ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 พฤศจิกายน 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | คลุกวงใน |
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
กล้ามหน้าท้องสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ?
แม้ในชีวิตประจำวันหน้าท้องไม่ใช่ส่วนของร่างกายที่จะเปิดให้คนอื่นเห็นเป็นประจำ แต่กล้ามท้องหรือที่เรียกว่า Abs หรือ Six Packs เป็นกล้ามเนื้อส่วนแรกๆ ของร่างกายที่คนเข้าฟิตเนส คลับตั้งเป้าหมายสร้างให้สำเร็จ
การจะมีกล้ามท้องได้นั้น ต้องออกกำลังกายควบคู่ไปกับการคุมอาหาร กำจัดไขมันในร่างกายให้เหลือ 10% หรือต่ำกว่า
เพราะหากยังมีไขมันหนา แม้จะซิตอัพวันละหลายร้อยหลายพันครั้งก็ยังไม่เห็นกล้ามหน้าท้องเพราะถูกไขมันปิด
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีการทำโพลสำรวจที่น่าสนใจ จัดทำโดยสำนักวิจัย OnePoll สถาบันวิจัยด้านการตลาดที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ ทำโพลสำรวจผู้ชายอเมริกันจำนวน 2,000 คน ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ถึงเรื่องความอยากมี Six Packs ว่ายอมสละอะไรเพื่อให้มี Six Packs
ผลออกมาน่าตกใจมาก
37% ของผู้ชายอเมริกัน หรือ 1 ใน 3 บอกว่าจะเลือกไม่ดูอเมริกันฟุตบอลเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อแลกกับการมี Six Packs
25% ของผู้ชายอเมริกัน เลือกที่จะไม่กุ๊กกิ๊กกับใครเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อแลกกับการมีพุงที่แบนราบ
37% ของผู้ชายอเมริกันบอกว่า ช่วงที่มีฤดูกาลแข่งขันอเมริกันฟุตบอล NFL ระหว่างเดือนกันยายนถึงมกราคม ซึ่งกินเวลา 5 เดือน เป็นช่วงที่น้ำหนักตัวขึ้น
53% ของผู้ชายอเมริกันบอกว่า ช่วง 5 เดือนที่ดูอเมริกันฟุตบอล น้ำหนักขึ้นอย่างน้อย 10 ปอนด์ (4.5 กิโลกรัม)
39% ของผู้ชายอเมริกันบอกว่า พุงเป็นสิ่งที่อยากเปลี่ยนแปลงที่สุดในร่างกายตัวเอง
43% ของผู้ชายอเมริกันเห็นว่า สุขภาพกายและใจนั้นสำคัญพอๆ กับความมั่งมี และการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
30% ของผู้ชายอเมริกันบอกว่า ถ้าให้เลือกระหว่างได้รับการเลื่อนตำแหน่ง กับการลดน้ำหนักได้ 20 ปอนด์ (9 กิโลกรัม) ขอเลือกลดน้ำหนักสำเร็จ
สาเหุตที่ผู้ชายอเมริกันโทษอเมริกันฟุตบอลว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวขึ้น เพราะทุกวันอาทิตย์ของฤดูกาลแข่งขัน มีการถ่ายทอดอเมริกันฟุตบอลตั้งแต่เช้ายันค่ำ ทำให้นั่งเชียร์หน้าจอทีวีไป ทั้งกินทั้งดื่มไป ไม่หยุดปาก
นอกจากนี้ ผู้ชายอเมริกัน 68% ยังโทษโซเชียลมีเดีย ว่าในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา สร้างความกดดันให้กับผู้ชาย สร้างมาตรฐานรูปร่างที่เป๊ะเกินจริง ทำให้ 20% ของผู้ชายอเมริกันบอกว่า เริ่มสูญเสียความมั่นใจในรูปร่างตัวเองเมื่ออายุเข้าวัย 30 ต้นๆ
50% ของผู้ชายอเมริกันบอกว่า รู้สึกไม่มั่นใจเวลาไปออกเดตตอนอายุเกิน 30 ปีไปแล้ว เพราะไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาตัวเอง
47% ของผู้ชายอเมริกันรู้สึกกังวลว่าคนรักจะมองว่ารูปร่างหน้าตาดึงดูดน้อยลงกว่าแต่ก่อน
46% บอกว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา น้ำหนักขึ้นอย่างน้อย 21 ปอนด์ (9.5 กิโลกรัม)
50% ของผู้ชายอเมริกันเห็นว่า การลดน้ำหนักจะช่วยให้รู้สึกดีกับตัวเองขึ้น
45% เห็นว่า หากลดน้ำหนักได้ 11 ปอนด์ (5 กิโลกรัม) ขึ้นไป จะช่วยเรียกความมั่นใจกลับมา
สิ่งสำคัญ 5 ประการที่ผู้ชายอเมริกันเห็นว่า จะช่วยให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น คือ ออกกำลังกายมากขึ้น 53%, ลดน้ำหนัก 51%, เลิกสูบบุหรี่ 31%, พัฒนาชีวิตรัก 24% และเปลี่ยนงาน 23%
การออกกำลังกายรักษารูปร่างเป็นสิ่งดี แต่การหมกมุ่นกับสร้างกล้ามมากเกินไปอาจกลายเป็นปัญหาทางจิตที่เรียกว่า Muscle Dysmorphia (มัสเซิล ดิสมอร์เฟีย) คือไม่พอใจในรูปร่างตัวเอง คิดว่าตัวเองตัวเล็กไป กล้ามใหญ่ไม่พอ จนมีอาการเครียด ซึมเศร้า ว่ากล้ามเราไม่ใหญ่เหมือนกับนายแบบหรือคนดัง
ถ้าใครคิดแบบนี้ ต้องคิดใหม่ครับ
ต้องคิดว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกที่เราจะได้จากการออกกำลังกาย คือความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ
ส่วน Six Packs จะสร้างขึ้นมาสำเร็จหรือไม่ ให้คิดว่าเป็นผลพลอยได้