม่น้อยกว่า 45 ชีวิต พปชร.สะเทือนซางหนักแน่นอน

ขั้นตอนนี้ ขอลดบทบาท ลดระยะห่าง ต่อไปบ้านป่ารอยต่อฯ จะเห็นโฉมเลขาธิการพรรค และเหรัญญิกพรรคเทียวเข้าเทียวออกน้อยกว่าเดิม

ขณะเดียวกัน ผู้สมัครในสนามเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร ก็ขอให้ยุติการจัดแถวกันก่อนในช่วงนี้

รวมถึงการคัดตัวผู้สมัครในต่างจังหวัด ที่ก๊อกสุดท้าย ชุดเก่าไปประกาศจะสร้างผลงานให้เป็นเชิงประจักษ์ ชนะยกจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดน่าน

“ลุงป้อม” ถูกคนใกล้ชิดรุ่นบุกเบิก ปฏิวัติรัฐประหารเงียบ สร้างภูมิคุ้มกันใหม่ ถึงขนาดว่า ให้ยึด “โทรศัพท์ลับ” บางเบอร์ที่เคยใช้สนทนา-แอบดูไลน์ เรียกว่ายอมยกธงทุกอย่าง

ที่ยังไม่ตีหมอบอยู่กระทงเดียว คือ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ขอส่งบัญชีชื่อนายกรัฐมนตรี 2 ชื่อ เบอร์ 1 “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” โดยขอแปะชื่อตัวเองเป็น “นายกฯ สำรอง”

เพื่อกันเหนียวกรณีมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ 8 ปี แล้ว “บิ๊กตู่” โดนปิดกล่อง