วาง “ทายาท” “พี่น้อง 3 ป.”/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

วาง “ทายาท” พี่น้อง 3 ป.”

 

สื่อกระแสหลักหลายสำนัก รายงานในทิศทางเดียวกันว่า ก่อนที่ “พลังประชารัฐ” จะร่อนการ์ดเชิญ “พรรคร่วม” ปาร์ตี้การเมือง พบปะสังสรรค์ที่เก่าเวลาเดิม สโมสรสนามกอล์ฟราชพฤกษ์ หรือ “นอร์ธปาร์ค” ถนนวิภาวดีรังสิต ในค่ำคืนวันที่ 26 พฤศิกายน 2564 นั้นน่ะ

“พี่น้อง 3 ป.” อันประกอบด้วย “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้า พปชร. และ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

นัด “จูบปาก” …จูจุ๊บ ปิ๊งกันลั่นเปรี้ยงกันก่อนเรียบร้อยแล้ว ที่บ้านป่ารอยต่อฯ ถ้ำของ “พี่ใหญ่” ลบภาพรอยร้าวฉานของ “พี่น้อง 3 ป.” ที่ตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ได้ดีระดับหนึ่ง

จบข่าวกันแบบหยวนๆ อวยๆ แต่มิต่างอะไรกับ “ตบหัวบนศาลา มาขอขมาที่บ้าน”

สรุป “พี่ใหญ่” เสียสละ ไม่อยากเห็น 3 พี่น้องอวสานลงด้วยการหักหลัง บั้นปลาย ต้องตายไม่เผา เงาไม่เหยียบ อีหรอบนี้ วินวิน คงคามีแห้งเหือด แต่สายเลือดไม่เหือดหาย ว่าเข้าไปนั่น

มีข่าวคลุกวงในระบุด้วยว่า การนัดเคลียร์ใจเกี้ยเซียะ ยุติศึกของ 3 ป. เนื้อนาบุญยังแผ่อานิสงส์ถึง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาฯ พปชร. ทุกสงครามมีจุดจบ “บิ๊กตู่” ถอยหนึ่งก้าว ปัญหาที่แล้วมาให้อภัย เจ๊ากันไป

ขณะที่ “พี่ป้อม” คอนเฟิร์ม จะให้ “ผู้กองธรรมนัส” คุมเกมในสภาต่อไป และรับประกันซ่อมฟรีว่ากฎหมายสำคัญทุกฉบับที่จะเข้าพิจารณา เสนอโดยรัฐบาล ลื่นไหลไม่มีปัญหา จึงเป็นที่ไปที่มาของงานกระชับมิตรพรรคร่วมในวันที่ 26 พฤศจิกายน ตามมาด้วย

“ร.อ.ธรรมนัส” หลัง “พล.อ.ประยุทธ์” ทำปืนลั่นไส้แตกไส้แตน แปรสภาพเป็นปรปักษ์ ศัตรูคนสำคัญใน พปชร. จะฆ่าแกงกันให้ตายกันไปข้างหนึ่งกันหลายครั้ง วันนี้ศึกสงบ สงครามยุติ ความวุ่นวายปั่นป่วน เป็นอันหมดห่วงไป

แต่ทั้งหมด ตามรายงานข่าว จะจริงเท็จประการใดไม่รู้ ทราบแต่ว่า…การถ่ายรูปร่วมกัน มีภาพถ่ายอยู่ด้วยกัน ไม่ได้หมายความว่า ต้องรู้เห็นเป็นใจซึ่งกันและกัน อาจจะไม่รู้จักมักคุ้นกันก็ได้ เช่นเดียวกับการตกปากรับคำ ประสานใจของ “พี่น้อง 3 ป.” ก็อาจจะรับประกันอะไรไม่ได้… มีเรื่องกดดัน รับปากกันไปงั้นๆ

เพราะโดยสภาพที่ปรากฏมันบ่งบอกว่า รอยร้าวใน พปชร. “มิตรกลายเป็นศัตรู” กันแล้ว ยากแก่การประสาน พี่น้องที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายาวนาน รู้ไส้รู้พุง กุมความลับซึ่งกันและกันมากมาย มันยกระดับเกินกว่าจะพูดภาษาดอกไม้กันรู้เรื่อง

 

ไม่ต้องอะไรอื่นมาก แค่การจัดแถวใน พปชร.ระหว่าง “ป.ป้อม-ประวิตร” กับ “ป.ประยุทธ์” ต่างชงกันละคนสูตร

แถวที่ “พี่ป้อม” จัดวาง หลังจาก “ก๊วน 4 ช.” ขุมกำลังสำคัญ พากันเดินสะดุดปังตอ จอดป้าย ตายหยังเขียดทีละรายสองราย

“พล.อ.ประวิตร” ดึงลูกน้องเก่าที่เกษียณจากกองทัพมา “เสริมแกร่ง” เริ่มตั้งแต่ “พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก คู่ชิง ผบ.ทบ.ของ “บิ๊กตู่” ในอดีต มานั่งตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พปชร.

“บิ๊กน้อย” แม้จะมือใหม่หัดขับถนนสายการเมือง แต่ด้วยสายสัมพันธ์อันใกล้ชิดลึกซึ้งกับ “ผู้กองธรรมนัส” มายาวนาน อนุเคราะห์ต่อกันมาตลอด คอยเป็นพี่เลี้ยงจึงเรียนรู้โลกใหม่ได้รวดเร็ว

และกำลังดึงคนดีมีชาติตระกูลอีกหลายคนมาทดแทนในสัดส่วนที่ชำรุดสึกหรอไป ที่อยู่ในโผ อาทิ “พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ” อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมที่เพิ่งเกษียณอายุราชการมาหมาดๆ มาร่วมทีมยุทธศาสตร์พรรค ผนึกทีมเดียวกับ “พล.อ.วิชญ์”

นอกจากนั้นแล้ว “พี่ป้อม” ผู้มากบารมี กำลังเจรจาต้าอ้วย ทาบ “ตู่เล็ก-พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา” ที่เส้นทางเดินในอดีตหลุดเฟรมออกจากแม่ทัพบกไปอย่างเฉียดฉิว ก็มาเสริมใยเหล็กอีกคน คาดว่าน่าจะลงตัวในไม่ช้าไม่นาน

ทั้งหลายทั้งปวง บ่งบอกให้ทราบว่า “พี่ป้อม” แม้อายุขัยจะก้าวเข้าสู่วัยชรา สังขารอันไม่เที่ยงเริ่มชำรุดทรุดโทรมเต็มประดาแดมากแล้ว แต่ยังไม่วางมือทางการเมือง หัวเด็ดตีนขาด ขอคุมทัพจัดแถว พปชร.ไปชั่วกัปชั่วกัลป์ นานเท่านาน นิจนิรันดร

ขอคุมเกมเองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทุกประการ แม้แต่ “นายกฯ บัญชีชื่อ” ซึ่งมีข่าวมาตลอดว่า “พี่ป้อม” ใส่ชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นั่งแท่นคนที่ 1 เหมือนเก่าก็จริง แต่แตกต่างจากบัญชีชื่อเมื่อมี 2562 มีนายกฯ สำรอง คนที่ 2 และ 3 ไว้กันเหนียว กรณีมีอุบัติเหตุ

ขณะที่ “บิ๊กตู่” ก็เบาซะเมื่อไหร่ ดูตามหน้าเสื่อโอนอ่อนผ่อนตาม “พี่ป้อม” ในทุกเงื่อนไข แต่ก็มี “ติ่ง” ติดปลายนวม เมื่ออีกฝ่ายกระหยิ่มยิ้มย่อง เกิดอาการตายใจ ช่างเป็นสุขเสียนี่กระไรแล้ว

ก็จะพ่วงหมายเหตุ อาทิ ยอมให้ “บิ๊กป้อม” คุม พปชร. แต่ผลักดัน “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีโดยตำแหน่ง เข้ามาเสียบนำร่องในตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และกับชงไอเดีย ปรับโครงสร้าง วางยุทธศาสตร์พรรค พปชร.ใหม่ กระจายอำนาจให้ ส.ส.ภาคเลือกหัวหน้ากันเอง และให้รัฐมนตรีภาคไหนให้ดูแลภาคนั้น เพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง

ลำดับถัดไป เมื่อลมการเมืองนิ่งสักระยะ “พล.อ.ประยุทธ์” จะปรับ ครม.ทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ออกแรงดัน “พีระพันธุ์” นั่งระนาบว่าการกระทรวงสำคัญ เป็นบันไดอีกขั้น

เมื่อ”พีระพันธุ์” เติบโตเข้มแข็งทั้งในรัฐบาลและใน พปชร. จะขยับหมากอีกตัว ผลักดัน “ฉัตรชัย พรหมเลิศ” อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้าไปเสริมทัพใน พปชร.

ก๊อกสุดท้ายจะมีย่างก้าวสำคัญ “พล.อ.ประยุทธ์” จะมีเซอร์ไพรส์ให้คอการเมืองครางฮือ ร้องอั้ยย่ะ อุ๊ยต๊ะ ปล่อยม้าดีออกจากซอง คือ “พล.อ.” คนดังนอกราชการ เข้ามาร่วมวงไพบูลย์บนถนนสายการเมือง

เคียงบ่าเคียงไหล่กับ “พีระพันธุ์-ปลัดฉิ่ง” และ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” อดีต ผบ.ตร. ที่ถอนสมอจากผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.

“สี่เกลอ” จะเป็น “ทายาท” เจเนอเรชั่นต่อจาก “พี่น้อง 3 ป.”

ไหวหรือไม่ไหว รอลุ้นกันดูซิครับ