การศึกษา/ผ่าเกณฑ์ประเมิน ‘บิ๊ก สกสค.’ เกมเขย่าเก้าอี้ ‘ธนพร สมศรี’??

ธนพร สมศรี

การศึกษา

ผ่าเกณฑ์ประเมิน ‘บิ๊ก สกสค.’

เกมเขย่าเก้าอี้ ‘ธนพร สมศรี’??

 

การประเมินผลงานของ “เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)” เกิดอาการสะดุดครั้งใหญ่ หลังนายธนพร สมศรี เลขาธิการ สกสค.ยื่นหนังสือ “คัดค้าน” เกณฑ์การประเมินเลขาธิการ สกสค.ถึง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค.

โดยให้เหตุผลว่า เกณฑ์การประเมิน “ไม่เป็นธรรม” ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีตัวชี้วัดที่ผิดปกติ จนเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านการประเมิน จึงตัดสินใจที่จะไม่เข้ารับการประเมิน จนกว่าจะได้จะมีการพิจารณาเกณฑ์ประเมินใหม่ที่เป็นธรรม และเป็นมาตรฐาน!!

ทั้งนี้ การประเมินผลงานของเลขาธิการ สกสค.จะต้องประเมินทุก 6 เดือน ซึ่งเดิมครบรอบการประเมินในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่เกิดปัญหาขึ้น เมื่อคณะกรรมการประเมินผลงานของเลขาธิการ สกสค.ที่มีนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ เป็นประธาน ได้ตบเท้าลาออกทั้งหมด

จนทำให้การประเมินผลงานของเลขาธิการ สกสค.ต้องสะดุดตามไปด้วย!!

 

ที่ผ่านมา หลายคนตั้งข้อสงสัยการแต่งตั้งนายธนพรเป็นเลขาธิการ สกสค.อย่างมาก เพราะในช่วงที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ. หลายฝ่ายมองว่าการที่นายธนพร ซึ่งเป็นคนสนิท และอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถูกแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ สกสค.นั้น

กระบวนการสรรหามีความถูกต้อง และเป็นไปตามกฎระเบียบหรือไม่??

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “เก้าอี้” ของนายณัฏฐพลสั่นสะเทือน จนเกือบจะต้อง “หลุด” จากเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เพราะถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว แม้จะรอดพ้นจากด่านการอภิปรายมาได้ในที่สุด แต่หลังจากนั้น นายณัฏฐพลต้องมา “ตกเก้าอี้” รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เพราะถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี 16 เดือน จนทำให้ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรีตามมาตรา 160(7) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย…

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่านายณัฏฐพลได้ทิ้งปัญหาอีนุงตุงนังไว้ให้ “ครูเหน่ง” รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ที่รับไม้ต่อ เข้ามาจัดการมากมาย

และปัญหานี้ดูท่าจะกลับมาคุกรุ่นอีกครั้ง!!

ตรีนุช เทียนทอง

 

ตั้งแต่ที่ “ครูเหน่ง” เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้ไม่นาน ได้จัดการตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานฯ ใหม่ยกชุด โดยมีนายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร อดีตผู้ตรวจราชการ ศธ.มาเป็นประธาน จนทำให้หลายฝ่ายมองว่า “ครูเหน่ง” ตั้งธงที่จะ “สอย” เลขาธิการ สกสค.หรือไม่??

น.ส.ตรีนุชระบุถึงการตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานฯ ชุดใหม่ ว่า คณะกรรมการประเมินผลงานฯ ชุดใหม่ จะทำการประเมินผลงานของนายธนพรว่าได้ขับเคลื่อนตามแผนงานที่กำหนดไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากผลการประเมินไม่ผ่าน ก็ต้องยกเลิกสัญญาจ้างตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ต่อไป

โดยยืนยันหนักแน่นว่า การประเมินผลงานจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย…

เรื่องนี้อาจจะเป็นปมหนึ่งที่ทำให้ “นายธนพร” มองว่าคณะกรรรมการประเมินผลงานฯ ชุดนี้ อาจจะ “ไม่เป็นกลาง” และตั้งธงให้ตัวเอง “พ้น” จากตำแหน่งเลขาธิการ สกสค.??

ทำให้นายธนพรเกิดความรู้สึกไม่มั่นคง จนต้องออกมาป่าวประกาศว่า ถ้าผลประเมินออกมาแล้ว “ไม่ผ่าน” จนถูก “เลิกจ้าง” ถ้าเหตุผลของคณะกรรมการประเมินเป็นที่ยอมรับได้ และเป็นธรรม ก็พร้อมน้อมรับในการประเมินนั้น แต่ถ้าว่าผลการประเมินไม่เป็นธรรม จำเป็นต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรมโดยฟ้องศาลปกครอง และให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมทีมกฎหมายเอาไว้แล้ว

พร้อมกับ “ดักคอ” คณะกรรมการประเมินผลงานฯ ว่าเชื่อมั่นในคณะกรรมการประเมินผลงานฯ ว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะ และมีคุณธรรม คงไม่เอาอนาคตมาเสี่ยงเพราะเรื่องนี้แน่นอน!!

โดยในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บอร์ด สกสค.เห็นชอบกรอบการประเมินผลการปฏิบัติงานของเลขาธิการ สกสค.ตามที่นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร ประธานคณะกรรมการประเมินผลงานฯ เสนอ ซึ่งหลายคนก็คาดว่าการประเมินครั้งนี้จะผ่านไปด้วยดี…

 

เพียงไม่กี่วันก่อนถึงกำหนดส่งผลงานของเลขาธิการ สกสค.ให้คณะกรรมการประเมินผลงานฯ นายธนพรกลับยื่นหนังสือคัดค้านเกณฑ์การประเมินเลขาธิการ สกสค.ถึงรัฐมนตรีว่าการ ศธ.โดยให้เหตุผลว่าเกณฑ์การประเมินไม่เป็นธรรม มีตัวชี้วัดที่ผิดปกติหลายตัว

ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า การที่นายธนพรออกมายื่นคัดค้านเกณฑ์ประเมินผลงานฯ ในเวลานี้ เพราะมั่นใจว่าจะ “ไม่ผ่าน” การประเมินแน่นอน จนต้องทำการลากเกม เพื่อยืดระยะเวลาให้ตนเอง เพื่อไปหา “ทางออก” หรือหา “ทางรอด” ให้ตัวเองใช่หรือไม่??

ประเด็นนี้ นายธนพรออกมายืนยันว่า ไม่หนักใจที่จะได้รับการประเมิน แต่ขอให้เกณฑ์ประเมินนั้น มีความเป็นธรรม อีกทั้งขณะนี้ได้เตรียมรายงานผลงานของเลขาธิการ สกสค.เสนอให้คณะกรรมการประเมินผลงานฯ แล้ว

“ผมมั่นใจในผลงานที่ผ่านมา ว่าได้ทำงานตามแผนงาน และยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ที่ผ่านมาได้ปฏิรูป สกสค.หลายอย่าง เช่น ดำเนินงานจัดการปัญหาทุจริตที่ค้างคา การฟื้นฟูหนี้สินขององค์การค้าของ สกสค. นอกจากนี้ ยังมีผลงานที่ผ่านมาที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน คือทำให้ สกสค.ได้รับ 92.54 คะแนน จากผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ 2564 ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ได้ 90.42 คะแนน สะท้อนถึงการมีคุณธรรมและความโปร่งใสในการบริหารงานเพิ่มขึ้น” นายธนพรกล่าว

ขณะที่ น.ส.ตรีนุชออกมาย้ำว่าเกณฑ์การประเมินดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.แล้ว โดยเกณฑ์ที่ใช้ประเมินนั้น คณะกรรมการประเมินผลงานเลขาธิการ สกสค.กำหนดเกณฑ์ประเมินไว้ว่า การประเมินครั้งนี้ จะเป็นการประเมินทั่วไป และจะประเมินจากผลงานที่ผ่านมาเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เสมา 1 ได้เตรียมนำเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุม สกสค.พิจารณา ว่ามีข้อติดขัดอะไรหรือไม่ และให้ดำเนินการตามกรอบการประเมินที่วางไว้!!

 

ทําเอาหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า สาเหตุใดที่ทำให้ “ครูเหน่ง” และ “นายธนพร” ซึ่งมาจากพรรค พปชร.เหมือนกัน จะต้องออกมาตอบโต้ สร้างสงครามระหว่างกันอยู่ตลอดเวลา

หรือเพราะ “ครูเหน่ง” ไม่ไว้ใจการทำงานของนายธนพร ซึ่งเป็นคนสนิทของอดีตรัฐมนตรีว่าการ ศธ. และ “ครูเหน่ง” อาจต้องการอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหารงาน จึงต้องหาทางปลด “คนที่ไม่ใช่” ออกไป

ต้องจับตาดูต่อไปว่า งานนี้จะลงเอยแบบไหน จะลากยาวจนต้องรื้อเกณฑ์ประเมินใหม่ทั้งหมด หรือสามารถตัดจบ เดินหน้าประเมินผลงานของเลขาธิการ สกสค.ต่อได้ทันที…

ทั้งนี้ อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทำงานโดยยึดผลประโยชน์ของครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นหลัก อย่ามัวแต่เล่นสงครามประสาท จนไม่สามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้!!