ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 26 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | ก่อสร้างและที่ดิน |
เผยแพร่ |
ก่อสร้างและที่ดิน/นาย ต.
เตรียมรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสูง
ประกาศเปิดประเทศแบบมีเงื่อนไขมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมา ก็น่ายินดีไม่น้อยเมื่อมองไปรอบๆ ตัว เห็นผู้คนเดินทางไปทำงานกันคับคั่งท้องถนนใกล้เคียงกับก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามร้านรวง ตามห้างสรรพสินค้าก็มีคนเดินหนาตา ทำให้อุ่นใจมั่นใจขึ้นได้มาก
คืนวันลอยกระทง แม้จะมีการตรวจคัดกรองกันอย่างเข้มงวด แต่ผู้คนก็ยังออกจากบ้านไปลอยกระทงตามสถานที่จัดงานกันจำนวนมาก
ตามท้องถนนในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร จะเห็นรถยนต์ซื้อใหม่ป้ายแดงมากขึ้นกว่าปกติ มีตั้งแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลระดับราคาไม่แพง ไปจนถึงรถยนต์หรูราคาแพงหลายล้านบาท
แม้อาจเป็นกำลังซื้อที่ถูก “อั้น” ไว้ตั้งแต่ก่อนการ “ล็อกดาวน์” หรือจะเป็นการตัดสินใจซื้อภายหลังจากการแพร่ระบาดเบาบางลงก็ตาม แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า บรรยากาศตลาดหรืออารมณ์ซื้อของผู้บริโภคสำหรับสินค้าขนาดใหญ่ราคาแพงยังอยู่ในระดับที่ดี ไม่ได้แย่หรือเลวร้ายมากอย่างที่คาดไว้
ซึ่งเชื่อมโยงมาถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาแพงเช่นกัน อารมณ์ซื้อของผู้บริโภคจึงไม่น่าแตกต่างกัน
แม้จะมีผู้บริโภคคนรุ่นใหม่บางกลุ่มที่มีทัศนคติซื้อรถยนต์ส่วนตัวก่อนซื้อบ้านก็ตาม แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนใหญ่หรือคนรุ่นกลางรุ่นใหญ่ก็ยังให้น้ำหนักกับการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นลำดับแรก
บรรยากาศหรืออารมณ์ซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ราคาแพงแม้จะดีขึ้น แต่ปัญหาอุปสรรคย่อมมีเสมอ โดยเฉพาะเมื่อรอบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศไทยเราช้ากว่าการฟื้นตัวของประเทศเศรษฐกิจใหญ่ๆ ในโลก
ทำให้สินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งถ้าโฟกัสของอสังหาริมทรัพย์ ก็พวกวัสดุก่อสร้างต่างๆ ที่ต้องนำเข้า มีราคาสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขึ้นนำหน้าไปแล้ว เพิ่มต้นทุนการขนส่งไปแล้ว
ผลกระทบย่อมเกิดขึ้นกับฝั่งต้นทุนค่าก่อสร้างที่ต้องสูงกว่าที่ประมาณการไว้เดิม
อีกเรื่องหนึ่งที่มีการพูดถึง มีการคาดการณ์กันมาก คือเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว เงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เชื่อกันว่าจากนี้ไปทั้งในสหรัฐอเมริกาและตลาดโลกจะเป็นทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
ขณะเดียวกันสหรัฐก็มีแผนจะลดการออก QE หรือลดการเพิ่มปริมาณเงินเข้ามาในตลาดกลางปีนี้และยุติเลยในปีหน้า
ซึ่งเป็นการเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินแบบตรงกันข้ามในรอบนับสิบปี ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็จะแข็งขึ้น
ผลกระทบที่จะตามมาสินค้านำเข้าก็จะแพงขึ้น จะมีผลต่อต้นทุนค่าก่อสร้าง ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นก็มีผลต่อต้นทุนการเงินของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นธุรกิจที่ใช้เงินทุนสูง
ขณะเดียวกันก็มีผลต่อกำลังซื้อด้วยเช่นกันเพราะคนซื้อบ้านคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ก็ต้องใช้เงินกู้ ถ้าอัตราดอกเบี้ยสูง งวดเงินผ่อนชำระต่อเดือนก็จะสูงขึ้นไปด้วย
อย่างไรก็ดี เรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะสูงขึ้นยังไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดวันนี้วันพรุ่ง แต่เป็นเรื่องของปีหน้า 2565 และปี 2566 เป็นต้นไป ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเผชิญ แต่เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมขยับปรับตัวล่วงหน้าตั้งแต่เวลานี้