อัฟกานิสถาน : การกลับมาของฏอลิบาน (17)/มุมมุสลิม จรัญ มะลูลีม

จรัญ มะลูลีม

มุมมุสลิม

จรัญ มะลูลีม

 

อัฟกานิสถาน

: การกลับมาของฏอลิบาน (17)

 

สิทธิสตรี

แม้ว่าแถลงการณ์จะไม่ได้กล่าวถึงสตรีเป็นพิเศษ รัฐบาลใหม่ก็ยังอนุญาตให้นักเรียนสตรีเข้าชั้นเรียนที่มหาวิทยาลัยในกรุงคาบูลและเมืองอื่นๆ ได้ แต่ก็มีกฎเกณฑ์ว่าในชั้นเรียนชาย-หญิงต้องแยกห้องเรียนและสตรีต้องคลุมศีรษะ

อย่างไรก็ตาม สังคมอัฟกานิสถานในวันนี้ยังมีโอกาสได้เห็นสตรีผู้มีชื่อเสียงออกมาเรียกร้องสิทธิของพวกเธอในกรุงคาบูลซึ่งเป็นภาพที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในสมัยที่ฏอลิบานขึ้นมาสู่อำนาจในครั้งแรก (1996-2001)

ผู้หญิงบางคนได้ออกมาประท้วงหน้าสถานทูตปากีสถานโดยกล่าวหาว่ารัฐบาลปากีสถานได้ช่วยทหารฏอลิบานเพื่อให้ได้ชัยชนะเหนือฝ่ายที่ต่อต้านฏอลิบานในหุบเขาปัญชีร

ต้นเดือนกันยายน กองกำลังรักษาความมั่นคงของฏอลิบานได้ใช้กลยุทธ์ในการหยุดยั้งผู้ประท้วงและนักหนังสือพิมพ์ที่มารวมตัวกันอยู่ให้แตกกระจายออกไป UN ได้ประณามปฏิบัติการดังกล่าวซึ่งมีผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน

การประท้วงในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนตรงกับการเดินทางมาเยือนอัฟกานิสถานของฟาอีซ หะมิด (Faiz Hameed) หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองของปากีสถาน

สำหรับผู้เฝ้าติดตามสถานการณ์การเยือนของหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองจะพบว่าตรงกับช่วงเวลาที่ได้มีการฟอร์มรัฐบาลในกรุงคาบูลพอดิบพอดี

ปากีสถานให้เหตุผลในการส่งฝ่ายข่าวกรองมายังกรุงคาบูลว่าการเยือนของรัฐมนตรีย่อมเป็นไปไม่ได้หากไม่มีรัฐมนตรีของอีกฝ่ายเข้าร่วม

ฝ่ายความมั่นคงของปากีสถานมีความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีข้ามเขตแดนโดยกองกำลังปากีสถานฏอลิบานในอัฟกานิสถานที่มีมากขึ้น

การห้ามการชุมนุม

 

ฏอลิบานได้ห้ามมิให้มีการชุมนุมใดๆ ที่มิได้ขออนุญาตอย่างเป็นทางการเสียก่อน

หลังจากฏอลิบานหลุดจากอำนาจในปี 2001 นับจากสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายนเป็นต้นไปพบว่ากรุงคาบูลมีความสงบสืบต่อกันมา ทั้งนี้ คนอัฟกันส่วนใหญ่ก็สื่อสารกันด้วยภาษาดารี (Dari) ซึ่งได้กลายมาเป็นภาษาทางการอีกครั้ง

ฏอลิบานได้ทำให้ภาษาพาชโต (Pashto) ซึ่งเป็นภาษาของคนพาชตุนที่เป็นคนส่วนใหญ่เป็นภาษาราชการ ในเวลานี้มีความเคลื่อนไหวอีกครั้งที่จะให้ภาษาพาชโตเป็นภาษาทางราชการ ซึ่งกลุ่มก้อนของชนกลุ่มน้อยอาจจะรู้สึกอึดอัดอยู่บ้างไม่ว่าจะเป็นชาวตาจิก (Tajiks) อุซเบ็ก (Uzbeks) และหะซารา (Hazaras)

ในแถลงการณ์หลังจากมีการประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรี กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐได้แสดงออกให้เห็นว่าคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลฏอลิบานล้วนมาจากฏอลิบานและผู้มีประวัติซึ่งเต็มไปด้วยปัญหาเป็นด้านหลัก ในเวลาเดียวกันก็มีการพูดถึงคณะรัฐมนตรีที่ไม่มีสตรีร่วมอยู่ด้วย

ในเวลาเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถานจะถูกตัดสินโดยการกระทำของฏอลิบานเอง

ในสัปดาห์ที่สามของเดือนกันยายนฝ่ายบริหารของ Biden ได้แสดงความชื่นชมแนวทางที่เป็น “มืออาชีพ” ที่ฏอลิบานได้ช่วยส่งพลเมืองสหรัฐและอัฟกานิสถานออกจากอัฟกานิสถานพร้อมเอกสารการเดินทาง

 

ดูเหมือนว่าในเวลานี้สหรัฐไม่ต้องการจะมาคอยจับผิดฏอลิบานแต่อย่างใด สหรัฐไม่ได้ขานรับการเรียกร้องของผู้นำตาจิกจากหุบเขาปัญชีรที่ขอให้สหรัฐเข้ามาช่วยเหลือทางทหารและการเงินเพื่อเข้ามาหนุนกลุ่มก้อนที่ต่อต้านฏอลิบานอีกครั้งในอัฟกานิสถาน

อะห์มั มัสอูด (Ahmad Massod) บุตรของอะห์มัด ชาฮ์ มัสอูด (Ahmad Shah Masood) ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มต่อต้านแห่งหุบเขาปัญชีร ยังคงมีความหวังว่าสหรัฐจะให้ความช่วยเหลือพวกเขาที่บัดนี้ต้องมาพ่ายแพ้กับฏอลิบานไปเรียบร้อยแล้วหลังจากคาบูลล่มลงได้ไม่นาน

อะห์มัด มัสอูด ต้องการให้สหรัฐหยุดให้การยอมรับฏอลิบานหรือมีความชอบธรรมใดๆ และไม่ต้องการให้สหรัฐยอมรับผู้นำของฏอลิบาน

ฝ่ายบริหารของ Biden กล่าวว่า สหรัฐไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นในอัฟกานิสถานได้ แต่สหรัฐให้ความสำคัญกับการคุกคามที่มาจาก IS-K และอัลกออิดะฮ์มากกว่า

ในการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ปัจจุบันฝ่ายกลาโหมของสหรัฐมีความคิดว่าอัลกออิดะฮ์ในอัฟกานิสถานอาจก่อการคุกคามขึ้นในบ้านของตนเองภายในสองปี

การสังหารพลเรือนชาวอัฟกันด้วยโดรนของสหรัฐก่อนที่สหรัฐจะเสร็จสิ้นการถอนทหารออกจากประเทศก่อให้เกิดการถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก

ฝ่ายกลาโหมของสหรัฐอ้างว่าการถล่มจากโดรนของสหรัฐเป็นไปเพื่อขัดขวางการโจมตีที่มาจาก IS-K ต่อสนามบินที่กรุงคาบูลเมื่อเครื่องบินขนส่งของสหรัฐกำลังนำทหารและพลเรือนออกจากประเทศอัฟกานิสถานไป

ดังได้กล่าวมาแล้วว่าเวลานี้เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าผู้ที่ถูกถล่มด้วยโดรนของสหรัฐนั้นเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ เขาเป็นพนักงานของหน่วยงาน NGO ของสหรัฐมายาวนาน เป็นผู้ขับรถที่ตกเป็นเหยื่อ เขาถูกสังหารพร้อมไปกับญาติใกล้ชิดของเขาอีกคน โดยอีกห้าคนที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับโดรนของสหรัฐเป็นเด็กชาวอัฟกันที่น่าสงสาร

เมื่อวันที่ 17 กันยายน ฝ่ายกลาโหมของสหรัฐยอมรับความผิดพลาดสำหรับการโจมตีในครั้งนี้ โดยนายพล Frank Mc Kenzie ผู้บัญชาการกลางของสหรัฐได้ออกมาขอโทษความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

 

โดยทันทีเพื่อนบ้านใกล้ชิดของอัฟกานิสถานได้ออกมาวิพากษ์ส่วนประกอบของคณะรัฐมนตรีของอัฟกานิสถาน

อิหร่านได้ออกมาเรียกร้องให้มีการจัดตั้งรัฐบาลที่มี “ความครอบคลุม” อีกครั้ง รัฐมนตรีต่างประเทศของอัฟกานิสถาน ตาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน จีน และอุซเบกิสถาน ได้ประชุมร่วมกันทางออนไลน์หลังจากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของอัฟกานิสถานได้รับการประกาศรายชื่อออกมา

รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน อมีร ฮุสเซน อับดุลลอฮ์เอียน (Amir Abdollahian) กล่าวว่า “ประสบการณ์ได้แสดงให้พวกเราเห็นว่ารัฐบาลที่ไม่มีความครอบคลุมไม่ช่วยให้เกิดสันติภาพเสถียรภาพและความก้าวหน้าในอัฟกานิสถาน”

ดังนั้น ความคาดหวังจากรัฐมนตรีต่างประเทศก็คือการประกาศถึงความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งรัฐบาลที่มีความครอบคลุมพร้อมไปกับเสียงที่เป็นเอกภาพ

อิหร่านซึ่งมีชายแดน 900 กิโลเมตรร่วมกับอัฟกานิสถานและเป็นประเทศที่มีผู้ลี้ภัยชาวอัฟกัน 4 ล้านคนอาศัยอยู่ได้วิพากษ์การโจมตีของฝ่ายฏอลิบานที่มีต่อหุบเขาปัญชีร

ที่ผ่านมาชาวหะซาราอัฟกันจะขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนสจากอิหร่านมาโดยตลอด ทั้งความช่วยเหลือทางการเมืองและทางกำลังใจ

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ญาวาด ซารีฟ (Javad Zarif) กล่าวผ่านทวิตเตอร์ของเขาว่าฏอลิบานได้สร้างความผิดพลาดอันยุ่งยากขึ้นมา

โดยประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่า “ไม่มีใครไม่ว่าจะมาจากภายในประเทศหรือภายนอกประเทศที่จะสามารถปกครองผู้คนที่ทระนงของอัฟกานิสถานได้ด้วยกำลัง”