อย่าเป็น ‘จระเข้ขวางคลอง’/เมนูข้อมูล นายดาต้า

เมนูข้อมูล

นายดาต้า

 

อย่าเป็น ‘จระเข้ขวางคลอง’

 

การเมืองเคลื่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างเป็นการเป็นงานมากขึ้น หลังมีเสียงเล่าลือว่าพรรคพลังประชารัฐได้ตัวผู้สมัครแล้ว

ไม่เพียงมีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเปิดตัว “ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” เป็นผู้สมัครในเร็ววันนี้ แต่ความเคลื่อนไหวของผู้สมัครทั้งที่สังกัดพรรคการเมือง และอิสระไม่สังกัด เริ่มคึกคักขึ้นในการเคลื่อนไหวผ่านโลกออนไลน์ และสื่อทั่วไป

ผลสำรวจล่าสุดของ “นิด้าโพล” มีมุมที่น่าสนใจหลายมุม

ในคำถาม “หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ท่านจะเลือกใคร”

ที่น่าสนใจอย่างแรกคือ จากการสำรวจเดือนละครั้งนั้น ผล 3 เดือนล่าสุดคือ 3 ตุลาคม-7 พฤศจิกายน และ 5 ธันวาคม ร้อยละของ “ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือก” ใครลดลง จาก 27.92 ในครั้งแรก เหลือ 14.09 ในครั้งที่ 2 มาเหลือร้อยละ 11.98 ในครั้งนี้

นั่นหมายความว่าคนส่วนใหญ่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังคงนำโด่งด้วยร้อยละที่เพิ่มขึ้นคือ จาก 29.74 มาเป็น 33.18 และครั้งนี้เพิ่มเป็น 34.37

เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่มาที่ 2 แม้จะยังห่างจากที่ 1 เป็นเท่าตัว แต่ยังเพิ่มขึ้นทุกครั้ง คือจากร้อยละ 9.33 เป็นร้อยละ 16.59 สู่ร้อยละ 17.07 ในเดือนนี้

ดร.สุชัชวีร์ก็เช่นกัน จากร้อยละ 3.29 เป็น 4.09 และ 4.86 ในครั้งนี้

มี น.ส.รสนา โตสิตระกูล และสกลธี ภัททิยกุล ที่ครั้งนี้คนเลือกลดลง

 

สําหรับผู้สมัครจากพรรคการเมืองนั้น พรรคก้าวไกลหรือคณะก้าวหน้า จากร้อยละ 2.73 มาเป็นร้อยละ 6.74 และร้อยละ 6.37 ในครั้งนี้

พรรคเพื่อไทย จากร้อยละ 2.30 เป็นร้อยละ 5.99 และร้อยละ 6.15 ในเดือนนี้

พรรคประชาธิปัตย์ จากร้อยละ 1.97 เป็นร้อยละ 3.03 และยังคงร้อยละ 3.03 ในเดือนล่าสุด

พรรคพลังประชารัฐ จากร้อยละ 0.53 เป็นร้อยละ 2.24 และล่าสุดร้อยละ 2.66

พรรคกล้า ร้อยละ 0.61 เป็นร้อยละ 1.59 แล้วลงไปเหลือร้อยละ 1.37 ในเดือนนี้

 

แม้จะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้ว แต่ปี่กลองการโหมโรงยังไม่กระหึ่มอะไรมากนัก ทว่าหากดูจากผลโพลนี้ ดูจะเป็นเรื่องที่รู้กันแล้วว่า ใครจะเข้าวิน

ดร.ชัชชาติที่คะแนนทิ้งห่างดูแข่งแบบไม่เห็นฝุ่น และยังแสดงตัวตนให้เป็นที่รับรู้ถึงความคิดต่างๆ ในการบริหารจัดการกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง ด้วยมุมมองที่แหลมคมของความฉลาด ที่สร้างความหวังว่าจะได้ผู้บริหารที่ดีตลอดมา

แต่อย่างว่า การเมืองก็คือการเมือง โดยเฉพาะการเมืองไทย ผลการเลือกตั้งคือสิ่งที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่ตลอด

ที่บอกกันว่าแน่นอนนั้น แปรเปลี่ยนไปได้เสมอ

ดังนั้น เมื่อปี่กลองโหมโรงจริงจัง นำสู่เวทีการต่อสู้ จะมีเงื่อนไข และปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง

ดังนั้น ผู้มีอำนาจคงไม่ต้องกังวลเสียจนไม่กล้าที่จะปล่อยให้เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน กทม.ต้องรอเก้อ เพราะคิดว่าจะครองชัยชนะไม่ได้

ควรจะมีหวังกับความแปรเปลี่ยนมากกว่าถูลู่ถูกังกับความไม่กล้าอย่างไม่รู้จบสิ้น