ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / สันติ จิรพรพนิต [email protected]

 

เจาะรถเด่น ‘มอเตอร์ เอ็กซ์โป’

ค่าย ‘จีน-ญี่ปุ่น’ เปิดศึกแย่งตลาด

เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021” โดยจัดยาวไปถึงวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ที่เมืองทองธานี

แน่นอนว่านี่คือเป้าหมายหรือจุดที่ต้องไปเช็กอินอย่างยิ่งยวด เนื่องจากตลอดปีที่ผ่านมางานคาร์โชว์น้อยใหญ่เจอพิษโควิด ต้องเลื่อนกันไปหลายงาน

บวกกับเมื่อใกล้จัดงาน บรรดาค่ายรถทยอยอวดโฉมรถใหม่ทั้งไมเนอร์เชนจ์ และโมเดลเชนจ์ เรียกน้ำย่อยกันรายสัปดาห์

ไปดูกันคร่าวๆ ว่าในงานมีบูธของค่ายไหน มีรถอะไรที่น่าแวะไปเยี่ยมๆ มองๆ บ้าง

แต่ขอเน้นเฉพาะค่ายจากฝั่งญี่ปุ่น และจีน เพราะปีนี้แลกหมัดกันมันหยดจริงๆ

 

 

ที่เชื่อว่าน่าจะฮอตฮิตไม่พ้น “ฮอนด้า” เพราะมีรถใหม่กิ๊กๆ อย่าง “เอชอาร์-วี” เครื่องยนต์ฟูลไฮบริด e:HEV ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย

ตัวถังปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED

รุ่นแต่งพิเศษ RSž เปิดตัวในไทยครั้งแรกของโลก กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke

ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว

หลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof)

ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ

ภายในหรูหราแฝงอารมณ์สปอร์ต มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว

เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต ด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch ลำโพง 8 ตำแหน่ง

ส่วนรุ่นอื่นๆ มาครบไลน์ทั้งแอคคอร์ด รุ่นปรับโฉม หรือฮอนด้า ซีวิค รวมถึงแจ๊ซ สีใหม่ ไฉไลกว่าเดิม

 

“โตโยต้า” นำทัพโดยเก๋ง “คัมรี” ที่ปรับโฉมไปไม่นาน เน้นความอลังการด้วยเครื่องยนต์ 2 บล็อกทั้งเบนซิน 2.5 ลิตร และ 2.5 ลิตรไฮบริด ส่วนของเดิมที่มีรุ่น 2.0 ลิตร นั้นยุติการผลิตไปแล้ว

แม้จะเป็นแบบไมเนอร์เชนจ์ แต่เปลี่ยนไปชนิดจำเค้าเดิมแทบไม่ได้

กระจังหน้าแบบใหม่ พร้อมกับคิ้วโครเมียมไฟหน้า LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ และไฟ Follow-Me-Home ไฟเดย์ไทม์ ไฟตัดหมอกหน้า และไฟท้าย เป็น LED เช่นกัน

ภายในตกแต่งลายไม้แบบใหม่ เบาะหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์แบบนุ่มพิเศษ ติดตั้งมูนรูฟมาด้วย

หน้าจอแสดงผลข้อมูลขับขี่ MID ขนาด 7 นิ้ว ส่วนรุ่นท็อป มีจอ Head Up Display แสดงที่กระจกหน้าด้วย

หน้าจอแบบ Floating type ขนาด 9 นิ้ว แบบใหม่ เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto

ระบบปรับอากาศแบบ 3 โซน แยกซ้าย-ขวา และผู้โดยสารตอนหลัง

ความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด

รุ่นอื่นที่น่าสนใจ เช่น “เอทีฟ” (ATIV) 4 ประตู และ “ยาริส” (YARIS) 5 ประตู รุ่นแต่งพิเศษ และเสริมทัพออปชั่นใหม่

ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport รวมถึงฟอร์จูนเนอร์ GR Sport

 

ขณะที่ “มาสด้า” ตัวเด่นยกให้ “ซีเอ็กซ์-5” (CX-5) ดีไซน์อาจปรับไม่เยอะ รวมถึงตัดบางออปชั่นออกไป แต่แลกมาด้วยราคาที่ต่ำลง โดยราคาลดลงสูงสุดอยู่ที่ 90,000 บาท

ตัวเลือก 4 รุ่นย่อย กับ 3 ขุมพลัง ทั้งเบนซิน 2.0 ลิตร ดีเซล 2.2 ลิตร และรุ่นท็อปเบนซิน 2.5 ลิตรเทอร์โบ

รุ่น 2.0 Sž ตัวเริ่มต้น ไฟหน้าโปรเจกเตอร์แบบ LED เปิด-ปิด และปรับระดับสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Signature

ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า มาตรวัดความเร็วแบบอะนาล็อก (ปรับจากจอ MID) พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ หน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว (ของเดิม 7 นิ้ว)

ระบบควบคุมความเร็วคงที่ ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

รุ่นท็อป 2.5T SP เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 เทอร์โบ กำลังสูงถึง 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบเทอร์โบ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD

ภายในเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาลเข้ม วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ Real Wood และสีเงินซาตินโครม เพิ่มความหรูหราด้วยวัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้าแบบสีดำเปียโน และสีเงินซาตินโครม

ในงานยังพบกับ “ซีเอ็กซ์-8” ไซซ์บิ๊กเบิ้ม รวมถึงเอสยูวีในเครือทั้งซีเอ็กซ์ 3, ซีเอ็กซ์ 30

 

ส่วนค่ายจากจีน ที่มาแรงสุดๆ ยกให้ “เกรท วอลล์ มอเตอร์” (GWM) เพราะแจ้งเกิดจาก “ฮาวาล H6” เอสยูวีขนาดกลางได้อย่างยิ่งใหญ่ กวาดแชมป์ยอดขายมาแล้ว

แต่ที่เป็นไฮไลต์ไม่พ้น “ฮาวาล โจไลออน” (JOLION) เอสยูวี กลุ่มบี-เซ็กเมนต์ เพิ่งอวดโฉมและจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในมอเตอร์ เอ็กซ์โป

ใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON

กระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Star Matris สีดำ-เทา ไฟหน้า Full LED พร้อม Daytime Running Light มีระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อก และไฟ Follow-Me-Home

ภายในใกล้เคียงกับ “ฮาวาล H6” เน้นความหรูหรา กว้างขวาง ตกแต่งด้วยสีแบบทูโทนตัดด้วยลายเส้นสีโรสโกลด์

พวงมาลัยทรงสปอร์ตระบบมัลติฟังก์ชั่น เรือนไมล์ Multi Information Display ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว พร้อม Head Up Display แสดงผลที่กระจกหน้าด้วย

หน้าจอกลางแบบ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง

เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ระบบไฮบริดทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แบบ DHT

อีก 2 รุ่นที่เหลือน่าไปสัมผัสตัวเป็นๆ ทั้ง Haval H6 และ ORA Good Cat

 

ค่ายจากแดนมังกรที่เข้ามาก่อนและประสบความสำเร็จไม่น้อย คือ “เอ็มจี” รุ่นเด่นยกให้ “เอ็มจี 5” เก๋งสไตล์สปอร์ตคูเป้ ที่เข้ามาสั่นสะเทือนตลาดอีโคคาร์เมืองไทยอย่างมาก

กระจังหน้าแบบ 3 มิติ Digital Burning Grillež ตัวถังเพรียวยาวตามสไตล์รถยนต์สปอร์ตคูเป้ซีดาน

ไฟหน้าแบบ LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ Leopard Claw และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ตกแต่งภายในสไตล์สปอร์ต แผงคอนโซล 3D Diamond Design ลวดลายสปอร์ตพรีเมียม หน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว

คอนโซลกลางแบบ DRIVER-FOCUS COCKPIT หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด

รุ่นอื่นๆ เช่น MG EP PLUS รถครอบครัวพลังไฟฟ้า เป็นต้น

สำหรับค่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง รวมทั้งกลุ่มรถยุโรป ไปเยี่ยมชมในงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ได้เลยครับ