คุยกับทูต มาร์ค กูดดิ้ง

ชูประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

และลดคาร์บอนเหลือศูนย์ (ตอน 1)

 

เป็นเรื่องที่น่ายินดีเสมอที่รัฐบาลอังกฤษใจกว้างกว่าที่เคยเป็นมาเมื่อพูดถึงกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) โดยนโยบายส่งเสริมการยอมรับความแตกต่างและอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม

ล่าสุด นายมาร์ค กูดดิ้ง (Mark Gooding OBE) ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนและสหภาพยุโรป (อียู) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยคนใหม่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้ ซึ่งนับเป็นคนที่ 2 ที่เป็นคนที่รักเพศเดียวกัน โดยมารับหน้าที่ต่อจากนายไบรอัน เดวิดสัน ที่เปิดเผยต่อสาธารณชนว่าเป็น LGBTQ เช่นกัน

ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลอังกฤษเลือกชายรักร่วมเพศอย่างเปิดเผยเป็นเอกอัครราชทูตคนใหม่ประจำประเทศไทย ที่ไม่เพียงมีคุณสมบัติดีเท่านั้น แต่ด้านมนุษยสัมพันธ์ก็เป็นเลิศ และข้อสำคัญชื่นชอบประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ท่านทูตสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านภาษาสมัยใหม่ (Modern Languages) จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University) และพูดได้ถึง 6 ภาษา นอกจากภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาแม่แล้ว ยังรวมถึงภาษาไทย ภาษาจีนกลาง ฝรั่งเศส เยอรมัน และสเปน

ทั้งนี้ เป็นเพราะท่านทูตกูดดิ้งเชื่อในความสำคัญของการสื่อสารกับคนท้องถิ่นซึ่งไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ ด้วยการพูดภาษาของคนท้องถิ่นนั่นเอง

เรามาทำความรู้จักท่านทูตคนใหม่พร้อมๆ กัน

“สวัสดีครับ” นอกจากพูดภาษาไทยได้แล้วยังออกเสียงตัว ร เรือได้ชัดเจน แถมยกมือไหว้ได้สวยงามมากอีกด้วย

“ก่อนเริ่มบทบาทใหม่ในฐานะเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ผมทำงานกับกระทรวงต่างประเทศอังกฤษเป็นเวลากว่ายี่สิบปีแล้ว เคยไปประจำที่ยุโรปในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสหภาพยุโรป ซึ่งงานในต่างประเทศทั้งหมดของผมจะอยู่ในเอเชีย”

“ได้เป็นผู้ช่วยข้าหลวงใหญ่ (เทียบเท่าตำแหน่งอัครราชทูต) สำนักงานข้าหลวงใหญ่อังกฤษประจำศรีลังกาและมัลดีฟส์ ไปรับหน้าที่เอกอัครราชทูตครั้งแรก ณ ประเทศกัมพูชา และตอนนี้ ผมมีความสุขมากที่ได้กลับมาอยู่ที่ประเทศไทย”

“อันที่จริง เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยด้านภาษา ผมเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสและเยอรมันที่ศรีลังกาก่อนเป็นเวลาสองปี ดังนั้น งานแรกของผมจึงเป็นที่ศรีลังกา ก่อนที่จะเข้าทำงานที่กระทรวงต่างประเทศอังกฤษ”

“เริ่มเรียนหลักสูตรภาษาไทย เมื่อปลายปี 2019 หลังการทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการสหภาพยุโรป แต่ก็ต้องหยุดไปเมื่อปีที่แล้วเพราะโควิด และได้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการในการส่งคนกลับภูมิลำเนา (Director for Repatriation) เป็นเวลาหลายเดือน จึงได้กลับมาเรียนวิชาภาษาไทยอีกครั้ง”

 

เคล็ดลับการเรียนภาษาไทยของท่านทูต

“สำหรับคนที่พูดภาษาอังกฤษ การเรียนภาษาไทยนั้นค่อนข้างยาก โดยเฉพาะโทนเสียงและการเขียน สิ่งที่ผมพยายามทำคือ พูดและฟังให้มากที่สุด”

“ผมเป็นคนที่ชอบการวิ่ง ตอนอยู่อังกฤษผมเคยวิ่งลอนดอนมาราธอน (London Marathon) สนุกมาก มีคนมาชมและเชียร์กันมากมาย เมื่อมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ผมก็มักจะไปวิ่งหรือเดินรอบๆ สวนสาธารณะตอนเช้าตรู่ซึ่งไม่ร้อนเกินไป เช่น สวนลุมพินี ซึ่งอยู่ห่างจากสถานทูตประมาณ 3 กิโลเมตร พร้อมกับการฟังภาษาไทยจากวิทยุไปด้วย นับเป็นส่วนหนึ่งในวิธีการเรียนวิชาภาษาไทยของผม”

“สำหรับเมืองไทย ผมได้มาเยือนหลายครั้งแล้ว ครั้งแรกตอนอายุ 19 ปีในฐานะนักเรียนและแบ็กแพ็กเกอร์ ตั้งแต่นั้นมา ก็กลับมาเมืองไทยอีกหลายครั้งหลายคราเพื่อทำงานและเที่ยวส่วนตัว เพราะผมรักประเทศไทย และมีความสุขมากทุกครั้งที่ได้กลับมา”

 

 

การปฏิบัติงานในปัจจุบัน

“ก็ไม่ง่ายนัก เพราะในช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่ผมมาประจำที่นี่ มีไวรัสโคโรนาเป็นข้อจำกัด จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางไปพบปะผู้คนตามสถานที่ต่างๆ ได้มากดังที่ต้องการ แต่ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกที่และทุกคนเมื่อผมมีโอกาสได้พบเสมอ”

 

เหตุใดจึงรักประเทศไทย

“เพราะคนไทยเป็นมิตรและให้การต้อนรับเป็นอย่างดีมาก นอกจากมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจแล้ว ประเทศไทยมีความสวยงาม โดยเฉพาะในชนบทที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอันเป็นทัศนียภาพอันงดงาม”

“เหนือสิ่งอื่นใด ผมรู้สึกว่า คนอังกฤษและคนไทยมีความเคารพซึ่งกันและกัน มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันอย่างมาก และมีสายสัมพันธ์กันในครอบครัว อีกทั้งคนไทยจำนวนมากเดินทางไปอังกฤษเพื่อการศึกษา ท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจทุกปี และเช่นกัน ชาวอังกฤษมากกว่าหนึ่งล้านคนที่มาเยือนไทยทุกปี ผมจึงคิดว่าเป็นพื้นฐานที่ดีในความสัมพันธ์ต่อกัน”

 

 

 

 

ความแตกต่างระหว่างการมาเมืองไทยครั้งแรกกับครั้งนี้

“ก็ได้เห็นว่าประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมากภายในช่วงเวลาเกือบสามสิบปี ตอนที่ผมมายังไม่มีรถไฟฟ้า ไม่มีรถวิ่งกันขวักไขว่ ไม่มีตึกสูงมากมายอย่างในตอนนี้”

“การพัฒนาเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพ การทำให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี การมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา การพัฒนายังนำมาซึ่งความท้าทายในสหราชอาณาจักรและประเทศไทยด้วย เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือมลพิษทางอากาศ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เราจึงต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเหล่านั้น”

 

การทำงานในประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศก่อนหน้า

“ผมเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำกัมพูชาสองปีครึ่ง เรามีความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์เช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นความร่วมมือที่เล็กกว่าเพราะประเทศมีขนาดเล็กกว่าประเทศไทย”

“ตั้งแต่ผมมาที่นี่เป็นครั้งแรกในปี 1994 ประเทศไทยก็เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน ขนาดเศรษฐกิจของไทยใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน ประเทศไทยและอังกฤษมีโอกาสหลายอย่างที่จะร่วมมือกันมากขึ้นในอนาคต เช่น การต่อสู้กับโรคโควิด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การค้าการลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคโดยเฉพาะความมั่นคงด้านสาธารณสุข จึงเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ และน่าตื่นเต้นมากสำหรับผมที่ได้มาประจำทำงานที่นี่”

“แต่ก็อยากกลับไปเยือนกัมพูชาอีก เมื่อมีการยกเลิกข้อจำกัดการเดินทาง”

ท่านทูตเป็นนักเดินทางตัวยงได้ออกไปเผชิญโลกกว้างในต่างประเทศหลายต่อหลายแห่ง

“โดยรวมผมเคยไปมาแล้ว 130 ประเทศ โดยไปเกือบทุกประเทศในเอเชีย และไปทุกประเทศในอาเซียน”

“ทำงานที่ประเทศจีน 6 ปีสองวาระ ก็สามารถพูดภาษาจีนได้คล่องซึ่งเกิดจากการฝึกฝน ถึงกระนั้นก็ยังมีผิดพลาด การเรียนรู้ภาษาทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก ผมเรียนหลักสูตรภาษาจีน 2 ปี หลักสูตรภาษาไทย 1 ปี แต่เรื่องการเขียน ภาษาจีนนับว่ายากกว่ามาก”

“ตอนนี้กำลังเรียนภาษาไทย ผมชอบภาษาไทยเพราะชอบพูดกับคนไทย คิดว่าการเรียนภาษาท้องถิ่นทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น”

“ผมไม่อาจพูดว่ามีประเทศอื่นเหมือนประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีชื่อเสียงในด้านประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่เก่าแก่ยาวนาน คนอังกฤษที่มาเมืองไทยทุกปียังได้สนับสนุนให้ผมมาเยือนโดยบอกว่าประเทศไทยอบอุ่นและผู้คนเป็นมิตรมาก”

 

ประสบการณ์ที่มาเยือนประเทศไทยครั้งแรก

“ตอนนั้นผมท่องเที่ยวไปทั่วประเทศไทยเป็นเวลาสองเดือน การเดินทางในประเทศไทยไม่ว่าจะไปจังหวัดไหนก็ตาม มีความสะดวกเป็นอย่างมาก ผมเริ่มต้นด้วยการไปเที่ยวชายทะเลต่างๆ ตามด้วยอุทยานแห่งชาติ ทางตอนเหนือก็ได้ไปเชียงใหม่ และสุโขทัยซึ่งเป็นสถานที่ที่มหัศจรรย์มาก”

“แล้วมาท่องกรุงเทพฯ กับเพื่อนเป็นเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ ผมชอบกรุงเทพฯ มากเพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและมีสีสัน เป็นเมืองที่มีคนขายอาหารเรียงรายบนฟุตปาธริมถนน และยังได้ไปล่องเรือในคลองด้วย”

“จำได้ว่า ลองชิมอาหารไทยที่นี่เป็นครั้งแรกและชอบมาตั้งแต่วันนั้น อาหารไทยที่ผมโปรดปรานมากได้แก่ แกงกะหรี่ ผัดไทย ข้าวเหนียวมะม่วง และโดยเฉพาะผลไม้ไทยซึ่งอร่อยมากๆ อาหารไทยก็เป็นที่นิยมของคนอังกฤษ ในอังกฤษจึงมีร้านอาหารไทยมากมายหลายร้านทีเดียว”

กิจกรรมยามว่าง

“ผมชอบเล่นกีฬา ชอบวิ่ง ชอบดนตรี โดยเล่นเปียโนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และร้องเพลงด้วย ผมเป็นนักร้องในคณะนักร้องประสานเสียงวงใหญ่ ณ รอยัลอัลเบิร์ตฮอลล์ (The Royal Albert Hall) สถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก”

“อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ครั้งแรกที่ผมได้มาเยือนประเทศไทย ถือเป็นการผจญภัยในชีวิตที่มีแต่ความตื่นเต้น สนุกสนาน จึงเป็นเหตุผลที่ผมอยากกลับมา เพราะที่นี่ มีแต่เรื่องราวแห่งความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน และเก็บไว้ในความทรงจำเสมอมา”