บทความต่างประเทศ

 

‘โจ๊กเกอร์’ ในวันฮาโลวีน

กับอาการ ‘ฮิคิโคโมริ’ ในญี่ปุ่น

 

ขณะที่ทั่วโลกกำลังสนุกสนานกับคืนปล่อยผี ในวัน “ฮาโลวีน” เมื่อคืนวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น กลับต้องเจอกับเรื่อง “สยองขวัญ” อย่างแท้จริง

เวลาประมาณ 20.00 น. บนขบวนรถไฟสายเคโอะ ที่กำลังวิ่งอยู่ใกล้กับสถานโคคุเรียว มุ่งหน้าไปยังสถานีชินจูกุ ในกรุงโตเกียว เมื่อชายหนุ่มแต่งกายคล้ายกับตัวโจ๊กเกอร์ ถือมีดไล่แทงผู้คนในขบวนรถไฟขบวนหนึ่ง ก่อนจะจุดไฟเผารถไฟ ทำเอาผู้โดยสารต่างพากันวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น

ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกบันทึกเอาไว้ และมีการเผยแพร่ออกไปตามสื่อและโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว

เป็นภาพขณะที่ผู้โดยสารพากันวิ่งหนี และกรีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนจะปรากฏภาพของไฟที่ลุกไหม้ตู้โดยสารตู้หนึ่ง และผู้โดยสารพากันมุดหนีออกทางหน้าต่างของตู้รถไฟที่จอดแน่นิ่งแล้ว

นอกเหนือจากภาพของผู้โดยสารที่วิ่งหนีตายกันแล้ว ยังมีภาพของ “ผู้ก่อเหตุ” เป็นชายหนุ่มสวมแว่นตา แต่งกายในชุดเสื้อสีเขียวและม่วง เหมือนกับชุดของโจ๊กเกอร์ ที่หลังจากก่อเหตุเสร็จ เขาก็นั่งสูบบุหรี่อยู่ในตู้รถไฟที่ก่อเหตุอย่างสบายใจ โดยที่มืออีกข้างหนึ่งถือมีดที่ก่อเหตุเอาไว้ และนั่งรอเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปจับกุมตัวอย่างไม่สะทกสะท้าน

หนึ่งในผู้โดยสารที่อยู่ในที่เกิดเหตุบอกว่า ชายคนดังกล่าวฉีดพ่นน้ำบางอย่างรอบๆ ตู้รถไฟ ก่อนที่จะจุดไฟเผา

ผู้โดยสารบางคนก็คิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการแสดงเนื่องในวันฮาโลวีนเท่านั้น ก่อนที่จะเห็นชายคนดังกล่าวถือมีดยาวไล่แทงผู้คน จึงต้องรีบวิ่งหนี

 

เมื่อเหตุการณ์สิ้นสุดลง ปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 ราย ขณะที่ชายคนดังกล่าวถูกจับกุมตัว และถูกเปิดเผยชื่อคือ นายเคียวตะ ฮัตโตริ อายุ 24 ปี ที่ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “โจ๊กเกอร์” ตัวร้ายจากการ์ตูนเรื่อง “แบทแมน”

ขณะที่สำนักข่าวเอ็นเอชเค อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า เขาบอกว่าเขาอยากฆ่าใครบางคนตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่เขาลาออกจากงานที่เมืองฟูกุโอกะ และมีปัญหากับเพื่อนจนเลิกคบกันไป จนอยากจะฆ่าตัวตาย แต่ทำไม่ได้

เขาจึงตัดสินใจเร่ร่อนไปตามเมืองต่างๆ และมาถึงกรุงโตเกียว

เคียวตะเล่าว่า เขาออกจากโรงแรมที่พักในช่วงบ่ายวันที่ 31 ตุลาคม ก่อนจะขึ้นรถไฟไปแถวย่านชิบูยา ที่เต็มไปด้วยหนุ่ม-สาวที่แต่งตัวออกมาประชันกันในวันฮาโลวีน

ส่วนตัวเคียวตะเลือกที่จะก่อเหตุทำร้ายผู้คน!

และเหตุที่ทำไปก็เพราะอยากได้รับโทษประหารชีวิต และคิดว่า หากฆ่าคนได้มากกว่า 2 คน ก็น่าจะถูกตัดสินประหารชีวิต จึงได้ก่อเหตุเลียนแบบคดีไล่แทงคนบนรถไฟสายโอตะคิว ในกรุงโตเกียว ที่เพิ่งเกิดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยครั้งนั้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 คน และผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป ก่อนที่จะยอมมอบตัวในเวลาต่อมา

 

ทั้งนี้ การก่ออาชญากรรมเกิดไม่บ่อยนักในประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อเดือนสิงหาคม เพิ่งจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น และเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเช่นกัน ก็ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้น้ำกรดทำร้ายผู้คนในสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียว

โดยประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการครอบครองปืน ดังนั้น เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จึงมักจะเป็นการใช้อาวุธอื่นๆ อย่างน้ำกรด หรือมีด เป็นต้น

ซึ่งเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นลักษณะที่เกิดขึ้นนี้ มักจะมีการเชื่อมโยงไปถึงอาการที่เรียกว่า “ฮิคิโคโมริ ซินโดรม” ซึ่งเป็นความผิดปกติทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง

โดยผู้ป่วยจะตัดขาดตัวเองจากสังคมเป็นเวลานาน อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกล้มเหลว อับอายจากการตกงาน สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ทำให้ไม่อยากเข้าสังคม และปิดกั้นตัวเอง เก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องหรือในบ้าน

ผู้ที่เป็นฮิคิโคโมริ ซินโดรม จะขาดความมั่นใจในตัวเอง และกลัวการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน

รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่า มีคนที่มีอาการฮิคิโคโมริอยู่ในญี่ปุ่นมากกว่า 1 ล้านคน สาเหตุที่มีมากขนาดนั้น น่าจะมาจากสภาพสังคมของญี่ปุ่นที่มีความเข้มงวด สอนให้อดทนอดกลั้น ขาดความยืดหยุ่น จนทำให้คนที่แตกต่างหรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานของสังคม รู้สึกถูกปฏิเสธตัวตน และเหมือนไร้ที่ยืนในสังคม

แต่ตอนนี้ ทางการญี่ปุ่นก็ยังไม่ได้สรุปว่า เหตุจูงใจที่ทำให้เคียวตะก่อเหตุคืออะไร และจะเกี่ยวข้องกับอาการฮิคิโคโมริหรือไม่