ทิ้งบอมบ์ ปล่อยข่าว/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

ทิ้งบอมบ์ ปล่อยข่าว

 

เจอ “โรคเลื่อน” อีกแล้ว งานกระชับมิตร-ปาร์ตี้การเมือง “พรรคร่วมรัฐบาล” หัสเดิม “พลังประชารัฐ” ร่อนการ์ดเชิญพบปะสังสรรค์ ชนแก้ว-เมาธ์กันที่สโมรสรสนามกอล์ฟราชพฤกษ์ ถนนวิภาวดีรังสิต แดดร่มลมตกวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564

เวลาต่อมา “เจ้าภาพ” ขอขยับโปรแกรม อ้างว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรติดสมัยประชุม มีกฎหมายสลักสำคัญเข้าพิจารณาหลายฉบับ เผลอไม่ได้ อาจจะโดน “ฝ่ายค้าน” เล่นเกมดัดหลัง พังเอาได้ง่ายๆ เลยนัดหมายกันใหม่ เป็๋นช่วงต้นเดือนธันวาคม

แต่ล่าสุด “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “เคาะ” ซ้ำ ผ่านทาง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเจ้าภาพ

เลื่อนการจัดงานเลี้ยงกระชับมิตรพรรคร่วมออกไปแบบ “ไม่มีกำนด” อ้างว่าเพราะสาเหตุขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 มีเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ชื่อ “โอไมครอน” กำลังมุ่งกระแทกกลางระลอกที่ 4 ทำให้เกิดความเสี่ยง โดนข้อครหาได้ ในนามรัฐบาล ขอทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนในการรวมตัวของคนหมู่มาก จึงเลื่อนงานเลี้ยงออกไปแบบไม่มีกำหนด

ความจริง หากพิจารณาบทบาท “จับความเคลื่อนไหว” ของพรรคร่วม เบอร์ใหญ่ๆ ทั้ง “ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์” ไม่มีเหตุและปัจจัยอะไรน่า “จิตตก” ต้องกระชับมิตร สองเพื่อนเกลออยู่ในช่วงเวลาทองคำ ทั้งเวิร์กแอนด์เฟิร์มกันจุงเบย

ที่ต้องเคลียร์ ถอดเสื้อคุย น่าจะเป็น “พลังประชารัฐ” ที่หัวก่าย ท้ายเกย ขี้เถ้า เขม่า ฟุ้งอยู่มากกว่า ก่อนหน้าที่งานเลี้ยงจะมีขึ้นในรอบแรก ดังที่ทราบ หลังจาก “2 ป.-ประยุทธ์+ป.ป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา”

จูงมือกันเข้าไปเกาหลัง “ป.ป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ในถ้ำบ้านป่ารอยต่อฯ “พี่ใหญ่” สารเอนโดรฟิน ปรอทตีกลับมาซอฟต์ๆ ชิลๆ รอยร้าวลึก ส่ออาการดีขึ้น ถอยกันคนละก้าว

“สายพิณต้องขึงด้วยความพอเหมาะ ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป ย่อมมีเสียงไพเราะ น่าฟัง”

“บิ๊กป้อม” การันตีให้ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคคุมเกมในการประชุมรัฐสภา เพื่อให้กฎหมายทุกฉบับที่เสนอโดยรัฐบาล ผ่านฉลุยทุกเม็ด แบบไม่ให้มีปัญหา

“น้องตู่” ก็ทอดบันไดไมตรี ในไม่ช้าไม่นานอาจจะคืนตำแหน่งให้เลขาธิการ และเหรัญญิกพรรค ส่งสัญญาณว่าหลังเสร็จศึก พ.ร.บ.-พ.ร.ก. มีความเป็นได้สูงที่ “ร.อ.ธรรมนัส” กับ “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” จะเป็นเชนคัมแบ๊ก กลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป

จึงเป็นที่ไปที่มาของปาร์ตี้พรรคร่วมวันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งไม่เกี่ยวดองข้องแวะอะไรกับ “ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์” เลย เนื้อแท้เป็นปัญหาภายในของ “พลังประชารัฐ” ล้วนๆ

 

พี่น้องจบลงด้วยการพูดจา ทุกอย่างคลี่คลายด้วยกาลเวลา แต่พรรค พปชร. องค์ประกอบไม่ได้มีแค่ 3 เท่านั้น มีหมาป่า กา แร้ง แมลงสาบ หงส์ มังกร ครบวงโคจร ความสงบจึงยากเหมือนหาทางขึ้นสวรรค์

กองเชียร์ของ “3 ลุง” ที่ยืนอยู่ข้างหลัง เสียประโยชน์ ไม่รู้ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู ต่างฝ่ายต่างปั่นกระแส เป่าหู ตอกไข่ใส่สี เรื่องก็เลยไม่จบ

ล่าสุด “กลุ่มสามมิตร” ที่มีตัวยืนประกอบด้วย “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม “อนุชา นาคาศัย” รมว.ประจำสำนักนายกฯ “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน

ขุมกำลัง 6 รัฐมนตรีที่ได้รับเกียรติจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไปพูดคุยลับเฉพาะส่วนตัว ซึ่งในเวลาต่อมา มีข่าวลือว่า ทั้งหมดจะเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของ “บิ๊กตู่” ที่จะแยกตัวไปตั้งพรรคใหม่

ออกจากร่มเงา “พปชร.” ผละจาก “พี่ใหญ่” กอดคอสามัคคีกันแค่ “ป.ประยุทธ์” กับ “ป.ป๊อก” มือจัดการเกรดเอบวกอยู่หลายคน ทั้ง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค-ฉัตรชัย พรหมเลิศ”

โดยจะมี “นายพลเอกคนดัง” ตามมาสมทบในไม่กี่วันข้างหน้า

เหนือสิ่งอื่นใดเลยคาดว่า “ถุงเงิน” ที่เป็น “ท่อน้ำเลี้ยง” เบอร์ดังๆ ของประเทศ จะย้ายตามไปอุปภัมภ์พรรคใหม่ของ “2 ป.” กันยกกุรุส ซึ่งตามข่าวระบุว่า “กลุ่มสามมิตร” หรือ “5 ว.” จะเป็นฐานกำลังหลัก

จู่ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “กลุ่มสามมิตร” โดนระเบิดทิ้งบอมบ์ เมื่อมีมืดแอบปล่อยข่าวกับสื่อบางฉบับว่า “สมศักดิ์ เทพสุทิน” หัวหน้าใหญ่ ได้รับการติดต่อกับ “ญาติเสี่ยโทนี่ วู้ดซัม” เจรจาต้าอ้วยกันระดับหนึ่ง ตกล่องปล่องชิ้นกันในเบื้องต้น จะอพยพพลพรรคกลับรังเก่า “ค่ายเพื่อไทย”

“กลุ่มวิรัช รัตนเศรษฐ” ที่ขณะนี้เจ้าตัวอยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็โดนหางเลขว่า จะย้ายไปซบพรรคภูมิใจไทย

ไฟการเมืองใน พปชร.จึงลุกโพลงอีกครั้ง “พี่น้องสามมิตร” ทั้ง “สมศักดิ์-สุริยะ-อนุชา-สุชาติ” ดาหน้าออกมาโต้ข่าวกันจ้าละหวั่น

“สมศักดิ์” ควันออกหู ระบุว่ารู้แล้วว่าคนปล่อยข่าวเป็นใคร ในเรื่องของการเมืองไม่ควรมาพูดกันในตอนนี้ ควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศเดินไปได้จะดึกว่า

ขณะที่ “ส.สุริยะ” ก็ออกมาปฏิเสธเสียงเข้มเสียงเขียวเช่นเดียวกัน “ไม่ทราบว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ แต่ยืนยันโดยส่วนตัวไม่คิดจะกลับไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย และไม่ทราบว่าคนปล่อยข่าวประสงค์อะไร และไม่ทราบว่าเหตุใดกลุ่มสามมิตรตกเป็นเป้าโจมตีบ่อยครั้ง”

“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” จะทราบหรือแกล้งไม่ทราบก็ตาม “กลุ่มสามมิตร” ใน พปชร.หลัง “กลุ่มสี่กุมาร” ถูกสังหารตายหมู่ “กลุ่ม 4 ช.” อยากโตเร็ว กลายเป็นเด็กเอ๋ยเด็กน้อย ตกที่นั่งผึ้งแตกรัง

“กลุ่มสามมิตร” ถือว่าเขี้ยวลากดิน รู้ว่าในทุกการต่อสู้ ต้องรู้จักจังหวะ และรอเวลา สุขุม นุ่มลึก อดทน ประสบการณ์โชกโชน จึงผงาดดุจพยัคฆ์เสียบปีก แกร่งที่สุดในเวลานี้

แถม “พล.อ.ประยุทธ์” ดึงไปเป็นพวก วางตัวให้เป็นฐานที่มั่นใหญ่ในอนาคต ไม่ว่าจะอยู่ใน พปชร. หรือไปตั้งพรรคใหม่ เมื่อโดดเด่นขึ้นมา ก็เลยโดนเป็นเรื่องธรรมดา

ย้ำอีกครั้งว่า “พรรคร่วมรัฐบาล” ไม่ต้องปรองดอง-สมานฉันท์ “พลังประชารัฐ” ต้องกระชับมิตรกันเองก่อนดีกว่า