วิรัตน์ แสงทองคำ/https://viratts.com/

ดีล TRUE-DTAC (1)

 

ดีลครั้งสำคัญ จะก่อให้เกิดการพลิกโฉมธุรกิจสื่อสารไทยอีกครั้ง

เชื่อกันว่าดีลใหญ่ที่มีความซับซ้อน จะต้องใช้เวลาพอสมควร เพื่อสู่บทสรุป และผ่านกระบวนการทางธุรกิจกว่าจะบรรลุแผนการอีกหลายเดือน

จุดปะทุมาจากถ้อยแถลงของ Telenor Group (19 พฤศจิกายน 2564) ว่า กำลังเจรจากับซีพี เพื่อแสวงหาแนวทาง มีความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการระหว่าง DTAC กับ TRUE (“…explore a potential merger between dtac and True.”)

เบื้องต้น เมื่อพิจารณาจากแนวทางและเค้าโครงทางธุรกิจที่ปรากฏของแต่ละฝ่าย พอจะให้ “จับทาง” ได้ ว่าไปแล้ว เหนือความคาดหมายของบางคนไปบ้าง

 

Telenor Group กลุ่มธุรกิจสื่อสารระดับโลก ก่อตั้งมากว่าศตวรรษตั้งแต่ยุคโทรเลข ถือหุ้นส่วนใหญ่โดยรัฐบาลนอร์เวย์ มี “เครือข่ายธุรกิจโฟกัสภาคพื้นสแกนดิเนเวีย และเอเชีย (บังกลาเทศ ปากีสถาน มาเลเซีย พม่า และไทย)” ข้อความเน้นนี้ เกิดขึ้นในยุคผู้นำผู้บริหารคนปัจจุบัน

Sigve Brekke (ซิกเว่ เบรกเก้) คือ President and Chief Executive Officer (CEO) ของ Telenor Group ปัจจุบัน

เขาได้รับการแต่งตั้งเมื่อกลางปี 2558 (17 สิงหาคม) “Sigve มีประสบการณ์การทำงานที่ดีเด่นใน Telenor Asia และเป็นหนึ่งในกลุ่มของผู้บริหารของ Telenor Group ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 โดยได้นำความสำเร็จมาสู่ภูมิภาคอาเซียน ประกอบกับประสบการณ์มากมายในนานาชาติ และความเป็นผู้นำองค์กรที่แข็งแกร่ง ทำให้เขาสร้างผลงานที่ล้ำค่าและความเติบโตให้กับองค์กรอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาในเส้นทางการทำงาน… Sigve ยังได้สร้างรากฐานความสำเร็จให้ Telenor Group ให้กลายเป็นองค์กรต่างชาติที่เป็นผู้นำในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภายใต้การนำของ Sigve ทำให้ Telenor Group มีลูกค้ามากกว่า 100 ล้านรายในเอเชีย ภูมิภาคที่มีความสำคัญ และยังเป็นภูมิภาคที่สร้างมูลค่ามากกว่า 40% ให้ Telenor Group และอยู่ในตำแหน่งที่จะเติบโต และเป็นคลื่นลูกใหม่ที่พร้อมในการให้บริการอินเตอร์เน็ตไปสู่ทุกคน” คำกล่าวของประธานกรรมการ Telenor Group

สื่อหลักๆ ของไทยเวลานั้น สนใจถ่ายทอดสาระข้างต้นกันพอสมควร (โดยอ้างอิงมาจากข่าว “Sigve Brekke new Telenor Group CEO” ปรากฏใน www.telenor.com) มีบางมิติควรขยายความ Sigve Brekke ผู้มีประสบการณ์ธุรกิจในเอเชียยาวนานถึง 16 ปี อาจกล่าวได้ว่าเริ่มต้นอย่างโดดเด่น ที่ DTAC ประเทศไทย (2545-2551) ก่อนจะมาเป็น Head of Asia (2551-2558) ถือเป็นหนึ่งคณะผู้บริหาร Telenor Group

ในช่วงคาบเกี่ยวเวลานั้น Telenor Group บุกเบิกธุรกิจสื่อสารไร้สายในเอเชียอย่างจริงจัง ตั้งแต่บังกลาเทศ (2540) มาเลเซีย (2542) ไทย (2543) ปากีสถาน (2547) และเมียนมา (2557)

เมื่อ Sigve Brekke ก้าวเป็นผู้นำได้ไม่นาน ได้ปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจครั้งสำคัญ ปี 2561 Telenor Group ได้ขายธุรกิจในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ (บัลแกเรีย ฮังการี มอนเตเนโกร และเซอร์เบีย) เพื่อโฟกัสธุรกิจเฉพาะในสแกนดิเนเวียและเอเชีย เมื่อเป็นเช่นนั้นรายได้ในธุรกิจเอเชียจึงมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ข้อมูลทางการเงินล่าสุด (TELENOR GROUP Third quarter 2021) ระบุว่า ธุรกิจเอเชียมีสัดส่วนถึง 48%

ว่าเฉพาะเจาะจงสำหรับ DTAC ถือมีความสำคัญเป็นพิเศษในธุรกิจเอเชีย ด้วยมีความสามารถทำรายได้มากเป็นอันดับสองเป็นรองแค่กิจการในนอร์เวย์เท่านั้น (อ้างจาก TELENOR GROUP Annual Report 2020)

 

ตั้งแต่ต้นปีมานี้ เรื่องราว Telenor Group และธุรกิจในเอเชีย ตื่นเต้นขึ้นอย่างมาก

เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้อง และต่อเนื่องมาจากการรัฐประหารในประเทศเมียนมา (เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2564) ทั้งนี้ Telenor Group ให้ความสำคัญรายงานเรื่องราวธุรกิจ (ที่ว่า “ไม่ปกติและไม่มีความแน่นอน”) ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของคณะทหาร ไว้อย่างสม่ำเสมอในหน้าแรก website ของ Telenor Group (หัวข้อล่าสุด-Directives from authorities in Myanmar – February-November 2021)

ต้นเดือนเมษายน 2564 มีดีลใหม่ที่น่าสนใจ Telenor Group แถลงถึงแผนการ (คืบหน้าไปมาก) ควบรวมกิจการในประเทศมาเลเซีย ระหว่าง Digi ผู้ให้บริการ Mobile phone อันดับ 3 ของมาเลเซีย (มีผู้ใช้ประมาณ 10 ล้านราย) ซึ่ง Telenor Group ถือหุ้น 49% กับคู่แข่งอีกราย Celcom (เครือข่ายของ Axiata Group Berhad ผู้ให้บริการ Mobile phone มีผู้ใช้มากว่า 150 ล้านรายใน 9 ประเทศ) เป็นผู้ให้บริการในมาเลเซียมีผู้ใช้มากกว่า Digi โดยมีประมาณ 14 ล้านราย อีกความหมาย Telenor Group จะต้องลงทุนเพิ่มเพื่อบรรลุแผนการข้างต้น

เป็นโมเดลซึ่งสามารถเทียบเคียงกรณี TRUE-DTAC ได้อย่างน่าสนใจ

 

จากนั้นไม่ถึง 3 เดือน (21 มิถุนายน 2564) ดีล Telenor-Axiata บรรลุขั้นสำคัญ ลงนามในข้อตกลงควบรวมกิจการ Digi-Celcom โดยทั้งสองถือหุ้นเท่าๆ กัน คาดว่าจะมีกระบวนการใช้เวลาพอสมควรภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565

อย่างไรก็ตามช่วงต้นๆ ที่ข่าวปะทุ ผู้คนในสังคมธุรกิจไทยยังไม่ปักใจเชื่อว่า ดีล TRUE-DTAC จะลงเอยแบบนั้น

แทบจะทันที ดีลในมาเลเซียบรรลุ Telenor Group แถลง (2 กรกฎาคม 2564) อ้างถึงการประเมินสถานการณ์ใหม่ในเมียนมา ที่มีมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม (หมายเหตุ-ระหว่างดีลในมาเลเซียดำเนินไป) จึงเริ่มกระบวนการเปิดทางเลือกต่างๆ สำหรับกิจการที่นั่น และจากนั้นเพียงไม่กี่วัน (8 กรกฎาคม 2564) Telenor Group ได้ประกาศดีลสำคัญอีกครั้ง

ขายกิจการ Telenor Myanmar ออกไป

 

ในที่สุด ดีล TRUE-DTAC ในประเทศไทย ก็เป็นไป โมเดลเดียวกันกับ Digi-Celcom ในประเทศมาเลเซีย

ตามถ้อยแถลงของทั้ง TRUE-DTAC ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยภาษาทางเทคนิค ขณะสะท้อนว่า การเจรจาคืบหน้าไปมากกว่าที่คาดคิด จนบรรลุข้อตกลงเบื้องต้น ว่าด้วยโครงสร้างการถือหุ้นในกิจการใหม่ (หากสนใจรายละเอียด โปรดอ่านหัวข้อ “แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ในการควบบริษัทระหว่างบริษัท และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) และรับทราบความประสงค์ในการทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทําคําเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer)” (22 พฤศจิกายน 2564)

หากจะให้ชัดขึ้นอีก คงต้องอ่านถ้อยแถลงของ Telenor Group ในวันเดียวกัน (Oslo/Bangkok, 22 November 2021) หัวข้อ “C.P. Group and Telenor Group support True and dtac in exploring the creation of a new telecom-tech company” โดยเน้นว่าบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการทั้งสองฝ่าย จะถือหุ้นเท่าๆ กัน (“…new company will be a merger of equals”) ทั้งนี้ คาดว่าจะบรรลุถึงขั้นลงนามเป็นข้อตกลงภายในไตรมาสแรกของปี 2565

ระหว่างนี้ คงมีเรื่องราวที่น่าสนใจให้ติดตามอีกพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาโครงสร้างธุรกิจอันซับซ้อนฝ่ายซีพีผ่าน TRUE (ทรู คอร์ปอเรชั่น) ซึ่งถือเป็นกิจการหลักของเครือซีพี มีบทบาทสำคัญอย่างหนึ่งในฐานะกลไกของสิ่งที่เรียกว่า Convergence ทั้งมี China Mobile ถือหุ้นในสัดส่วนพอสมควรอยู่ได้

China Mobile ผู้ให้บริการอันดับหนึ่งของโลก มีผู้ใช้บริการถึง 946 ล้านราย ขณะ Telenor Group อยู่ในอันดับที่ 14 มีผู้ใช้บริการ 188 ล้านราย และที่น่าสนใจอีกราย Axiata Group Berhad แห่งมาเลเซีย อันดับ 16 มีผู้ใช้บริการ 157 ล้านราย (อ้างจาก GSMA Intelligence, 3 August 2021 ปรากฏใน presentation “DNB Nordic TMT and Consumer Conference 2021” โดย Sigve Brekke)

มุมมองหลากหลายมิติ ว่าด้วยดีลใหญ่ ยังมีอีก