ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/อาวดี้ ‘Q3 40 TFSI quattro’ เอสยูวีเล็ก ‘เร่งดุ-ช่วงล่างนุ่ม’

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

อาวดี้ ‘Q3 40 TFSI quattro’

เอสยูวีเล็ก ‘เร่งดุ-ช่วงล่างนุ่ม’

 

ไม่ใช่แค่ตลาดรถเอสยูวีจากค่ายจีนและญี่ปุ่นเท่านั้น ที่ถือว่าแข่งขันกันอย่างดุเดือด

แต่ในกลุ่มรถยุโรปก็เปิดศึกใส่กันมันส์หยดไม่น้อย

โดยเฉพาะรุ่นเล็ก เปิดตัวออกมาชนกันสนุกสนาน

ค่าย “อาวดี้” เป็นหนึ่งใน “จตุรเทพ” ที่ออกมาวาดลวดลายด้วยเช่นกันในรุ่น “Q3”

ส่วนที่เหลืออีก 3 ค่ายประกอบด้วยเมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เอเอ็มจี ไดนามิกส์, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์-1 เอสไดร์ฟ 20d เอ็มสปอร์ต และวอลโว่ เอ็กซ์ซี-40

สำหรับอาวดี้ Q3 มี 3 รุ่นย่อย คือ RS Q3 Sportback quattro, Q3 Sportback 40 TFSI quattro S line Black Edition และ Q3 40 TFSI quattro S line Black Edition

รุ่น RS Q3 และ Q3 Sportback ราคากระโดดไปพอสมควร ทำให้ Q3 40 TFSI quattro S line Black Edition เป็นผู้ท้าชิงในตลาดนี้ที่เหมาะสมกว่า

กระทั่งฤกษ์งามยามดี ผมได้รับรถ Q3 40 TFSI quattro S line Black Edition มาทดสอบ

 

มาดูรูปร่างหน้าตาออกแบบได้โฉบเฉี่ยว พร้อมเอกลักษณ์กระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้าเรียวยาวแบบ Full LED มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ

ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED

ไฟท้ายแบบ LED พร้อมฟังก์ชั่นสัญญาณไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Dynamic

ไม่พลาดกับชุดแต่ง S line รอบคัน และตกแต่งเพิ่มด้วยสีดำตามชื่อรุ่น “Black Edition” เพียงแต่รุ่นที่ผมได้มาทดสอบเป็นสีดำพอดี เลยไม่ค่อยเห็นความต่างของ “Black Edition” มากนัก

แต่ถ้าเป็นสีอื่น ภายนอกจะเห็นชัด เช่น ราวหลังคา หรือกระจกมองข้างที่ใช้สีดำ เป็นต้น

ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า รวมทั้งมีระบบ Hands-Free Tailgate

ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลายใหม่สีทูโทนลาย 5-twin-arm พร้อมยางขนาด 255/45 หน้ากว้าง/แก้มต่ำให้ความสปอร์ตมากขึ้น

 

ห้องโดยสารตกแต่งใหม่ สีดำสปอร์ตแซมด้วยสีเงินในบางจุด รวมถึงลายคาร์บอน แบบ Matte Brushed Dark Aluminium

เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตพร้อมสัญลักษณ์ S line คู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าและมีระบบปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support

พวงมาลัยท้ายตัดพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น มีแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย Paddle Shift

มาตรวัดฟูลดิจิตอล Virtual cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว

จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบ MMI Radio plus ขนาด 8.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay รองรับการใช้งานระบบนำทางด้วย Google Maps พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง

คอนโซลกลางปรับองศาเอียงนิดเข้าหาผู้ขับขี่ทำให้แค่ชำเลืองมองก็เห็นชัดเจน

ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ แยกอิสระ ซ้าย-ขวา Dual Zone และเจาะช่องหลังที่เท้าแขนคนขับเป็นช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Lighting

เบาะนั่งด้านหลังแยกพับ 40 : 20 : 40 ปรับเอนได้ เลื่อนหน้า-ถอยหลังได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขา หรือเพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง

มีเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมฟังก์ชั่น Audi Hold Assist

แม้ดูจากภายนอกเหมือนคันไม่ใหญ่นัก แต่เมื่อเข้าไปนั่งจริงๆ แล้วถือว่าโอ่โถงพอสมควร

 

ปุ่มสตาร์ต/สต็อปอยู่บริเวณคอนโซลกลางใต้ปุ่มปรับแอร์ ค่อนข้างแปลกตาหน่อยๆ เพราะปกติจะอยู่ใกล้กับพวงมาลัยมากกว่า

เสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างเงียบพอสมควร รุ่นนี้เป็นแบบเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ

ส่งกำลังด้วยเกียร์ S tronic 7 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro

กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,900-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,940 รอบต่อนาที

ทั้งแรงม้า/แรงบิด มาในช่วงที่กว้างพอสมควร

มีให้เลือก 6 โหมดการขับขี่ แต่การทดสอบนี้ผมเน้นใช้แบบ “AUTO” และ “DYNAMIC” มากกว่า

ส่วนที่แตกต่างจากคู่แข่งในเซ็กเมนต์ แน่นอนว่าคือโหมด “OFF ROAD” เพราะเป็นรุ่นเดียวที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

สำหรับโหมด “AUTO” จะเหมาะกับคนที่ไม่ถนัดเปลี่ยนโหมดไปมา หรือคนที่นิยมขับแบบชิล ชิล แต่หากต้องการอัตราเร่งก็มาในทันที

เพราะรถจะคำนวณน้ำหนักเท้าเพื่อให้สัมพันธ์กับอัตราเร่ง

ขณะที่ “DYNAMIC” เน้นดุดันเป็นหลัก อัตราเร่งจะกระชับและมาเร็วกว่าโหมดอื่นๆ

น้ำหนักพวงมาลัยถือว่าค่อนข้างเบาเป็นแบบไฟฟ้า สาวๆ คงชอบ

ส่วนผมเองไม่ได้ซีเรียสมากนักเรื่องน้ำหนักพวงมาลัย ส่วนตัวชอบขับรถพวงมาลัยเบาๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ในย่านความเร็วสูงกระชับมือสักหน่อยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

 

อัตราเร่งถือว่าเป็นอีกจุดเด่นที่ชอบ แม้ต้องเพิ่มน้ำหนักเท้าเข้าไปมากหน่อยก็ตาม จากสเป๊กอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถือว่าเอาเรื่องอยู่

การตอบสนองของเกียร์ไหลลื่นดีมาก แม้จะมีระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แต่ด้วยความชอบส่วนตัวผมถนัดเปลี่ยนที่คันเกียร์มากกว่า

รถคันนี้มีระบบเกียร์แมนนวลมาให้ด้วย เพียงผลักไปด้านซ้ายขยับขึ้น-ลง เพื่อเพิ่ม-ลดเกียร์

ช่วงล่างนุ่มนวลมากๆ แบบยอดนิยมด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต คอยล์สปริง/เหล็กกันโคลง ด้านหลังมัลติลิงก์

ด้วยกำลังเครื่องยนต์+ช่วงล่าง และน้ำหนักพวงมาลัย การขับขี่ในทุกย่านความเร็วไปแบบสบายๆ ต่อให้ขับทางไกลก็ไม่เหนื่อยมาก

การเร่งแซงเรียกว่าฉีกคันหน้าได้ชนิดไม่ต้องลุ้น บวกกับขนาดตัวถังและท้ายที่ตัดการกะยะยะต่างๆ ทำได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น

การเก็บเสียงถือว่าทำได้ดีประมาณหนึ่ง

ส่วนตัวช่วยต่างๆ มากันครบตามสเป๊กรถยุโรป อาทิ ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน, เซ็นเซอร์หน้า-หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก EBA, ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ถุงลมนิรภัย-ม่านนิรภัย ฯลฯ

แน่นอนด้วยเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้มั่นใจมากขึ้นยามขับขี่กลางฝน เพราะในช่วงทดสอบมีฝนตกลงมาให้ลองของพอดี ได้ความมั่นใจเมื่อต้องใช้ความเร็วมากกว่ารุ่นขับเคลื่อน 2 ล้ออยู่ประมาณหนึ่ง

แต่บอกแบบนี้ใช่ว่ารถขับเคลื่อน 2 ล้อจะมีปัญหาเวลาขับกลางฝนนะครับ ไปได้และปลอดภัยเหมือนกัน แต่แค่รู้สึกกว่าถ้าเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะให้ความเชื่อมั่นมากกว่าหน่อยๆ

Audi Q3 40 TFSI quattro S line Black Edition ถือเป็นเอสยูวีขนาดเล็กที่ขับสนุก ขับสบาย จะลุยบ้างก็ทำได้อยู่ เรียกว่าครบเครื่องก็ได้

สนนราคาจัดไปที่ 2,750,000 บาท