What Hi-Fi Awards 2021/เครื่องเสียง

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

 

What Hi-Fi Awards 2021

 

ก็ตามธรรมเนียมปฏิบัติครับ ที่พอย่างเข้าไตรมาสสุดท้ายของปี สื่อแต่ละสำนักทั้งฟากยุโรปและฝั่งอเมริกา ก็เริ่มทยอยประกาศผลรางวัลผลิตภัณฑ์ที่เป็น The Best หรือไม่ก็เป็น Best Buy Winner ในความหมายที่ให้ความคุ้มค่า ของแต่ละสาขาประเภทออกมาให้ทราบกัน

และเมื่อช่วงต้นสัปดาห์แรกของไตรมาสสุดท้ายของปี นิตยสาร What Hi-Fi? UK. ที่ระยะหลังๆ จับมือกับ Sevenoaks Sound and Vision ร้านค้าปลีกอิสระจำหน่ายอุปกรณ์ระบบภาพและเสียง รายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งก่อตั้งมาร่วมครึ่งศตวรรษแล้ว ได้ประกาศรางวัลดังที่จ่าหัวเอาไว้ออกมาให้ทราบกัน

ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟังตามปกติดั่งที่ได้เคยทำมา เพราะทุกวันนี้ตลาดเครื่องเสียงในบ้านเราก็มีขายอุปกรณ์เครื่องเล่นพวกนี้เกือบจะครบทุกแบรนด์แล้วก็ว่าได้ เผื่อใครกำลังมองหาเครื่องประเภทใดอยู่ ก็พอจะใช้เป็นแนวทางได้

และก็เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา คือคงไม่นำมารายงานให้ทราบทั้งหมดทุกประเภท เพราะรางวัลได้ถูกแยกย่อยกลุ่มสินค้าเป็นประเภทต่างๆ มากถึง 26 สาขา เพื่อให้สมกับที่ได้กล่าวอ้างว่าตนเอง คือ The World”s #1 in Tech Buyer”s Guide ซึ่งครอบคลุมนานาอุปกรณ์ที่ข้องเกี่ยวในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างถ้วนทั่วทุกประเภท

กับปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 39 ของการประกาศผล มีผลิตภัณฑ์ที่เขาบอกว่าเป็น The Very Best ในสาขาต่างๆ ทั้งในส่วนของระบบเสียง ระบบภาพ ระบบโฮม ซิเนมา และอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค ชนะรางวัลนี้มากถึง 109 เครื่องด้วยกัน โดยต่างล้วนได้รับการทดสอบแล้วพบว่า ให้ประสิทธิภาพออกมาเหนือชั้นกว่าในระดับเดียวกัน ซึ่งมีทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า

(โดยกลุ่มหลังนั้นเขาใช้คำทำนองว่า “เป็นผู้ชนะซ้ำซากจำเจ” อะไรแถวๆ นั้นแหละครับ)

แต่ก่อนที่จะไปดูว่ามีเครื่องอะไร ได้รับรางวัลในสาขาใดบ้างนั้น ใคร่เรียนให้ทราบอีกครั้งว่าที่มักนำเรื่องราวซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารของสหราชอาณาจักรหัวนี้มาเล่าสู่กันฟังอยู่เนืองๆ นั้น, ก็เนื่องเพราะนิตยสารหัวนี้มักจะพูดถึงเครื่องในระบบเสียง ระบบภาพ ที่ค่อนข้างกว้าง คือว่าตั้งแต่เครื่องราคาประหยัด ไปจนถึงเครื่องระดับพรีเมียมที่มีทั้ง Hi-End และ Super Hi-End ซึ่งเป็นการกระจายข่าวสารไปยังกลุ่มคนที่ชื่นชอบในการเล่นเครื่องเสียง ตลอดจนผู้ที่นิยมการดูหนัง ฟังเพลง ได้เป็นวงกว้าง รวมทั้งการพูดถึงในเชิงวิพากษ์นั้น รับรู้ได้ว่าปราศจากอคติ หรือลำเอียงใดๆ ด้วยมักจะเน้นย้ำทั้งข้อเด่นและข้อด้อยของเครื่องที่ถูกพูดถึงให้ทราบควบคู่กันไป

เว้นแต่บางคราวที่ไม่ได้พูดถึงข้อด้อยอะไรบ้างเลยของบางเครื่อง ก็เนื่องเพราะเมื่อเห็นราคาค่าตัวแล้ว ก็พูดไม่ออกหรือเอ่ยปากติไม่ลง, อะไรทำนองนั้น

ในขณะที่นิตยสารของฝั่งอเมริกาที่ว่ากันว่าเป็นคัมภีร์ของนักเล่น (บ้านเรา) อย่าง TAS: The Absolute Sound และ Stereophile รวมทั้ง Perfect Vision แม้จะพูดถึงเครื่องต่างๆ แบบตรงไปตรงมาเช่นกันก็ตาม แต่นิตยสารกลุ่มนี้มักจะพูดถึงเครื่องระดับบนเป็นส่วนใหญ่ คือมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักเล่นพวก “เงินไม่ใช่ปัญหา” เป็นหลัก

จึงนานๆ ครั้ง เห็นอะไรน่าสนใจจริงๆ จากนิตยสารทางฝั่งนี้ เช่น บางทีลงมาเล่นกับเครื่องประเภท “ลูกชาวบ้าน” ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังบ้างเช่นกัน

กับภาพรวมของรางวัลปีล่าสุดนี้ ผู้จัดบอกว่าแบรนด์อย่าง Apple, Cambridge Audio, Naim, Rega และ Sony ล้วนเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ โดยได้รับรางวัลมากมายจากหลากหลายสาขาประเภท สินค้าใหม่ๆ ที่โดดเด่นนั้นก็มีอย่าง HT-A7000 Dolby Atmos ซึ่งเป็นลำโพงซาวด์บาร์อันทรงพลัง (เพิ่งเข้ามาบ้านเราเมื่อไม่กี่วันก่อน เปิดราคาที่ห้าหมื่นมีทอนสิบบาท – ที่เห็นในภาพนั่นแหละครับ)

กับ WF-1000XM4 ชุดหูฟังไร้สายระดับพรีเมียมที่เป็นพัฒนาการล่าสุดจากค่าย Sony ทั้งคู่ ส่วนค่าย Cambridge Audio ก็มี DacMagic 200M ซึ่งเป็น DAC : Digital-to-Analogue Converter ที่มีประสิทธิภาพสูง

รวมทั้ง AirPods Max Pro จากค่าย Apple ที่เสมือนเป็นผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับชุดหูฟังแบบไร้สาย ทั้งยังเป็นครั้งแรกของ AirPods ที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย

ส่วนผู้เข้าวินที่เป็นขาเก่าอย่าง Rega ก็ยังคงเดินหน้าคว้ารางวัลกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เช่นเดียวกับผู้ช่ำชองทางด้านการสตรีมอย่าง Naim ก็ตอกย้ำความเป็นเต้ยทางด้านนี้กับลำโพงไร้สาย อุปกรณ์สตรีมเพลง และเครื่องเล่นเพลงทั้งระบบ

ลำโพงที่ได้รับรางวัลเมื่อปีก่อน มีบางคู่ที่ยังคงได้รับความนิยมในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ได้แยกเป็นสาขาลำโพงวางพื้น กับลำโพงประกอบขาตั้ง ยินดีด้วยกับ Triangle ที่ Borea BR08 ซึ่งยอดเยี่ยมมากกับการเป็นลำโพงวางพื้นที่มีราคาต่ำกว่า 1,000 ปอนด์ รวมทั้งลำโพงจากอีกค่าย คือ Wharfedale ที่ได้รับรางวัลจาก Diamond Series มาอย่างยาวนาน และปีนี้ก็ตกเป็นของ Diamond 12.3 ในสาขาลำโพงวางพื้นเช่นเดียวกัน

ทางด้านทีวีมักจะมีใหม่ๆ เปลี่ยนหน้ากันเข้ามารับรางวัล และเป็นหมวดหมู่ที่มักจะถูกถกกันอย่างถึงพริกถึงขิงในทุกครั้ง กับรางวัลปีนี้มี 10 เครื่อง ซึ่งแบ่งปันกันไประหว่าง LG, Heisen, Sony, Samsung และ Philips

โดย Philips 48OLED806 กำชัยชนะเหนือ Sony KD-48A9 ที่คว้ารางวัลนี้เมื่อปีก่อนในฐานะทีวีระดับพรีเมียมที่ดีที่สุดในขนาดเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม OLED TV ของ Sony ก็คว้ารางวัลเดียวกันไปได้ด้วยขนาด 55 นิ้ว กับรุ่น XR-55A80J

ขณะที่ Samsung ยังคงตอกย้ำความเป็นเลิศของ “ทีวี 8K ที่ดีที่สุด” อีกครั้งกับรุ่น QE75QN900A และด้วยมาตรฐานที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในแวดวง Gaming โดยเฉพาะกับการมาถึงของ PS5 และ Xbox Series X ที่ต้องการทีวีเพื่อการนี้ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น

และนั้นเองที่ทำให้ OLED TV ของ LG คว้ารางวัล “ทีวีสำหรับการเล่นเกมที่ดีที่สุด” ไปได้ กับครั้งแรกของรางวัลในสาขานี้ด้วยรุ่น OLED65C1

ทางด้านการให้บริการเกี่ยวกับวิดีโอ สตรีมมิ่ง ที่มีการแข่งขันกันสูง และถูก Netflix ครอบงำด้วยการยึดตลาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีความพยายามทั้งของ Amazon และ Apple เข้ามาแข่งขันด้วยอย่างหนักนั้น พบว่าการปรากฏตัวขึ้นของ Disney+ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะมีคอนเทนต์และรูปแบบรายการให้เลือกมากกว่า ซึ่งอุปกรณ์ AV ในปัจจุบันล้วนมีประสิทธิภาพสูงสามารถรองรับเนื้อหาสาระคุณภาพของค่ายนี้ได้เป็นอย่างดี

ในด้านผู้ให้บริการเสียงเพลงผ่านการสตรีมนั้น หาก Spotifi Hi-Fi เปิดตัวได้ทันเวลา และได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าคุ้มค่า เราก็อาจจะมีผู้ให้บริการสตรีมเพลงรายใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพอีกราย แต่ปีนี้ Tidal ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีอีกครั้ง และยังเป็นทางเลือกที่ดีของบรรดาออดิโอไฟล์ โดยได้เสริมความแข็งแกร่งผ่านข้อเสนอที่น่าสนใจในรอบปีที่ผ่านมาด้วย Sopotifi Connect พร้อมได้รับการสนับสนุนจากฮาร์ดแวร์ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

ครับ, ทั้งหมดก็เป็นภาพรวมของรางวัลปีนี้ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ชิ้นไหน แบรนด์ใด ได้รับรางวัลในสาขาอะไรบ้าง เที่ยวหน้ามาว่ากันต่อ