หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๐๑)/บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๐๑)

 

แทนที่เราจะคิดว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร อะไรคือความหมายของชีวิต อะไรคือคุณค่าของการมีชีวิต

เรากลับถามว่า เราจะอยู่อย่างไรให้นานที่สุด ทำยังไงมนุษย์จึงจะมีปริมาณมากที่สุด

แทนที่เราจะคิดเรื่องคุณภาพ เรากลับคิดเรื่องปริมาณ

เราจึงออกห่างจากยุคคลาสสิค ห่างออกไปเรื่อยๆ เหมือนโดนผลักโดยแรงชนิดหนึ่ง และแรงนี้ก็ไปในทิศทางเดียว

ยิ่งนานวัน เรายิ่งออกห่าง

สัตว์มีอายุสั้น

มนุษย์เรียกได้ว่าเป็นสัตว์อายุยืนมาก เกือบจะยืนที่สุด เทียบกับสัตว์อื่น คือเรามีอายุได้เกือบร้อยปี สัตว์เกือบทั้งหมด มีไม่ถึง อาจมียกเว้นบ้าง เช่น เต่าหรือหอยบางชนิด แต่ก็มีอายุยืนกว่าเราไม่เท่าไร

โดยรวม สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบาง

สิ่งที่มีอายุยืนกว่าคือต้นไม้ ในอีกระดับหนึ่ง กล่าวคือ เรามีต้นไม้ที่อายุยืนยาวได้เป็นถึงหลายพันปี

 

แต่ที่น่าทึ่งที่สุดยังคงเป็นแบคทีเรีย บางสายพันธุ์มีอายุยืนได้หลายหมื่นปี แบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถือเป็นที่สุดในทุกมิติ มันอยู่ได้ในที่ร้อนที่สุด หรือเย็นที่สุด มันอยู่ได้แม้ในสุญญากาศ หรือว่าในกาลเวลา มันอยู่ได้ยาวนาน

มันจึงเป็นเจ้าจักรวาลในแง่ปริมาณ อย่างไร้สิ่งใดจะเปรียบปานได้

หากมนุษย์อยากเอาดีในทางปริมาณ เราไม่มีทางเทียบแบคทีเรียได้เลย เราจะเป็นเจ้าจักรวาลได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าจักรวาลมีอยู่แล้ว

หากจะเปรียบเทียบ มีเพียงความคิดในเชิงคุณภาพเท่านั้น ที่เราจะเอาชนะแบคทีเรียได้

มนุษย์หนึ่งคน จึงอาจซับซ้อน ลุ่มลึก กว้างไกล เราไม่ได้อยู่แค่อยู่ ไม่ได้อยู่แค่อยากอยู่นาน ไม่ได้อยู่แค่ว่าจะรักษายีนของเราให้นานที่สุด เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น แบคทีเรียรักษายีนของตัวเองได้นานเป็นกัปกัลป์

มันอยู่ได้นานเกือบเท่าอายุเอกภพ ความสามารถในการรักษายีนตัวเอง ส่งต่อยีนตัวเอง มันคือผู้ชำนาญตัวจริง

มนุษย์ต้องตัดความคิดที่จะอยู่ให้นานที่สุด หรือมากที่สุดออกไปก่อน เราจึงจะสงบ และคิดได้ดีกว่าเดิม

 

เราต้องเริ่มด้วยคำว่า มนุษย์มีจำนวนที่สิ้นสุด

Human is finite.

เรามักจะคิด จะจินตนาการเลยเถิด เราชอบคิดว่า ตัวเราไม่สิ้นสุด

Human is infinite.

มองดูอดีตจวบจนปัจจุบัน เราจะมองเห็นจำนวนสิ้นสุดของมนุษย์ ต่อให้เราคิดไกลไปถึงอนาคตถึงแสนปี หรือนับตั้งแต่ก่อนมีประวัติศาสตร์ วันเริ่มก่อกำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นมา เรามีจำนวนจำกัด จะเป็นกี่แสนล้านคนก็ตาม มันจะแตะเพดาน หยุดกึก ไม่ได้มีมากกว่านั้น

หากมนุษย์มีดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณของมนุษย์ก็มีจำนวนจำกัด นับได้ หนึ่งแสนล้านล้านดวง สองแสนล้านล้านดวง

๑๐

เรามองไม่เห็นอนาคต ด้วยเหตุนี้ เราจึงชอบคิดเหมือนหนึ่งว่า เรามีจำนวนไม่จำกัด เพราะเราไม่รู้อนาคตนั่นเอง ที่จริง ไม่ต้องคิดมากเลย เพราะทุกชีวิตต้องสูญพันธุ์ในที่สุด ฉันไม่รู้ว่ามนุษย์จะอยู่ต่อได้อีกนานเท่าไร แต่มันต้องสูญพันธุ์แน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว

๑๑

ฉันส่องกระจก สังเกตว่าฟันของฉันสึกหรอไปมาก มันเริ่มหดเล็กลง สั้นลง มันเป็นธรรมดา คิดถึงคนมีอายุเก้าสิบปี มีกี่คนที่ยังมีฟันของตัวเอง ส่วนใหญ่ก็ใส่ฟันปลอมกันทั้งนั้น เพราะฟันจะสึกหรอ

๑๒

คิดถึงช้าง พวกมันเป็นสัตว์ที่ต้องตาย เวลาฟันสึก ฟันของช้างจะสึกเร็ว ด้วยเพราะการขบเคี้ยวของช้าง ทำงานหนักมาก และเวลาฟันของมันสึกหรอ ก็จะไม่มีหมอฟันมาช่วยใส่ฟันปลอมให้ ดังนั้น พวกมันจะเสียชีวิต เพราะอดตาย

ช้างเสียชีวิตไปแล้ว แต่มนุษย์ยังอยู่ต่อได้อีกหน่อย ด้วยเราจะใส่ฟันปลอม

 

๑๓

แต่สิ่งที่น่าหนักใจยิ่งกว่า คือสมองของฉันกำลังเสื่อม มันค่อยๆ เสื่อมทีละน้อย เหมือนฟัน แต่ยังไม่มีสมองเทียมมาใส่ให้ฉัน นี้คือการดับสลายที่ไร้ทางออก ทุกวันนี้ เวลาคิดปัญหายากๆ สมองของฉันมีอาการขาดผึง เหมือนไฟดับไปเฉยๆ ฉันตกอยู่ในความมืด คิดอะไรไม่ออก สมองของฉันทำงานไม่เหมือนเดิม

๑๔

เพราะมันเป็นสังขาร มันจึงเสื่อมสลาย

ฉันแก้ปัญหาฟันกับสมองไม่ได้ ต้องปล่อยให้มันเสื่อมไปตามวัย มันไปพร้อมกับกล้ามเนื้อและกระดูกในร่างของฉัน

๑๕

ไม่กี่ปีก่อนมานี่เอง ฉันพบว่ากระดูกสันหลังท่อนที่เก้าของฉันเสื่อม มันทำให้วันหนึ่ง ตื่นขึ้นมา พบว่าแขนซ้ายของฉันปวดมาก เหมือนนอนทับเส้น จากการไปสแกนกระดูกสันหลังของฉันจึงพบสาเหตุ และพบว่ากระดูกท่อนนี้มีเส้นประสาทต่อไปยังแขนสองข้างของฉัน

เมื่อมันเป็นความเสื่อมก็แก้ยาก ฉันไม่อยากกินยา และยาก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาโดยตรง ฉันเพียงใช้ความละเอียดมากขึ้นในการนอน และฝึกท่าบริหารกายมากขึ้น และมันก็ดีขึ้น จนฉันเกือบลืมไปแล้ว

๑๖

แต่ฉันรู้สึกว่าแขนของฉันกำลังตายอย่างช้าๆ กระดูกสันหลังของฉันกำลังตาย ซึ่งเป็นความธรรมดาอย่างหนึ่ง

 

๑๗

ฉันเคยอ่านนิยายกำลังภายในเรื่องหนึ่ง มีตัวละครตัวหนึ่ง เขาเป็นหนึ่งในสี่จอมยุทธ์ผู้ทรงพลังฝีมือสูงส่งฝ่ายธรรมะ

ทั้งสี่คนนี้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แต่อยู่มาวันหนึ่ง เขาเจอเหตุการณ์สะเทือนใจติดต่อกันถึงสามเรื่อง มันทำให้เขากลับกลายเป็นคนกลัวตาย ต่ำช้า เหมือนหนึ่งว่านี่คือธาตุแท้ของเขา ที่ถูกปกปิดมาช้านาน เพียงแต่แล้ววันหนึ่ง มันก็ถูกเปิดออกมา เหมือนเขื่อนแตก

เหตุการณ์วันนั้น เกี่ยวเนื่องกับพี่น้องร่วมสาบานสามคนของเขา ที่ถึงแก่ความตายอย่างน่าทุเรศ และน่าสะพรึงกลัว ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขา

เขาทำใจไม่ได้ พวกเขาตายทีละคน โดนเข้าสามครั้งในวันเดียว

เขากลายเป็นใครอีกคนหนึ่งไปเลย

๑๘

มนุษย์เราไม่รู้หรอกว่าธาตุแท้ของเขาเป็นยังไง จนกว่าจะเจอบทพิสูจน์ ในยามคับขัน บางคนอาจจะนิ่งสงบ กล้าหาญ แม้แต่เจ้าตัวก็ไม่รู้สึกตน ว่าตัวเองจะนิ่งได้ขนาดนี้

บางคนเป็นไปได้ดั่งอุดมการณ์ของตัวเอง แต่บางคนอาจพลิกล็อก กลายเป็นตรงกันข้าม ซึ่งคนที่รู้จักเขาดีก็คิดไม่ถึง ไม่มีใครรู้ แม้แต่ตัวเอง ที่ยามปกติควบคุมตัวเองได้ ทำไมกลับกลายเป็นคนขลาด

๑๙

ชีวิตลี้ลับเพราะเหตุนี้ เรายังต้องผ่านบทพิสูจน์สุดท้ายในวันตายของเรา