ก่อสร้างและที่ดิน

นาย ต.

 

บรรยากาศอสังหาฯ ดีขึ้น

 

บรรยากาศตลาดอสังหาริมทรัพย์บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมช่วงปลายเดือนตุลาคมและต้นเดือนพฤศจิกายน ถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงเวลาใดๆ ของปี 2564 ที่ผ่านมา

ผู้ประกอบการบริษัทอสังหาฯ มีความเชื่อมั่นมากขึ้น เห็นได้จากเริ่มมีการเปิดตัวโครงการใหม่กันมากขึ้น ทั้งผู้ประกอบการบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ที่มีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อยู่แล้ว ผู้ประกอบการราย

กลางและเล็กที่มั่นใจสถานการณ์ตลาด หรือแม้แต่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ทำเป็นโครงการแรกก็มีการเปิดตัว

โครงการที่เปิดตัวส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบ ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว ในระดับราคากลางบนไปจนระดับราคาสูง ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมก็ยังมีเปิดตัว แต่น้อยมาก ระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท

กิจกรรมการตลาดซึ่งเป็นภาพสะท้อนอีกอย่างหนึ่งก็คึกคักขึ้นเช่นกัน มีการใช้สื่อทั้งออนไลน์และโซเชียลมีเดีย รณรงค์แคมเปญการตลาด ส่วนใหญ่เป็นแคมเปญเพื่อขายโครงการใหม่ที่มีการเปิดตัวกันมากขึ้น

รองลงมา เป็นส่วนน้อย จะเป็นแคมเปญเพื่อขายห้องชุดสร้างเสร็จเหลือขาย ที่เป็นสต๊อกตกค้างมาก่อนหน้านี้ของบริษัทอสังหาฯ รายกลางและรายใหญ่

 

ด้านผู้สนใจซื้ออสังหาฯ ที่อยู่อาศัย การค้นหาที่อยู่บนโลกออนไลน์เดือนกันยายนที่ผ่านมา ลดน้อยลงกว่าเดือนก่อนๆ หน้านั้น สันนิษฐานว่าน่าจะเนื่องมาจากเมื่อคลายล็อกดาวน์ มีการเดินทางออกจากบ้านไปทำงาน หรือไปที่ต่างๆ มากขึ้น ไม่ได้กักตัวอยู่กับบ้านและใช้เวลาส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์ ทำให้ปริมาณกิจกรรมในโลกออนไลน์ลดลงก็เป็นได้

แต่แม้ปริมาณการค้นหาจะลดน้อยลง แต่พบว่าอัตราความสนใจจะซื้อกลับสูงขึ้น สังเกตได้จากจำนวนผู้ที่สอบถามหรือขอรายละเอียด หรือให้ชื่อที่อยู่เพื่อรับการติดต่อกลับจากสำนักงานขายเพิ่มขึ้น

คาดว่าความสนใจซื้อที่เพิ่มขึ้นน่าจะมาจากการ “อั้น” มานานหลายเดือนก่อนหน้านี้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็เลยเริ่มกระบวนการซื้อ ประการหนึ่ง

 

ประการต่อมาก็คือ การปลดล็อกมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการควบคุมอัตราส่วนเงินดาวน์ของการซื้อที่อยู่อาศัยต่างๆ ทำให้ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริง แต่เงินดาวน์ไม่เพียงพอ หรือเคยยื่นกู้ไม่ผ่าน เปลี่ยนกลับมาเป็นกำลังซื้ออีกรอบ

ความเชื่อมั่นที่ทำให้ตลาดบ้านคอนโดฯ คึกคักขึ้นมาระดับหนึ่งนี้ ยังไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับมาตรการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา เพราะมาตรการเปิดประเทศมีผลทั้งทำให้เกิดความหวังว่าจะดีขึ้น และขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมาใหม่ด้วย

ที่สำคัญตลาดที่อยู่อาศัยใหม่ปีละประมาณ 4-5 แสนล้านบาทนี้ เป็นกำลังซื้อภายในประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่ มีการขายห้องชุดให้กับชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน มียอดขายสูงสุดประมาณ 50,000 ล้านบาท/ปี

ในระยะใกล้ๆ นี้ คนจีนก็คงยังไม่ออกมาเที่ยวมาช้อป เพราะรัฐบาลเขาคงให้จีนเที่ยวจีนกระตุ้นเศรษฐกิจเขาก่อน และขณะนี้ในจีนเองบริษัทอสังหาฯ ใหญ่ๆ บางรายก็มีปัญหาผิดนัดชำระหนี้ ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนด ทำให้ผู้ซื้อ นักลงทุนรายย่อยเดือดร้อนกันจำนวนมาก น่าจะกระทบอารมณ์ซื้ออสังหาฯ ชาวจีนไม่น้อย

ตลาดอสังหาฯ ไทยเราระยะนี้ได้กำลังจากแรง “อั้น” สะสมของผู้ซื้อ ได้แรงจากการชะลอมาตรการ LTV หรือมาตรการอื่นๆ ถ้ามีมาอีก แต่หลังจากนั้นไปต้องอาศัยกำลังซื้อที่แท้จริงจากเศรษฐกิจฟื้นตัว จากรายได้ของผู้คนในระบบที่จะฟื้นขึ้น

สู้กันต่อไป รอดจากวิกฤตโควิดและเศรษฐกิจเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาได้แล้ว ข้างหน้าไม่มีอะไรน่ากลัวกว่าที่ผ่านมาหรอก จริงไหม