สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/คำโต-คำเล็ก

สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

——————————

คำโต-คำเล็ก

———————————

ควันหลง การเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มีประเด็นอยากพูดถึง 2 ประเด็น

ประเด็นแรก คือ “คำโต” ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ระบุว่า สมาชิกพรรค พรรคพลังประชารัฐได้นายก อบต.และสมาชิกสภา อบต. 4,500 ที่นั่ง

ประเด็นที่สอง คือ “คำเล็ก” ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกลุ่มก้าวหน้า ที่บอกว่า ส่งอบต. ลงทั้งหมด 196 แห่งทั่วประเทศ ชนะเลือกตั้ง 38 แห่ง คิดเป็น 19.4% ของจำนวนที่ส่งทั้งหมด

ประเด็นแรก ไม่ได้อยากขยายผล อย่างที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเป็นหัวเชื้อว่า การที่ พล.อ.ประวิตร บอกได้ อบต. 4,500 ที่นั่ง แม้จะบอกว่าเป็นเรื่อง สมาชิกพรรค มิใช่เรื่องพรรค

แต่นายเทพไท ชี้ว่าอาจสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย ที่พรรคการเมืองไปยุ่งเกี่ยว หรือสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่กฎหมายเลือกตั้งห้ามไว้

ซึ่งน่าเย้ายวน ให้”นักร้อง”อย่าง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายสนธิญา สวัสดี พิสูจน์หาความจริง

แต่โดยส่วนตัว ไม่ค่อย”อะไร”ด้วยนัก เพราะ อยากให้มีการแก้ไขกฎหมายในประเด็นนี้ คือไม่ควรห้ามพรรคการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องการเลือกตั้งในทุกระดับ

ทั้งนี้เพื่อให้พรรคการเมืองได้คิดและนำเสนอนโยบาย ตลอดจนเสนอตัวเพื่อขับเคลื่อนการเมืองเป็นขบวนเดียวกัน ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปถึงระดับชาติ

ไม่ควรมีเส้นแบ่งจนทำให้ขาดความต่อเนื่อง

ซึ่งนั่นเป็นเรื่องระยะยาว ที่ต้องถกแถลงกันต่อไปว่าควรแก้หรือไม่แก้

แต่เฉพาะหน้านี้ สิ่งที่สนใจ ก็คือจำนวนที่นั่ง นายกและสมาชิกอบต.4,500 คนที่พล.อ.ประวิตร ระบุว่าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นั่นแหละ

เพราะหากข้อมูลนี้ “เป็นจริง” ต้องถือเป็นการรุกเงียบเข้าไปใน”ระดับท้องถิ่น”ของพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างน่าประหลาดใจ

และน่าสนใจว่า รุกคืบไปในกลไกใด ผ่านกระทรวงมหาดไทย ที่ป.ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผูกขาดการบริหารกระทรวงนี้มายาวนานเกือบ 8 ปีหรือไม่

และการรุกคืบเงียบๆนี้ มองในแง่มุมการเมือง จะมีผลต่อการเลือกตั้งระดับชาติอย่างไร

ถ้ามี พรรคพลังประชารัฐย่อมเป็น พรรคการเมืองคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับพรรคการเมืองอื่น ที่ได้”ซุ่ม”ปูฐานการเมืองเอาไว้อย่างเงียบเชียบ

แต่ก็น่าเสียดายอยู่ไม่น้อยหากการรุกคืบนี้ หวังผลเฉพาะ “การเมือง”

หากมองในแง่พัฒนาการปกครองระดับท้องถิ่น นายกและสมาชิกอบต.4,500 คน ที่ถือเป็นจำนวนมากระดับ”แลนด์สไลด์ น่าจะต่อยอดเป็นเครือข่ายที่สามารถผลักดันนโยบายหรือแนวทางที่พรรคพลังประชารัฐต้องการได้อย่างมีพลังแน่นอน

ซึ่งตรงนี้ ทำให้ นึกไปถึง ประเด็นที่สอง

คือ “คำเล็ก” ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ แม้จะได้นายกและสมาชิกอบต.เพียง 38 แห่ง

แต่ รูปแบบ ค่อยๆเดิน หรือ” กินทีละคำ” ของนายธนาธร และคณะก้าวหน้า ดูจะมีทิศทางในการบริหารท้องถิ่น น่าสนใจ

คือ จะผนึก งบและการบริหารงานเทศบาล และอบต. ที่ดูแลอยู่เข้าเป็นขบวนเดียวกัน

ตามข้อมูลของนายธนาธร ถ้ารวมทุกระดับการปกครองส่วนท้องถิ่น คณะก้าวหน้าจะมีงบประมาณทั้งหมด 2,990,693,653 บาท และมีจำนวนประชากรรวม 409,883 คน

สามารถนโยบายที่ตอบสนองสภาพปัญหาในพื้นที่ได้

หากสมาชิกพลังประชารัฐ จำนวน 4,500 คน สามารถทำได้ หรือทำได้ดีกว่า

เชื่อว่าจะมีพลังเหนือกว่าคณะก้าวหน้าอย่างแน่นอน

แต่ก็น่าเสียดาย ที่กรณี 4,500 คนที่ว่าเป็นความคลุมเครือ

เป็นข้อมูลที่อยู่ๆก็ลอยออกมา จากปากของพล.อ.ประวิตร

และยิ่งจะน่าเสียดายยิ่งกว่า

หากนี่เป็นเพียงการบลัฟทางการเมืองอันว่างเปล่าไร้ความหมาย เท่านั้น

———————–