2503 สงครามลับ สงครามลาว (56)/บทความพิเศษ พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

บทความพิเศษ

พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

 

2503 สงครามลับ

สงครามลาว (56)

การถอนตัวภายใต้การกดดัน

การถอนตัวจากการรบ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ “การถอนตัวโดยไม่มีการกดดันจากข้าศึก” และ “การถอนตัวภายใต้การกดดันจากข้าศึก”

กรณีของกองพัน BI-15 ครั้งนี้เป็นประการหลัง

“การถอนตัวโดยมีการกดดันจากข้าศึก” ที่เคยได้รับการศึกษาจากห้องเรียนกำลังถูกทดสอบด้วยปฏิบัติการจริง-เจ็บจริง ตายจริง

ผู้ออกข้อสอบ : ทหารเวียดนามเหนือ

ผู้เข้าสอบ : ทหารไทย สอบได้-รอด…สอบตก-ตาย

ภารกิจของ “หัวหน้าใจ” นายทหารระดับผู้บังคับหมวดวัย 20 เศษ ที่มีกำลังเหลืออยู่เพียงไม่ถึง 20 คน มิได้เพียงแต่นำลูกน้องในบังคับบัญชาทุกคนแหวกวงล้อมของข้าศึกให้สำเร็จเพื่อจะได้กลับบ้านเท่านั้น

แต่ในฐานะ “หน่วยนำ” เขายังตัองรับผิดชอบต่อความอยู่รอดของกำลังทั้งกองพันกับกองร้อยทหารปืนใหญ่อีกด้วย รวมแล้วเกือบ 1,000 ชีวิต…

ภารกิจสุดท้ายของเพื่อน จปร.14

 

“ก่อนแยกย้ายกันกลับหน่วยใครหน่วยมันเพื่อไปเตรียมการในการถอนตัวคืนนี้ ผม ไอ้เหมียว ไอ้ย้ง และไอ้มิตร ถือโอกาสพูดคุยประสานงานกันก่อนแยกย้ายไป ผมบอกกับไอ้เหมียวว่า ‘เฮ้ย ไอ้เหมียว มึงกับกูต้องร่วมวัดดวงกันอีกครั้งนะเว้ยที่ต้องเป็นหน่วยนำในการถอนตัวครั้งนี้ กูบอกมึงก่อนนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้าในคืนนี้ กูลุยลูกเดียวโว้ย’

ไอ้เหมียวบอก ‘เฮ้ย ไอ้จักษ์ มึงไม่ต้องห่วงโว้ย กูกับลูกน้องที่เหลือช่วยมึงเต็มที่อยู่แล้ว จะช่วยมึงลุยแน่นอน ถึงไหนถึงกันโว้ย ไม่มีถอย’

ผมกับไอ้เหมียวหันมามองไอ้ย้งกับไอ้มิตรเพื่อนปืนใหญ่ที่ยังยังเหลืออยู่ 2 คนแล้วถามมันว่า ‘แล้วมึงสองคนจะว่ายังไง’

ไอ้ย้งบอก ‘กูสองคนไม่ว่ายังไงหรอก ขอให้มึงสองคนนำพวกกูไปให้ถึงภูล่องมาดก็แล้วกันโว้ย ขอแค่นั้น’ ผมกับไอ้เหมียวหัวเราะ เพราะตอนนี้รู้แล้วว่าทั้งไอ้ย้งและไอ้มิตรเหลือแต่ตัวกันทั้งคู่แล้วเมื่อต้องทิ้งปืนใหญ่ของมันเอาไว้ที่บ้านนาและทำลายทิ้งหมด

ผมก็เลยสัพยอกเพื่อนว่า ‘ก็มึงไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว มีแต่ปืนใหญ่ของมึงคนละกระบอกติดตัวไปเท่านั้น ฮ่าๆๆ’

ผมกับไอ้เหมียวหัวเราะแกล้งยั่วเพื่อนย้งกับเพื่อนมิตรเพื่อให้คลายเครียดในยามคับขัน

แต่ดูมันสองคนจะไม่ค่อยขำเท่าไหร่ ผมก็บอกเพื่อนว่า ‘ไม่ต้องห่วง กูกับไอ้เหมียวจะพามึงสองคนไปให้ถึงภูล่องมาดให้ได้ มึงตามกูสองคนให้ดีก็แล้วกัน ระวังตัวและโชคดีนะโว้ยเพื่อน แล้วมึงอย่าลืมนะโว้ย คืนนี้ก่อนสองทุ่ม ล้างลำกล้องปืนของมึงตามแผนที่กูบอกด้วย’ ไอ้ย้งบอก ‘กูไม่ลืมแน่นอน’

แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไปหน่วยใครหน่วยมันเพื่อเตรียมการถอนตัวในคืนนั้น

สถานการณ์ในช่วงบ่ายหลังที่พวกเราเลิกประชุมแล้ว ทุกอย่างที่บ้านนายังเงียบสงบ ไม่มีการปฏิบัติใดๆ ทั้งของฝ่ายเราและข้าศึก”

“ทุกอย่างเงียบสงบ”

ถอนตัว

 

5 เมษายน 2514 คือวันที่เราจะต้องถอนตัวออกจากสมรภูมิบ้านนา ผมกับลูกน้องผู้บังคับหมู่ 2 คนรีบออกจากบังเกอร์กองพันวิ่งไปจนถึงจุดที่ลงคูเรดแล้วก็รีบลงไปเพื่อเดินไปตามแนวคูเรดให้ถึงหมวดของผมให้เร็วที่สุดเพื่อประชุมชี้แจงแผนในการถอนตัวในคืนนี้ เนื่องจากว่ามีเวลาในการเตรียมการน้อย

ในจิตใจนึกถึงแต่แผนการในคืนนี้ว่าจะต้องทำอย่างไรเมื่อปะทะหรือถูกข้าศึกขัดขวาง จนมาถึงหมวดของผมจึงเรียกจ่าบุญมาบอกให้รวมทุกคนมาฟังคำชี้แจงจากผมด่วนทันที ผมเหลือลูกน้องไม่ถึง 20 คน

ชั่วครู่ทุกคนก็มารวมกันครบ 18 คน ผมรีบชี้แจงแผนการถอนตัวออกจากบ้านนาในคืนนี้ทันทีโดยไม่รั้งรอ เมื่อลูกน้องผมทราบว่าพวกเรา 18-19 คนโดยผมอาสาเป็นหน่วยนำในการถอนตัวคงนึกกันในใจ เอาอีกแล้ว…ผู้หมวดกู

ซึ่งผมรู้ใจลูกน้องทุกคนจึงรีบบอกว่า ที่อาสาเป็นหน่วยนำเพราะไม่มีใครอาสา ถ้าเราไม่อาสาก็จะไม่ได้ออกไปจากนรกแห่งนี้ ต้องนอนรอให้มันมาเหยียบหัวเราที่นี่ต่อไป จะเอาแบบนั้นไหมและไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเป็นอย่างนั้น แล้วถามว่า หรือทุกคนอยากจะอยู่ต่อไปไม่ต้องการไปให้พ้นนรกแห่งนี้

ทุกคนเงียบและเข้าใจ ผมบอกถึงเวลาเสี่ยงก็ต้องเสี่ยงเพราะยังมองเห็นทางรอดดีกว่ารอความตายอยู่อย่างนี้โดยไม่มีใครมาช่วยเราอีกแล้ว

ผมคิดว่าทุกคนเข้าใจเรื่องที่ผมอาสาและคิดว่าการวัดดวงครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วและคิดว่าทุกคนคงทำใจได้ ผมเลยบอกอีกว่าเราจะมีกำลังของกองร้อยสุรินทร์มาสมทบอีกประมาณ 30 กว่าคน รวมแล้วเป็น 1 หมวดจะเป็นหน่วยนำในการถอนตัวครั้งนี้

ถัดจากเรากับสุรินทร์จะเป็นส่วนของ บก.พันและปืนใหญ่พันเชอร์ และปิดท้ายขบวนด้วยหน่วยของ บก.ร้อย 1 BI-15 และหมวด 2 ปิดท้ายเพื่อระวังป้องกันหลังขบวนให้เรา

เราจะถอนตัวจากบ้านนาไปรวมกำลังกับ BI-14 ที่ภูล่องมาด จะเริ่มถอนตัวเวลา 2 ทุ่มตรง จุดรวมพลอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้านนาใกล้กับฐานของกองพันและฐาน บก.ร้อย 1 BI-15

เราจะถอนตัวลงทางหุบลึกริมฐาน หลังจากนี้ให้ทุกคนไปเตรียมการของตัวเองในการถอนตัว ให้นำเสบียงติดตัวไป 2-3 วัน อาวุธประจำกายและกระสุน 3-4 เบสิกโหลด สิ่งของที่ไม่จำเป็นให้ทิ้งให้หมดโดยการทำลายทิ้ง แยกส่วนฝังดิน

โดยเฉพาะอาวุธและยุทโธปกรณ์ อย่าให้ข้าศึกนำไปใช้ได้อีก

ของสะสมสมบัติต่างๆ ต้องสละทิ้งให้หมดเพื่อให้มีความคล่องตัวมากที่สุด เพราะเราเป็นหน่วยนำและเพื่อเอาชีวิตรอดไปให้ถึงภูล่องมาดให้เร็วที่สุด

ปืนกลเอ็ม 60 ไม่ต้องเอาไป ทำลายโดยการแยกชิ้นส่วนหรือฝังดิน

เอ็ม 79 ทั้งติดและไม่ติดกับเอ็ม 16 ให้รวบรวมเอาไปให้มากที่สุด รวมทั้งกระสุนด้วยเพื่อใช้เป็นกำลังยิงหลักทำลายข้าศึกเมื่อถูกขัดขวางหรือปะทะ ซึ่งผู้หมวดจะสั่งการในภายหลัง ขอให้ฟังคำสั่งและปฏิบัติโดยเร็วและจะมีกำลังของกองร้อยสุรินทร์เป็นกองหนุน

หากปะทะจะร่วมกันเข้าดำเนินกลยุทธ์และกวาดล้างข้าศึกทันที เราจะมุ่งไปสู่ภูล่องมาดโดยไม่มีการถอยหลังอย่างเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกคนจงจำไว้

ผมย้ำกับลูกน้องเดนตายของผมเพื่อให้ทุกคนเข้าใจแผนและเกิดกำลังใจมุ่งมั่นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการถอนตัวและบอกว่าถ้าเราถึงภูล่องมาดได้ พวกเราจะรอดกลับบ้านได้ทุกคนขอรับรอง

สำหรับสัญญาณบอกฝ่ายจะแจ้งให้ทราบภายหลัง ผมย้ำต่อไป…

เรื่องสำคัญ…ต่อไปนี้จนถึงเวลาถอนตัวให้ทุกคนปฏิบัติตามปกติ อย่าแสดงออกใดๆ ให้ข้าศึกรู้ว่าเราจะถอนตัวเป็นเรื่องสำคัญมาก ขอให้ทุกคนไปเตรียมการของตัวเองให้พร้อม ขอให้ยึดตรึงทุกอย่างให้แน่นอย่าให้เกิดเสียงดัง เวลาเคลื่อนที่ต้องเร็วแต่เงียบที่สุด จำไว้มีเวลาว่างก่อนมืดให้แสดงถึงการเสริมแนวป้องกันทั้งขุดดินและเสริมกระสอบทรายตลอดแนวให้จ่าบุญควบคุมในเรื่องนี้

เราต้องแสดงลวงว่าเราจะยึดอยู่ที่นี่ต่อไป อย่าลืมว่าเราอยู่ในสายตาของข้าศึกตลอดเวลาเพราะมันล้อมพวกเราอยู่ทุกสันเขา โดยเฉพาะด้านทิศใต้และทิศตะวันตก มันเห็นการปฏิบัติการของเราได้ตลอดเวลา ผมย้ำ และขอให้ทุกคนไปเตรียมการได้หลังจากนี้

มีใครมีปัญหาหรือสงสัยอะไรไหม?

ผมสังเกตดูสีหน้าลูกน้องทุกคนมีกำลังใจ มีความหวังและมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานครั้งนี้ให้สำเร็จแม้จะต้องเสี่ยงอีกครั้งก็ตาม ไม่มีใครสงสัยหรือมีปัญหาใดๆ เมื่อผมสั่งการเสร็จ

ผมรู้ใจของลูกน้องผมดีว่าทุกคนก็ไม่อยากอยู่ในนรกแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว…ไปให้พ้นได้ก็ดี”

 

ก่อน 20.00 น.เวลานัดหมาย…

“พวกเราเริ่มเดินไปตามคูจนสุดแล้วขึ้นไปข้างบนพื้นราบมุ่งสู่ขอบหน้าผาที่เป็นหุบเขาลึกด้านตะวันออกเฉียงเหนือผ่านออกไปข้างฐาน BI-15

ชั่วครู่เราก็มาถึงขอบหน้าของหุบลึก ผมหยุดกำลังระวังป้องกันรอบตัวและให้ลาดตระเวนนำ และหมู่นำไปตรวจช่องทางลงและวางตัวที่จุดที่จะลงไว้”