สถานีคิดเลขที่12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/ เก่า ใหม่ ยิ่งกว่าใหม่

สถานีคิดเลขที่12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————-

เก่า ใหม่ ยิ่งกว่าใหม่

————————-

พรรคเพื่อไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอ แนวทาง ดิ โอลด์ แมน แอนด์ เดอะอิ๊ง

ดิ โอลด์ แมน อันหมายถึง ผู้อาวุโสในพรรค ที่นำโดย นายชัยเกษม นิติสิริ

ส่วนเดอะอิงค์ ที่นอกจากหมายถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังหมายถึงตัวแทน คนรุ่นใหม่

เป็นการพยายาม ผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่

แม้ว่า จะสับสนรวนเรอย่างสูง จากกรณี 112 อันทำให้การผสมผสาน ดังกล่าวไม่ลงตัว แถมถูกมองว่า นอกจาก ไม่ได้ใจคนรุ่นใหม่ ยังติดลบในความรู้สึกอีก

ซึ่งพรรคเพื่อไทยคงต้องมีภาระกิจอันหนักหน่วงในการแก้ปัญหาความรู้สึกดังกล่าว

เพราะ เรื่อง 112 อยู่ในความสนใจ และในความรู้สึกของคนรุ่นใหม่ จำนวนมาก

จึงต้องรีบแก้ไขภาวะความสับสน และความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งภายในพรรครวมถึงในส่วนของผู้มีบารมีนอกพรรคด้วย

อย่าให้กรณี 112 เป็น”ตุ้มถ่วง” กระแสการผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่

หรือทำให้ การตื่นตัว รับกับการเปลี่ยนแปลง “เจนใหม่”เฉไฉไป

ซึ่งว่าไป ก็ไม่ใช่เพียง พรรคเพื่อไทย เท่านั้น

พรรคการเมืองทั้งหลาย คงต้องให้ความสนใจกับ “คนรุ่นใหม่” อย่างจริงจัง เข้าใจ และเปิดกว้าง

ด้วยคนรุ่นใหม่นั้น แม้จะสนใจกรณี 112 แต่ ก็ไม่ใช่ความสนใจทั้งหมด

ยังมีเรื่องอีกมากมายที่พวกเขาสนใจ

และเป็นการสนใจที่รู้กันดีว่า มีเทคโนโลยี เป็นตัวเร่ง ทำให้มีการพัฒนาไปรวดเร็วอย่างก้าวกระโดด

7ปีที่เราจมอยู่กับการรัฐประหารและสืบทอดอำนาจ เทคโนโลยี่การสื่อสารกลับก้าวรุดไปอย่างรวดเร็ว

เร็วจนฉีกสิ่งที่เราคุ้นชินให้กระจุยกระจาย

ไม่ต้องอื่นไกล ขณะที่คนรุ่นกลาง รุ่นใหญ่ ไปถึงรุ่นเก่า กำลังวิ่งไล่เทคโนโลยี่ดิจิตอล

แต่ยังมิทันเข้าใจ หรือเข้าไปอยู่ในโลกอันแท้จริงได้อย่างสมบูรณ์

ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปอีกก้าวใหญ่อีกก้าวเสียแล้ว

มีคำว่า “เมทาเวิร์ส”–เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน ถูกนำเสนอขึ้นมาให้รู้จัก

“โลกเสมือน” กำลังถูกนำมาสร้างให้เป็นคู่ขนานไปกับโลกแห่งความจริง

ซึ่งแม้วันนี้จะยังจับต้องไม่ได้มากนัก

แต่อย่างเผลอ เพราะอีกไม่นาน โลกเสมือนที่ว่าก็อาจจะถูกนำเสนอให้มาเขย่าสิ่งที่เราคุ้นชินอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

นี่จึงเป็นอัตราเร่ง”สูง”ของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น

ซึ่งพรรคการเมือง ที่จะเป็นผู้มากำหนดทิศทางของประเทศ จะต้องรับรู้ได้ไวกว่าประชาชน และจะต้องปรับตัวรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลงให้ทันการณ์

ดังนั้นทิศทางปรับตัวไปสู่คนรุ่นใหม่ โลกใหม่ และอันจะก้าวไปสู่โลกเสมือน จะต้องเกิดขึ้น

มิอาจแช่แข็ง หลีกเลี่ยง หรือ ดึงรั้งให้สังคม หยุดนิ่งอยู่กับสิ่งที่เคยอยู่ เคยเป็น ไม่ได้อีกต่อไป

หรือหากคิดเพียงว่า ความสงบเรียบร้อย หมายถึงแค่ การพยายามอนุรักษ์ หรือรักษาสิ่งต่างๆเอาไว้นั้น

บอกได้เลยว่าไม่ถูกต้อง

และยิ่งไปเหมารวมว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับกรณีที่เข้าไปแตะต้องเรื่อง 112 แล้วเกิดภาวะระส่ำระสายหรือ ต่อต้าน คัดค้าน

เป็นคำตอบว่า สังคมเลือกแล้วจะมั่นคงกับ”สิ่งเดิม” ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น

ซึ่งไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะพรรคการเมือง ซึ่งเป็นผู้คัดทางเลือกมาให้ประชาชนพิจารณา และมอบให้เป็นผู้นำทางของตนเอง

จะต้องเปิดกว้าง ไม่คับแคบ หรือหยุดนิ่ง

ภาวะ “ยิ่งกว่าใหม่” กำลังจะมาแล้ว

—————